สเตฟาโน่ ปิโอลี่ : กุนซือใหม่รอสโซเนรี่ที่แฟนร้องยี้ตั้งแต่เริ่ม

 

หลังเข้ามาคุมทีมได้เพียง 7 นัด มาร์โค จามเปาโล ก็ถูก เอซี มิลาน เด้งออกจากตำแหน่งผู้จัดการทีมทันที เซ่นผลงานห่วยที่ทำได้เพียง 9 แต้ม และรั้งอันดับ 12 ในตาราง 

 

มากไปกว่านั้นคะแนนในตารางยังห่างจากโซนตกชั้นแค่ 3 แต้มเท่านั้น และแพ้ไปแล้ว 4 นัด ส่งผลให้บอร์ดบริหารของรอสโซเนรี่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงสโมสรอีกครั้ง

 

ซึ่งล่าสุดพวกเขาได้ดึง สเตฟาโน่ ปิโอลี่ กุนซือชาวอิตาเลียนวัย 53 ปี เข้ามากุมยังเหียนในถิ่น ซาน ซีโร่ โดยเซ็นสัญญาเป็นเวลา 2 ปีด้วยกัน

 

แต่ยังไม่ทันจะได้เห็นผลงาน แฟนบอลปีศาจแดงดำก็เตรียมไล่ ปิโอลี่ ออกจากตำแหน่งกุนซือซะอย่างนั้น ทั้งๆที่ยังไม่เห็นผลงานอย่างเป็นทางการเลยด้วยซ้ำ

 

ทาง UFA ARENA จึงขออาสาพาคอบอลลีกเลี่ยนหรือลีกอื่นๆไปทำความรู้จักกับ ผู้จัดการทีมคนใหม่ของเอซี มิลาน กัน รวมไปถึงสาเหตุอะไรที่ทำให้แฟนบอลถึงทำเช่นนั้นกับเขา ผ่านบทความชิ้นนี้กันครับ

 

 

ใครคือ สเตฟาโน่ ปิโอลี่?

 

 

สเตฟาโน่ ปิโอลี่ ถือเป็นกุนซือจอมพเนจรที่วนเวียนคุมทีมในลีกแดนมักกะโรนีตั้งแต่ปี 2003 ไม่ว่าจะเป็นทีมในลีกสูงสุด หรือลีกรองก็ตาม โดยงานโค้ชครั้งแรกของเขาคือการคุม โบโลญญ่า ชุดเยาวชนในปี 1999 ถึงปี 2002 ซึ่งประสบความสำเร็จพอสมควร ก่อนจะได้คุมทีมชุดใหญ่ครั้งแรกกับ ซาแลร์นิตาน่า ทีมจากเซเรียบี จากนั้นถึงโอกาสชิมลางในเซเรียอาครั้งแรกกับ ปาร์ม่า ในปี 2006

 

ในช่วงที่คุม จัลโล่บลู อยู่นั้น ปิโอลี่ ทำผลงานได้ไม่ดีเท่าไหร่ พาทีมหล่นไปอยู่โซนตกชั้น และถูกปลดในเดือนกุมภาพันธ์ ต่อจากนั้น เขาก็ย้ายไปคุมทีมระดับล่างอยู่ช่วงหนึ่งกับ โกรเซตโต้, เปียเซนซ่า และ ซาสซูโอโล่ 

 

ต่อมาในปี 2010 กุนซือชาวอิตาเลี่ยนก็กลับมารับงานในเซเรียอาอีกครั้ง โดยเริ่มที่ คิเอโว่ และ ปาแลร์โม่ ในเวลาต่อมา แต่ก็อยู่ไดเพียง 90 วันเท่านั้น (เขาเป็นคนปล่อย ฮาเวียร์ ปาสตอเร่ ให้กับปารีส แซงต์ แชร์กแมงในซัมเมอร์นั้น)

 

แต่ถึงอย่างนั้น ปิโอลี่ก็ตกงานได้ไม่งาน เมื่อได้งานคุม โบโลญญ่า ในปีเดียวกัน ซึ่งก็อยู่ในถิ่น สสตาดิโอ้ เรนาโต้ ดัลลาร่า ได้ 3 ปี ก็ย้ายไปคุมทีมลาซิโอในปี 2014 และนี่คือทีมที่เขาประสบความสำเร็จในอาชีพกุนซือมากที่สุด โดยมีดาวเด่นประจำทีมอย่าง ฟิลิปเป้ แอนเดอร์สัน และ มิโรสลาฟ โคลเซ่ ที่ยิงไปถึง 13 ประตูในลีก ช่วยให้อินทรีฟ้าขาวคว้าอันดับ 3 ในลีกมาครอง และนั่นเป็นอันดับสูงที่สุดที่ ลาซิโอ เคยทำได้ นับตั้งแต่คว้าแชมป์ลีกในฤดูกาล 1999-2000

