เมื่อการขาดหายไปของเคนไม่ได้ส่งผลกระทบต่อทีมมากมายอย่างที่ใครหลายคนคาดไว้ นั่นเป็นเพราะอะไรกันล่ะ…
ทันทีที่แฮร์รี่ เคนได้รับบาดเจ็บตั้งแต่ช่วงกลางเดือนมกราคม แฟนไก่เดือยทองหลายคน อาจจะรวมไปถึงแฟนบอลทั่วโลกต่างมองว่าพิษสงในเกมรุกของสเปอร์ต้องลดน้อยถอยลงไปแน่นอน เพราะเขาคือกองหน้าเบอร์หนึ่งของทีมที่หลายคนฝากความหวังในาการทำประตูไว้
นับตั้งแต่ปี 2015 กองหน้าแดนผู้ดีคนนี้ยิงให้สเปอร์อย่างน้อย 20 ลูกต่อฤดูกาลเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน ลบคำสบประมาทที่ถูกปรามาสว่าเป็นนักเตะที่รุ่งแค่ปีเดียวเท่านั้นลงได้
ลูกจุดโทษในเกมที่เสมอกับอาร์เซน่อลเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมาถือเป็นประตูที่ 22 ของเคนกับสเปอร์ในฤดูกาลนี้ และยังทำให้เขากลายเป็นดาวยิงสูงสุดในศึก นอร์ท ลอนดอน ดาร์บี้ ในพรีเมียร์ลีกด้วย
แต่ภาพรวมหลังจากที่กองหน้าวัย 25 ปีหายจากอาการกลับมา ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ต้องแบกทีมและเป็นผู้เล่นคนสำคัญที่สเปอร์ขาดไม่ได้อีกต่อไปแล้วล่ะ
ทีมเวิร์คที่พัฒนาขึ้น
เคนได้รับบาดเจ็บบริเวณเอ็นข้อเท้าซ้ายกับเกมที่พ่ายให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คาเวมบลีย์ 1-0 ช่วงกลางเดือนมกราคม และคาดว่าต้องพักไปยาวๆจนถึงเดือนมีนาคมเลย
แต่ไก่เดือยทองในเวอร์ชั่นที่ไร้แฮร์รี่ เคน ดูเหมือนจะไปได้สวยเลย เพราะ 5 เกมในลีกพวกเขากวาดชัยเรียบทั้งหมด รวมไปถึงเกมที่ตบโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ในแชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้ายนัดแรก 3-0 ด้วย แม้ลูกทีมของเมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ จะพ่ายให้กับเชลซี ในเกมรอบตัดเชือกของลีก คัพ และ คริสตัล พาเลซ ในเอฟเอ คัพ ก็ตาม
แดนกลางของทีมตอนนี้ก็มีดูมีอนาคตขึ้น หลังแฮร์รี่ วิงส์ค่อยๆพัฒนาตัวเองจนกลายเป็นกองกลางคนสำคัญของทีม หลังไร้เงาของมุสซ่า เดมเบเล่ที่ย้ายไปโกยเงินหยวนเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา
กองกลางวัย 23 ปีเป็นคนคุมจังหวะในการขึ้นเกมของทีมทั้งหมด เมื่อไม่มีวิงส์ จังหวะในการเข้าทำของสเปอร์ก็เปลี่ยนไป ไม่เหมือนเดิม จนทำให้พวกเขาเกือบเสียท่าในเกมลีกนัดล่าสุด
วิงส์มีสไตล์การเล่นที่คล้ายคลึงกับ สก็อต ปาร์คเกอร์ อดีตกองกลางของทีมชาติอังกฤษ ที่มักจะเล่นบอลเรียบง่าย ไม่หวือหวา พร้อมทั้งมีการจ่ายบอลในแนวลึก ทำให้เขากลายเป็นตัวเชื่อมทั้งแนวรุกและแนวรับของสเปอร์ในทันที
จริงอยู่ที่แนวรับและแนวรุกในทีมของพอชนั่นยอดเยี่ยมอยู่แล้ว ทั้ง โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์ และ แยน แฟร์ตองเกน ต่างเป็นกองหลังทีออกบอลได้ดีมากๆในลีก ขณะที่ คริสเตียน อิรีคเซ่น, ซอน เฮือง มิน, เคน และ เดเล อัลลี่ ก็ขึ้นชื่อว่าเป็นแนวรุกที่อันตรายที่สุดชุดหนึ่งในฟุตบอลยุโรป
