คาริม เบนเซม่า ยิงประตูอีกแล้ว แต่ก็เป็นแค่ลูกตีเสมอ หลัง เรอัล มาดริด โดน เชลซี นำก่อนจาก คริสเตียน พูลิซิซ
ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดแรก เรอัล มาดริด ทีมดังจากลา ลีกา สเปน ที่ผ่าน ลิเวอร์พูล มาด้วยสกอร์รวม 3-1 เปิดสนามเอสตาดิโอ ดิ สเตฟาโน่ รับการมาเยือนของ เชลซี อีกหนึ่งทีมจากพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่รอบที่แล้วชนะ ปอร์โต้ มาด้วยสกอร์รวม 2-1
เกมนี้ ซีเนอดีน ซีดาน กุนซือเจ้าบ้านยังไม่มี เซร์คิโอ รามอส ที่ยังไม่ฟิต ทำให้ปรับระบบมาเล่น 3-5-2 วาง วินิซิอุส เล่นเป็นคู่หน้ากับ คาริม เบนเซม่า ด้าน โธมัส ทูเคิ่ล นายใหญ่ของ สิงห์บลูส์ มาต่อกรด้วยระบบเดียวกัน เมสัน เมาท์ ทำเกมร่วมกับ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ และ จอร์จินโญ่ ดัน คริสเตียน พูลิซิซ เล่นคู่หน้ากับ ติโม แวร์เนอร์
เกมครึ่งแรกเป็น เชลซี ที่ทำได้ดีกว่านาที 9 เมาท์ พาบอลขึ้นมาจากกลางสนามก่อนตักไปให้ พูลิซิซ โขกตั้งมาให้ แวร์เนอร์ วิ่งมายิงจ่อๆ ในกรอบ 6 หลาไปติดขา กูร์กตัวส์ ที่เซฟได้แบบหวุดหวิด
หลังจากนั้นนาที 14 อันโตนิโอ รือดิเกอร์ วางบอลข้ามแนวรับไปให้ พูลิซิซ หลุดไปดวลกับ ติโบต์ กูร์กตัวส์ ก่อนเลี้ยงหนีแล้วยิงเข้าไปให้ทีมเยือนขึ้นนำ 1-0
แต่ มาดริด ไม่ยอมง่ายๆ นาที 29 จากบอลโยนทางซ้ายไปเสาไหล วาราน โขกชงมาหน้าประตู มิลิเตา โขกเช็กอีกทีมมาเข้าทาง เบนเซม่า ที่ใช้ศรีษะพักบอลก่อนวอลเล่ย์แบบไม่จับบอลพุ่งแรงเสยตาข่ายเข้าไป ทำให้จบ 45 นาทีแรกเสมอกัน 1-1
ครึ่งหลังทั้งสองทีมยังสู้กันสูสี แต่โอกาสลุ้นประตูมีน้อยกว่าครึ่งแรกเยอะ ทำให้สุดท้่ายไม่มีประตูเพิ่มเติม จบเกมเสมอกัน 1-1 เชลซี บุกมาเก็บอะเวย์โกล์ ก่อนไปสู้กันต่อในเลกที่สองที่สแตมฟอร์ด บริดจ์