 

 

ทว่าความสำเร็จก็อยู่ได้ไม่นาน ผลงานของทีมตกลงอย่างมากจนทำให้ ปิโอลี่ ถูกปลดในฤดูกาลต่อมา อย่างไรก็ตาม เขาก็กลับได้งานคุมทีมระดับต้นๆของลีกอย่าง อินเตอร์ มิลาน แทนที่ แฟรงค์ เดอ บัวร์ ในเดือนพฤศจิกายน ปี 2016 และก็ออกสตาร์ทงานใหม่ได้สวย หลังคว้าชัยได้ 12 จาก 16 นัดแรกในเซเรียอา แต่ 7 นัดต่อมากลับชนะใครไม่ได้เลย โดยแพ้ไปถึง 5 นัด ส่งผลให้เขาถูกตะเพิดอีกครั้ง หลังคุมทีมได้แค่ 6 เดือนเท่านั้น

 

หลังจากว่างอยู่พักหนึ่ง เขาก็กลับมายืนคุมทีมข้างสนามอีกรอบกับ ฟิออเรนติน่า แต่ตลอด 2 ปีที่อยู่กับทีมม่วงมหากาฬก็ไม่ได้สร้างช่วงเวลาที่น่าจดจำให้แฟนบอลวิโอล่าได้เชยชมเท่าไหร่ ก่อนจะลาออกไปในเดือนเมษายนที่ผ่านมา

 

สำหรับสไตล์การทำทีมของ ปิโอลี่ ถือว่าเขาเป็นกุนซือที่ทำทีมได้น่าติดตามอยู่ไม่น้อย โดยเน้นระบบ 4-3-3 ซึ่งดูเหมาะกับนักเตะเอซี มิลาน ชุดปัจจุบันมากๆ ยิ่งไปกว่านั้น เขาชอบให้ลูกทีมกดดันคู่แข่งจากแดนหน้า และนั่นน่าจะช่วยให้ปรับปรุงให้ รอสโซเนรี่ เล่นได้รวดเร็วและดุดันมากขึ้น 

 

นอกจากนี้ การดันเด็กดาวรุ่งจากชุดเยาวชนขึ้นมาโชว์ฝีเท้าในชุดใหญ่ก็เป็นสิ่งที่กุนซือวัย 53 ปีทำมาตลอดด้วย

 

 

 แล้วทำไมถึง #PioliOut?

 

 

อย่างไรก็ตาม แม้จะปลด จามเปาโล ออกไปแล้ว ทางด้านแฟนบอลปีศาจแดงดำก็ดูไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่กับการแต่งตั้ง ปิโอลี่ จริงๆต้องบอกว่าพวกเขาโวยวายกันตั้งแต่ยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการด้วยซ้ำผ่านโลกออนไลน์ ซึ่งคำว่า #PioliOut ติดเทรนด์อันดับหนึ่งของทวิตเตอร์ในอิตาลีอยู่พักใหญ่เลย

 

เรื่องของเขาก็ต่างกับ กุนซือคนก่อนอย่าง เจนนาโร่ กัตตูโซ่ ตำนานของสโมสรอย่างมาก ซึ่งเข้ามารับงานนี้ตั้งแต่ปี 2017 จนถึงเดือนพฤษภาคมปีนี้ และพามิลานกลับไปเล่นฟุตบอลยุโรปอีกครั้ง (แต่ต้องถอนตัวไปนปีนี้เนื่องจากละเมิดกฏการเงินของยูฟ่า) แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ตัดสินใจลาออก เนื่องจากความเครียดและความกดดันที่มหาศาลในงานนี้ 

 

นั่นยิ่งทำให้ ปิโอลี่ ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับทีมมาก่อน และยังไม่เคยแสดงฝีมือในด้านออกมาให้ใครๆได้เห็นแบบจริงๆจังๆซักที ดูท่าจะลำบากกับงานชิ้นใหญ่อยู่ไม่น้อยย จริงอยู่ที่ตอนคุมลาซิโอ เขาทำได้ดีและสมควรได้รับการยกย่องมากแค่ไหน แต่ก็อย่างที่เห็นกันว่าความยอดเยี่ยมของเขามีระยะเวลาแสนสั้นเหลือเกิน

