โคตรมันส์!สิงโตพลาดเองเจ๊าอินทรีเหล็ก 3-3 ทิ้งทวนเนชั่นส์ลีก

โคตรมันส์!สิงโตพลาดเองเจ๊าอินทรีเหล็กสุดมันส์ 3-3 ทิ้งทวนเนชั่นส์ลีก

ไค ฮาแวร์ต ทำสองประตูช่วยให้ ทัพ “อินทรีเหล็ก” ทีมชาติเยอรมนี บุกไปเสมอกับ “สิงโตคำราม” ทีมชาติอังกฤษ แบบสุดมันส์ 3-3 ในนัดสุดท้ายของศึกยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก 2022-23

โดยในเกมนี้ แกเร็ธ เซาธ์เกต กุนซือทีมชาติอังกฤษตัดชื่อของ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ออกจากทีม ยังยึดระบบการเล่น 3-4-3 เหมือนเดิม วางฟิล โฟเด้น, แฮร์รี่ เคน และราฮีม สเตอร์ลิ่ง เป็นสามแนวรุก ส่วนทีมเยือน ปรับทัพหลายตำแหน่งส่ง ดาวรุ่งอย่าง จามาล มูเซียล่า ลงเป็นตัวจริง

เกมในครึ่งเวลาแรกทั้งสองทีมผลัดกันเปิดเกมรุกเข้าใส่ การครองบอลถือว่าสูสีกัน พอมีโอกาสได้ทำประตูด้วยกันทั้งคู่ แต่ยังไม่จะแจ้งเท่าไหร่ ทำให้จบครึ่งแรกยังไม่สามารถทำอะไรกันได้เสมออยู่ 0-0

กลับมาเล่นกันต่อในครึ่งหลังเริ่มมาเพียงแค่ 5 นาที จากจังหวะความผิดพลาดของ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ ที่อยู่ดี ๆ ไปจ่ายบอลให้ จามาล มูเซียล่า ซะงั้น ก่อนจะลากจี้แล้วถูก แนวรับแมนฯยูไนเต็ด สกัดล้มลงไปผู้ตัดสินไปดู VAR และเป่าให้เป็นจุดโทษ อิลคาย กุนโดกัน สังหารเข้าไปนาทีที่ 52 เยอรมนี ขึ้นนำ 1-0

หลังจากนั้นอังกฤษเปิดเกมรุกเข้าใส่อย่างหนัก แต่ก็โดนจังหวะสวนกลับของทีมเยือนเล่นงาน เกือบจะโดนทิ้งห่างหลายครั้ง แต่จังหวะจบสกอร์ยังไม่คม

จากนั้นนาทีที่ 67 ความผิดพลาดของ แม็คไกวร์ อีกแล้วที่พาบอลตะลุยไปข้างหน้า ก่อนจะเสียบอลโดน เยอรมนี ส่วนกลับ ไค ฮาแวร์ตซ์ ตั้งป้อมปั่นด้วยซ้ายหน้ากรอบเขตโทษเสียสามเหลี่ยมอย่างสวยงาม ทำให้ เยอรมนี บุกนำอังกฤษ 2-0

อังกฤษไม่ยอมแพ้นาทีที่ 72 มาได้ประตูตีไข่แตก รีซ เจมส์ เปิดไปเสาสองเข้าทาง ลุค ชอว์ พักอกก่อนจะวอลเลย์ด้วยซ้ายบอลตกพื้นรอดขา มาร์ค-อังเดร แตร์ สเตเก้น เข้าไป เจ้าถิ่นไล่ตามมาเป็น 1-2

อีก 3 นาทีต่อมา อังกฤษ มาได้ประตูไล่ตามตีเสมอ 2-2 จากการประสานงานของตัวสำรอง บูกาโย่ ซาก้า ลากหลบแนวรับเยอรมนี ก่อนจะจ่ายให้กับ เมสัน เม้าท์ วิ่งเข้ามาปั้นด้วยขวาหน้ากรอบเขตโทษบอลเบียดเสาเข้าไปอย่างสวยงาม

นาทีที่ 82 กลายเป็น อังกฤษ ที่มาได้จุดโทษบ้าง นิโก้ ชล็อตเตอร์เบ็ค เข้าพรวดไปเหยียบ จู๊ด เบลลิ่งแฮม ผู้ตัดสินไปดู VAR ก่อนจะเป่าเป็นจุดโทษ และเป็น แฮร์รี่ เคน ที่ซัดเข้าไปไม่เหลือ ทำให้ อังกฤษ พลิกแซงนำ เยอรมนี 3-2

แต่ดีใจไม่นาน นาทีที่ 87 เยอรมนี มาได้ประตูตีเสมอ แซร์ก นาบรี้ ยิงไกลเหมือนไม่มีอะไร แต่นิค โป๊บ พลาดรับไม่อยู่เข้าตา ไค ฮาแวร์ตซ์ ซ้ำเข้าไปจ่อ ๆ ตีเสมอ 3-3

นาทีที่ 89 อังกฤษ เกือบมาประตูออกนำอีกครั้งจากจังหวะสวนกลับ แฮร์รี่ เคน ปาดเร็วให้กับ บูกาโย่ ซาก้า หลุดเดี่ยวเข้าไปยิงด้วยขวาแต่ไปติดปลายมือของ แตร์ สเตเก้น นิดเดียว

จากนั้นทั้งสองทีมไม่สามารถทำอะไรกันได้ทำให้จบเกม อังกฤษ เปิดบ้านเสมอกับ เยอรมนี ไปแบบสุดมันส์ 3-3

ส่วนผลอีกคู่ อิตาลี บุกไปเอาชนะฮังการี 2-0 ได้ประตูจาก จาโคโม่ ราสปาโดรี่ และเฟเดริโก้ ดิมาร์ก ส่งผลให้ “อัซซูรี่” ผงาดเข้ารอบตัดเชือกด้วยการเป็นแชมป์กลุ่มด้วยผลงานลงเล่น 6 เกม ชนะ 3 เสมอ 2 แพ้ 1 มี 11 คะแนน

11 ผู้เล่นตัวจริงที่ลงสนาม

อังกฤษ (3-4-3): นิค โป๊บ, จอห์น สโตนส์, เอริค ดายเออร์, แฮร์รี่ แม็คไกวร์, รีซ เจมส์, เดแคลน ไรซ์, จู๊ด เบลลิ่งแฮม, ลุค ชอว์, ฟิล โฟเด้น, แฮร์รี่ เคน และราฮีม สเตอร์ลิ่ง

เยอรมนี (4-2-3-1): มาร์ค-อังเดร แตร์ สเตเก้น, ธีโล่ เคห์เรอร์, นิคลาส ซือเล่, นิโก้ ชล็อตเตอร์เบ็ค, เดวิด รอม, โยชัว คิมมิช, อิลคาย กุนโดกัน, โยนาส ฮอฟมันน์, จามาล มูเซียล่า, เลรอย ซาเน่ และไค ฮาแวร์ตซ์