โคตรทีม “กาลาติกอส” ! 10 ดีลสะท้านโลก “ราชันชุดขาว”

 

เรอัล มาดริด เพิ่งประกาศคว้าตัว เอเด็น อาซาร์ เข้ามาร่วมทีมอย่างเป็นทางการเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา หลังยอมทุ่มเงินถึง 88 ล้านปอนด์ พร้อมกับพ่วงออปชั่นเสริมเบ็ดเสร็จประมาณ 130 ล้านปอนด์ เพื่อเป็นค่าตัวให้กับ เชลซี ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งดีลสะท้านโลกอย่างแท้จริง

 

โดยหากย้อนกลับไปในอดีตที่ผ่านมา เคยมีดีลที่โด่งดังของ ทีม “ราชันชุดขาว” เกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการเสริมทัพทำลายค่าตัวสถิติโลกทั้งในรายของ กาก้า, คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และ แกเร็ธ เบล หรือการดึงนักเตะซุปเปอร์สตาร์ชื่อดังเข้ามาร่วมทีมแบบ เดวิด เบ็คแฮม ก็ตาม

 

นอกจากนี้ยังมีอีกหลายครั้งที่การดึงนักเตะใหม่เข้ามาสู่ทีมของ มาดริด กลายเป็นกระแสเรียกความสนใจและเสียงฮือฮาจากแฟนบอลตลอดช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งวันนี้ Ufa Arena จะขอพาทุกท่านกลับไปย้อนดู 10 ดีลสะท้านโลกของขาใหญ่แดนกระทิงดุทีมนี้กันเลย

 

 

ลูก้า โมดริช

 

อดีตแข้ง “ไก่เดือยทอง” ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ คือกองกลางที่โชว์ผลงานดีสุดคนหนึ่งบนเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ซีซั่น 2011/2012 ซึ่งฟอร์มของเขาโดดเด่นเข้าตา ฆวนเด้ รามอส กุนซือใหญ่ เรอัล มาดริด เวลานั้นสุดๆ ถึงขนาดยอมทุ่มเงิน 30 ล้านปอนด์ ดึงตัวมาเสริมทัพในฤดูกาลถัดมาทันที

 

การโยกมาเล่นในบนลีกสูงสุดแดนกระทิงดุของ โมดริช เรียกเสียงฮือฮาจากแฟนบอลได้พอสมควร เพราะเขาคือหนึ่งในเพลย์เมกเกอร์ที่น่าจับตาที่สุดเวลานั้น ซึ่งดาวเตะทีมชาติโครเอเชีย ก็ไม่ทำให้แฟนบอล “โลส บลังโกส” ผิดหวัง หลังเขากลายเป็นกำลังสำคัญของทีมนับตั้งแต่ลงประเดิมสนามเกมแรกจนกระทั่งถึงปัจจุบัน และสามารถช่วยต้นสังกัดกวาดโทรฟี่มาประดับสโมสรได้มากมายทั้งในและนอกประเทศตลอด 7 ซีซั่นที่ผ่านมา จนล่าสุดแข้งหมายเลข 10 ของ มาดริด เพิ่งก้าวไปสู่จุดสูงสุดของตัวเองด้วยการคว้ารางวัลบัลลงดอร์ปี 2018 มาครองได้อีกด้วย

 

 

 

ชาบี้ อลอนโซ่

 

กองกลางเลือดกระทิงดุประสบความสำเร็จอย่างยิ่งกับ ลิเวอร์พูล หลังเป็นกำลังสำคัญพา “หงส์แดง” สอยแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เมื่อปี 2005 ด้วยความยอดเยี่ยมของเขาทำให้ทีมขาใหญ่ลูกหนังสเปนยอมควักเงิน 30 ล้านปอนด์ เพื่อคว้าตัวอดีตเด็กปั้น เรอัล โซเซียดาด รายนี้ มาร่วมทีมก่อนที่เกมนัดประเดิมสนามซีซั่น 2009/2010 จะออสตาร์ทไม่กี่วันเท่านั้น เล่นเอา “เดอะค็อป” ถึงการเซ็งไปตามๆกัน

 

สำหรับ ชาบี้ อลอนโซ่ ความสำเร็จกับ มาดริด เรียกได้ว่าไม่ค่อยมีถ้วยติดมือมากมายเท่าไรนัก แต่อย่างน้อยๆเขาก็เป็นส่วนหนึ่งของยอดทีมแห่งเมืองหลวงสเปนชุดคว้าถ้วย “บิ๊กเอียร์” สมัยที่ 10 ของสโมสร เมื่อปี 2014 พร้อมกับมีเหรียญแชมป์ ลาลีก้า ซีซั่น 2011/2012 คล้องคออีก 1 รายการ

 

 

 

ฮาเมส โรดริเกซ

 