 

การเล่นด้านกว้างและบีบบอลสูงใส่คู่แข่งถือเป็นไอเดียที่ดี และแผนการเล่น 4-3-3 ก็ดูเข้ากับนักเตะในทีมตอนนี้ด แต่ทั้งหมดที่กล่าวมามันก็อยู่แค่เกณฑ์กลางๆค่อนไปทางดีเท่านั้น ไม่ใช่ดีมาก และสโมสรที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่อย่าง มิลาน ก็ควรตั้งเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่เข้าไว้

 

 

ซึ่งจริงๆแล้ว พวกเขาก็มีเป้าหมายตามที่ว่ามา แต่นั่นกลับเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้ สาวกรอสโซเนรี่ไม่พอใจกับการแต่งตั้งปิโอลี่ ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ ทีมมีข่าวลือกกับ ลูเซียโน่ สปัลเล็ตติ ที่แม้จะขึ้นชื่อเรื่องอารมณ์ร้อน แต่ฝีมือของเขาก็จัดว่ายอดเยี่ยม แต่ท้ายที่สุด บอร์ดกลับเลือกลงเอยกับ ปิโอลี่ ที่ไม่มีถ้วยแชมป์หรือความสำเร็จเป็นรูปธรรมการันตี ซะอย่างนั้น

 

กุนซือจอมพเนจรอาจจะมีฝีมือที่พอใช้ได้ แต่ผลงานในแต่ละสโมสรก็บ่งบอกอยู่ว่าคงไม่ไหวแน่ๆ 

 

ส่วนปัญหาที่ 2 ของปิโอลี่ (รวมถึงมิลานด้วย) คือ เขาไม่เคยสร้างทีมในระยะยาวได้เลย ไม่เคยคุมสโมสรไหนเกินกว่า 100 เกม และ อยู่คุมทีมได้เกินฤดูกาลแค่ 3 ครั้งเท่านั้นจาก 14 ทีมที่เคยได้รับการแต่งตั้งในอาชีพผู้จัดการของเขา นั่นคงไม่ใช่เรื่องดีเท่าไหร่สำหรับมิลานที่ต้องการความมั่นคงมากที่สุดในขณะนี้

 

ปิโอลี่เป็นผู้จัดการทีมคนที่ 10 ของมิลานในช่วง 5 ปีหลังสุด บ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าทีมไม่ความต่อเนื่องเลย หากยึดตามแนวทางง่ายๆที่สุด มิลานจำเป็นต้องหากุนซือที่เข้ามาสานต่อสิ่งดีๆที่ กัตตูโซ่ ทิ้งไว้ให้ทีมได้ อีกทั้งพวกเขายังต้องการผู้จัดการที่สามารถสร้างทีมในระยะยาว และช่วยให้ รอสเซเนรี่กลับมาเป็นสโมสรที่แข็งแกร่งอีกครั้ง 

 

บอร์ดบริหารเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้แฟนๆเดือดดาลอย่างแท้จริง เพราะพวกเขาไม่มีแผนที่ชัดเจน และไม่สามารถดำเนินการตามที่พวกเขาได้วางเอาไว้ได้ แม้บางครั้งการด้นสดแบบไม่แผนอะไร ก็อาจจะได้ผลลัทธ์ที่ดีเกินคาด (อย่างเช่น กรณีของ กัตตูโซ่) แต่นี่ดูเหมือนว่าพวกเขาจะเข้าใจอะไรผิดไปพอสมควร

 

 

สเตฟาโน่ ปิโอรี่ เป็นโค้ชที่ดี และในช่วงเวลาสั้นๆ เขาน่าจะช่วยให้ทีมดูมั่นคงขึ้น และอาจจะพัฒนาขึ้นด้วยซ้ำ แต่ขอย้ำอีกคร้งว่าเขาก็ไม่มีความแข็งแกร่งพอที่จะสร้างทีมในระยะกลางหรือยาวได้ 

 

แต่แผนระยะสั้นให้ผลงานขยับขึ้นมาหน่อยคงจะเป็นสิ่งที่เหล่าผู้บริหารในทีมรอสโซเนรี่ต้องการมากที่สุดในตอนนี้แล้วล่ะมั้ง ?