ทั้งสองส่วนนี้ผสมผสานกันได้อย่างลงตัว แต่ยามที่ทีมปราศจากกองกลางอย่าง วิงส์ ไป ทั้งสองส่วนก็ดูติดขัดและเชื่อมเกมแบบไม่ปะติดปะต่อกันอย่างชัดเจน
ขุมกำลังทดแทนที่ไว้ใจได้
สิ่งหนึ่งที่ทำให้สเปอร์ไม่จำเป็นต้องง้อประตูของเคนก็คือ ทักษะในการจบสกอร์ของ ซอน เฮือง มิน แม้จะหายหน้าไปพร้อมๆกับเคน เนื่องจากต้องไปรับใช้ทีมชาติเกาหลีใต้ในศึกเอเชียน คัพ แต่ทันทีที่กลับมาอังกฤษ เขาก็โชว์ฟอร์มเด่นจนช่วยให้ทีมคว้าแต้มสำคัญมาได้
เฟอร์นานโด ยอเรนเต้ อีกคนที่ไม่พูดถึงก็คงไม่ได้ เขากลายเป็นนักเตะที่มีประโยชน์มากๆยามที่ทีมไม่สามารถเจาะแนวรับคู่แข่ง แม้จะถูกมองว่าไม่มีลูกทีเด็ดหรือความคล่องแคล่วยามครองบอล แต่ร่างกายอันสูงใหญ่บวกับประสบการณ์ที่โชกโชน ทำให้เราได้เห็นการแอสซิสต์ประตูสำคัญจากกองหน้าชาวสเปนิชคนนี้บ่อยครั้ง ยามที่ทีมไม่มีเคนอยู่
นอกจากนี้ต้องขอบคุณฟอร์มการเล่นของ คริสเตียน อีริคเซ่นด้วยที่ค่อยๆหาฟอร์มเก่งของตัวเองเจออีกครั้งตั้งแต่ช่วงเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ทั้งๆที่ช่วงต้นฤดูกาล กองกลางชาวเดนส์แทบไม่มีส่วนสำคัญในการคว้าชัยให้สเปอร์เลย
นั่นช่วยให้สเปอร์ค้นพบวิธีและแนวทางใหม่ในการเอาตัวรอดโดยไม่จำเป็นต้องพึ่งประตูของเคนเป็นหลักอีกต่อไป
จุดที่ต้องปรับปรุง
แต่ถึงกระนั้นลูกทีมของพอชก็ยังต้องปรับปรุงกับการเล่นในบางจุดอยู่ดี ไม่ว่าจะมีหรือไม่มีแฮร์รี่ เคน อยู่ในสนามก็ตาม เพราะตอนนี้พวกเขาไม่สามารถควานหาชัยชนะในลีกได้ 3 เกมติดต่อกันแล้ว
ในเกมที่ผ่านมา อัลเดอร์ไวเรลด์, แฟร์ตองเกน และ ดาวิดสัน ซานเชซ ก็ดูไม่อยู่กับร่องกับรอยบ่อยครั้ง, กองกลางอย่าง มุสซ่า ซิสโซโก้ และ วิคเตอร์ วานยาม่า แม้จะมีความขยันและพลังงานเหลือล้น แต่ก็ไม่มีความสามารถในการวางบอลจากแนวลึกได้ดีนัก
ส่งผลให้แนวรุกของสเปอร์คาดเดาได้ง่ายว่าจะขึ้นเกมแบบไหน ทำให้คู่แข่งยืนแพ็คกันแน่นและลงไปรับลึกเพื่ออาศัยการโต้กลับเป็นอาวุธเด็ดในการเล่นงานสเปอร์อย่างชัดเจน
นักเตะที่ฟอร์มแรงอยู่ช่วงหนึ่งอย่างอีริคเซ่น หรือ ซอน ก็กลายเป็นคนละคนในเกมที่ผ่านมา หลังไม่สามารถสร้างอันตรายนพื้นที่สุดท้ายได้เหมือนหลายนัดก่อนหน้านี้
แต่สเปอร์เหมือนจะได้รับข่าวดี เมื่อแข้งตัวเก่งอย่าง เดเล่ อัลลี่ หายจากอาการบาดเจ็บและกลับมาซ้อมได้แล้ว ก่อนเกมแชมเปี้ยนส์ลีกรอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดสอง คืนนี้ รวมไปถึง แฮร์รี่ วิงส์ และ เอริค ดายเออร์ที่บินตามเพื่อนร่วมทีมที่เยอรมันด้วย
นักเตะเหล่านี้น่าจะทำให้ทีมกลับมามีการเล่นที่หลายหลายขึ้นกว่าเดิม บวกกับความเป็นเพชรฆาตของแฮร์รี่ เคนแล้ว ไก่เดือยทองตัวนี้จึงกลับมาน่ากลัวอีกครั้งในสายตาของคู่แข่งหลายๆทีม
แม้ว่าพวกเขาจะไม่มีลุ้นในแชมป์อะไร แม้แต่รายการแชมเปี้ยนส์ลีกในคืนนี้ก็ตาม