กองกลางตัวรุกทีมชาติโคลอมเบีย ฮาเมส โรดริเกซ ระเบิดฟอร์มเก่งในศึก ฟุตบอลโลก 2014 พร้อมคว้าตำแหน่งดาวซันโว ซึ่งนั่นถือเป็นใบเบิกทางชั้นดีช่วยพาเขาเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในทัพ “ราชันชุดขาว” ภายใต้การทำทีมของ ซีเนดีน ซีดาน หลังทัวร์นาเมนต์ดังกล่าวจบลง

 

โดยผลงานซีซั่นแรกกับสโมสรแชมป์ ลาลีก้า สมันที่33 เจ้าตัวยิงไปถึง 17 ประตู จากการลงเล่นรวมทุกถ้วย 46 นัด อย่างไรก็ตาม 2 ฤดูกาลหลังจากนั้น ชีวิติการค้าแข้งในกรุงมาดริด ถือว่าน่าผิดหวังและไม่ค่อยได้รับโอกาสลงสนามเท่าที่ควร จนทำให้เขาถูกเตะออกจากทีมไปด้วยการปล่อยยืมตัวไปอยู่กับ บาเยิร์น มิวนิว นานถึง 2 ฤดูกาล ซึ่งล่าสุดแม้ว่าเขากำลังจะกลับมายังต้นสังกัดที่แท้จริงอีกครั้งหลังหมดสัญญายืมตัวในเยอรมัน แต่ดูแล้วอนาคตของ โรดริเกซ คงหนีไม่พ้นโดนเขี่ยทิ้งออกจากทีมแน่นอน

 

 

 

โรนัลโด้

 

นี่คือหนึ่งในสุดยอดกองหน้าตลอดกาลของ เรอัล มาดริด เลยก็ว่าได้ สำหรับ โรนัลโด้ นาซาริโอ้ หรือที่แฟนบอลรู้จักกันในฉายา “โล้นทองคำ” ดาวยิงทีมชาติบราซิลซึ่งย้ายจาก อินเตอร์ มิลาน เข้ามาวาดลวดลายในถิ่น ซานติอาโก้ เบอร์นาบิว ด้วยค่าตัว 46 ล้านยูโร และถือเป็นดีลช็อคแฟนบอลเวลานั้นพอสมควร เนื่องจากเขาเคยเป็นอดีตนักเตะ บาร์เซโลน่า คู่รักคู่แค้นของยอดทีมแห่งกรุงมาดริด

 

ผลงานของศูนย์หน้าเพชรฆาต “R9” ตลอดระยะเวลา 5 ซีซั่นกับ ทีม “กาลาติกอส” ระหว่างปี 2002 – 2007 ทำได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยสถิติลงสนาม 177 นัดรวมทุกถ้วย ยิงไป 104 ประตู และได้รับการยกย่องว่าเป็นดาวยิงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุคนั้นด้วย

 

 

 

เดวิด เบ็คแฮม

 

นี่คือดีลที่เรียกเสียงตอบรับจากแฟนบอลได้มากที่สุดในประวัติศาสตร์การซื้อขายของวงการลูกหนังโลกเลยก็ว่าได้ เมื่อ ฟลอเรนติโน่ เปเรซ ประธานสโมสร เรอัล มาดริด เวลานั้น ยอมทุ่มเงิน 37 ล้านยูโร ให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แลกกับการปล่อยตัวแข้งซุปเปอร์สตาร์อย่าง เดวิด เบ็คแฮม เพื่อเข้ามาเป็นหนึ่งในขุนพล “กาลาติกอส” ที่เต็มไปด้วยสุดยอดนักเตะระดับโลกอย่าง โรแบร์โต้ คาร์ลอส, โรนัลโด้, ซีเนดีน ซีดาน, หลุยส์ ฟิโก้ และ ราอูล กอนซาเลซ

 

อย่างไรก็ตามผลงานของ เดวิด เบ็คแฮม ภายใต้การร่วมงานกับเฮดโค้ชอย่าง คาร์ลอส เคยรอซ กลับไม่โดดเด่นเท่ากับสมัยที่เขาอยู่ในทีม เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน แต่ก็ยังสามรถพาทีมคว้าถ้วย ลาลีก้า สเปน ได้ 1 สมัยนั้นในซีซั่น 2006/2007 ก่อนตัดสินใจย้ายออกไปโลดแล่นบนศึก เมเจอร์ลีก ซอกเกอร์ กับ แอลเอ กาแลกซี่ ในปี 2007 ปิดฉากช่วงเวลาค้าแข้งที่ ซานติอาโก้ เบอร์นาบิว เพียง 155 เกม และยิงไปแค่ 20 ประตู เท่านั้น

 

 

 

หลุยส์ ฟิโก้

 

