สละเรือ! 5 สถานีต่อไปหากเป๊ปอำลาแมนฯซิตี้

 

เรียกได้ว่าเป็นข่าวใหญ่สะเทือนวงการลูกหนังเลยทีเดียว สำหรับบทลงโทษของ ยูฟ่า ที่ลงดาบแบน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ออกจากฟุตบอลรายการยุโรป 2 ฤดูกาล พร้อมปรับเงินอีก 30 ล้านยูโร หลังจากตรวจสอบพบว่าเรือใบสีฟ้าทำผิดกฎ “ไฟแนนเชี่ยล แฟร์ เพลย์”

 

แม้ยอดทีมจากเมืองแมนเชสเตอร์จะยังสามารถยื่นอุทธรณ์ได้อยู่ แต่ด้วยหลักฐานที่มัดแน่น จึงมีโอกาสน้อยเหลือเกินที่พวกเขาจะรอดพ้นจากความผิดดังกล่าว และถ้าเป็นเช่นนั้น สิ่งที่จะตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็คือความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ภายในสโมสร โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักเตะแกนหลักและกุนซือของทีมอย่าง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ที่อาจจะตัดสินใจอำลาถิ่น เอติฮัต สเตเดียม เพื่อตามล่าถ้วยบิ๊กเอียร์ต่อไป

 

วันนี้ เราจึงได้ยกมา 5 ตัวเลือกที่มีโอกาสจะเป็นบ้านหลังใหม่ของนายใหญ่เลือดกระทิง พร้อมวิเคราะห์ถึงความเป็นไปได้ที่เจ้าตัวจะย้ายไปคุมทีมเหล่านี้หากแยกทางกับ แมนฯ ซิตี้

 

ยูเวนตุส

 

 

ยูเวนตุส คือทีมที่ตกเป็นข่าวเชื่อมโยงกับ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า มากที่สุดในเวลานี้ และมีโอกาสสูงที่สุดที่จะเป็นสถานีต่อไปของเจ้าตัว เนื่องจากกุนซือชาวสแปนิชเคยตะลุยมาแล้วทั้ง ลาลีก้า , บุนเดสลีก้า และพรีเมียร์ลีก ฉะนั้น หากอยากได้ความท้าทายใหม่ คงไม่มีเวทีไหนจะเหมาะไปกว่า กัลโช่ เซเรียอา อีกแล้ว และถ้าไม่นับ อินเตอร์ มิลาน ที่คงไม่คิดจะเปลี่ยนผู้บัญชาการเร็วๆนี้ เบียงโคเนรี่ก็เป็นสโมสรเดียวที่ใหญ่พอจะตอบสนองความต้องการของเขาได้

 

นอกจากนี้ อีกหนึ่งปัจจัยเล็กๆที่สโมสรจากตูรินอาจดึงดูด เป๊ป ได้ นั่นก็คือการที่เจ้าตัวจะมี คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เป็นลูกทีม เพราะก่อนหน้านี้เขาเคยได้ร่วมงานกับ ลิโอเนล เมสซี่ มาแล้ว และมันคงจะเป็นอะไรที่น่าตื่นเต้นไม่น้อยถ้าได้ลองคุมซูเปอร์สตาร์แห่งยุคให้ครบทั้งสองคน

 

บาร์เซโลน่า

 

 

เป๊ป กวาร์ดิโอล่า โบกมือลาถิ่น คัมป์ นู ในปี 2012 หลังจากพา บาร์ซ่า กวาดมาแล้วทุกแชมป์บนโลกใบนี้ ซึ่งการแยกทางกับทีมในครั้งนั้นถือเป็นการจากกันด้วยดี จึงไม่มีปัญหาแน่นอนหากตำนานของสโมสรรายนี้จะกลับมานั่งเก้าอี้ที่คุ้นเคยอีกครั้ง และด้วยสถานการณ์ของทีมที่ยังเอาแน่เอานอนไม่ได้แม้จะเปลี่ยนกุนซือมาเป็น กิเก้ เซเตียน แล้ว ช่วงซัมเมอร์นี้จึงอาจจะเป็นเวลาอันเหมาะเจาะที่เจ้าตัวจะหวนกลับมากอบกู้สโมสรที่เปรียบเสมือนบ้านของตัวเอง

 

โดยเมื่อปลายปีที่แล้ว ประธานสโมสรอย่าง โจเซป มาเรีย บาโตเมว เพิ่งออกมาให้สัมภาษณ์ว่าเขาพร้อมที่จะอ้าแขนต้อนรับ เป๊ป กลับมาเสมอ ดังนั้น งานนี้ขอแค่เจ้าตัวต่อสายหาเพียงแค่กริ๊งเดียว เชื่อว่าบิ๊กบอสอาซูลกราน่าจะรีบเอาสัญญาไปให้เซ็นถึงบ้านเลยทันที

 

บาเยิร์น มิวนิค

 

 

ในช่วงเวลา 3 ฤดูกาลที่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า คุม บาเยิร์น มิวนิค เจ้าตัวสามารถนำทีมคว้าแชมป์ บุนเดสลีก้า ได้ทั้ง 3 สมัย และซิวแชมป์ เดเอฟเบ โพคาล ไปอีก 2 ครั้ง อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จเดียวที่เขาไม่อาจหยิบยื่นให้กับเสือใต้ได้ก็คือโทรฟี่ ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก และนี่อาจเป็นปมในใจให้เทรนเนอร์เชื้อสายคาตาลันกลับไปพิสูจน์ตัวเองที่เมืองเบียร์อีกครั้ง เพราะการพา บาเยิร์น ครองความยิ่งใหญ่แค่ในประเทศคงไม่ใช่เรื่องที่พิเศษอะไร

 

อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าประตูสู่ อัลลิอันซ์ อารีน่า ของ เป๊ป จะเปิดไว้เพียงแง้มๆเท่านั้น เพราะกุนซือที่ขัดตาทัพอยู่อย่าง ฮันส์-ดีเตอร์ ฟลิค พายอดทีมจากบาวาเรียบินสูงเหลือเกินในขณะนี้ และถ้าผลงานของเสือใต้ยังร้อนแรงต่อไปเรื่อยๆ ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องเปลี่ยนแม่ทัพคนใหม่ หรือถ้าพวกเขาต้องการความเปลี่ยนแปลงจริง การดึงโค้ชหนุ่มมากฝีมือและเป็นคนชาติเดียวกันอย่าง ยูเลี่ยน นาเกลส์มันน์ มากุมบังเหียนก็ดูจะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจกว่า

 

ปารีส แซงต์แชร์กแมง

 

 

อย่างที่กล่าวไปข้างต้น เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เคยผจญภัยมาแล้วทั้งในสเปน , เยอรมัน และอังกฤษ ดังนั้น จึงเหลือลีกใหญ่ของยุโรปอีกเพียง 2 แห่งที่เขายังไม่เคยสัมผัสนั่นก็คือ กัลโช่ เซเรียอา กับ ลีกเอิง และถ้าเจ้าตัวไม่ได้ลงเอยที่อิตาลี ยักษ์ใหญ่หนึ่งเดียวจากฝรั่งเศสอย่าง ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ก็เป็นช้อยส์ที่น่าสนใจหากเจ้าพ่อติกี้-ตาก้าต้องการความท้าทายใหม่ๆ

 

แต่ด้วยมาตรฐานที่ต่างกับเพื่อนร่วมลีกแบบลิบลับ ความสำเร็จของการคุม เปแอสเช จึงไม่ได้วัดที่การกวาดแชมป์ในประเทศ แต่การก้าวขึ้นไปครองบัลลังก์ยุโรปต่างหากที่เป็นความปรารถนาสูงสุดของเศรษฐีจากเมืองแฟชั่น และในใจของ เป๊ป ก็อาจจะต้องการแสดงให้เห็นว่าตัวเขาก็สามารถพาทีมอื่นที่ไม่ใช่ บาร์เซโลน่า คว้าถ้วยบิ๊กเอียร์มาประดับตู้โชว์สโมสรได้เหมือนกัน

 

ทีมชาติสเปน

 

 

แม้ในปัจจุบันทางเลือกนี้จะมีโอกาสเกิดขึ้นได้ยาก เนื่องจาก หลุยส์ เอ็นริเก้ เพิ่งเข้ามาคุมทีมชาติสเปนได้ไม่นาน แต่หากทัพลา โรฆ่าล้มเหลวกับศึก ยูโร 2020 ในช่วงหน้าร้อนนี้ ก็มีความเป็นไปได้ที่ตำแหน่งนายใหญ่ของทีมจะมีการเปลี่ยนมือ และเมื่อกวาดสายตามองไปยังกุนซือชาวสแปนิชที่มีทั้งหมด แน่นอนว่าคงไม่มีใครจะเหมาะสมไปกว่า เป๊ป กวาร์ดิโอล่า อีกแล้ว

 

และที่ผ่านมา เฮ้ดโค้ชวัย 49 ปี ก็เคยออกมายอมรับหลายครั้งถึงความฝันที่จะผันตัวไปเป็นกุนซือทีมชาติในอนาคต เพราะฉะนั้นแล้ว ก็มีโอกาสเหมือนกันที่เราจะได้เห็น เป๊ป ยืนสั่งการขุนพลกระทิงดุในศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก ที่จะเริ่มต้นขึ้นในเดือนมีนาคมปีหน้า