อดีตดาวเตะระดับตำนานทีมชาติโปรตุเกส มีเส้นทางการค้าแข้งที่คล้ายกับเพื่อนร่วมทีม “ชุดขาว” อย่าง โรนัลโด้ นาซาริโอ้ เนื่องจากเจ้าตัวเคยเป็นนักเตะเก่าของ “อาซูลกราน่า” ก่อนตัดสินใจโยกข้ามฝากมาอยู่กับคู่ปรับตลอดกาลแบบช็อคแฟนสุดๆ เมื่อช่วงหน้าร้อนปี 2000 ด้วยค่าตัวสถิติโลกเวลานั้น 62 ล้านยูโร

 

ตลอดระยะเวลา 5 ฤดูกาล ในทีมยุค “กาลาติกอส” ช่วงปี 2000 – 2005 หลุยส์ ฟิโก้ ลงสนามให้ มาดริด ไปทั้งหมด 239 นัด รวมทุกรายการ ยิงไป 57 ประตู และมีส่วนสำคัญช่วยทีมกวาดโทรฟี่มาครองได้ทั้ง ลาลีก้า สเปน 2 สมัย และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก อีก 1 สมัย ก่อนอำลาทีมไปอยู่กับ อินเตอร์ มิลาน ในปี 2005

 

 

 

กาก้า

 

เพลย์เมกเกอร์พรสวรรค์สูงอย่าง กาก้า ประสบความสำเร็จสุดๆช่วงค้าแข้งกับ เอซี มิลาน หลังพาทีมคว้าแชมป์ สคูเดตโต้ และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ได้อย่างละ 1 สมัย รวมไปถึงก้าวขึ้นไปคว้ารางวัลบัลลงดอร์เมื่อปี 2007 ก่อนถูก เรอัล มาดริด ดึงมาร่วมทีมด้วยค่าตัว 68.5 ล้านยูโร

 

ทว่าผลงานของเทพบุตรลูกหนังชาวแซมบ้ากลับไม่เป็นอย่างที่แฟนบอลต่างคาดหวัง หลังเจ้าตัวลงฟาดแข้งในถิ่น เบอร์นาบิว ตั้งแต่ปี 2009 – 2013 ทั้งหมด 120 นัดรวมทุกรายการ ยิงไปเพียง 29 ประตู ท้ายที่สุดหลังลงเล่นบนลีกสูงสุดของสเปนแค่เพียง 4 ฤดูกาล กาก้า ถูกปล่อยกลับไปอยู่กับ “ปีศาจแดงดำ” เป็นหนที่สองต่อด้วยการเดินทางไปหาความท้าทายใหม่ยังแดนลุงแซมกับ ออร์แลนโด้ ไพเรตส์ ทีมแกร่งในศึก เมเจอร์ลีก ซอกเกอร์

 

 

 

แกเร็ธ เบล

 

ย้อนกลับไปเดือนกันยายนปี 2013 เรอัล มาดริด สร้างเซอร์ไพรส์แฟนบอลด้วยการประกาศคว้าปีกพญาวานรจาก ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ มาร่วมทีมด้วยค่าตัวสถิติโลก 85.3 ล้านปอนด์

 

ผลงานของดาวเตะทีมชาติเวลส์กับยอดทีมแดนกระทิงดุทำได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะซีซั่นแรกที่เขาพาทีมคว้าถ้วยฟุตบอลยุโรปครั้งแรกรอบ 12 ปี ของสโมสร นอกจากนี้ตลอดเวลา 6 ฤดูกาลที่ผ่านมา แกเร็ธ เบล พาทีมสอยถ้วยแชมป์ได้อย่างมากมายทั้ง ลาลีก้า 1 สมัย, แชมเปี้ยนส์ลีก 4 สมัย, โกปา เดล เรย์ 1 สมัย และ ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก 3 สมัย แต่ดูเหมือนว่าความสำเร็จเหล่านี้กำลังจะถูกลืมเลือนไป หลังปัจจุบันสถานการณ์ภายใต้การคุมทีมของ ซีเนดีน ซีดาน เขาจะไร้อนาคตสุดๆ และเป็นไปได้ว่าอาจจะถูกปล่อยตัวออกจากทีมเร็วๆนี้

 

 

 

ซีเนดีน ซีดาน

 

อีกหนึ่งนักเตะที่อยู่ในทีมชุดรวมดารา “กาลาติกอส” อย่าง ซีเนดีน ซีดาน ย้ายจาก ยูเวนตุส มายังสเปนด้วยค่าตัว 77.5 ล้านยูโร เมื่อปี 2001 หลังประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่กับ “ม้าลาย” และ ทีมชาติฝรั่งเศส ที่เขามีส่วนสำคัญพาทีมคว้าสองแชมป์สำคัญทั้ง ฟุตบอลโลก 1998 และฟุตบอลยูโร 2000

 

สำหรับ “ซิซู” หลังย้ายมาอยู่กับ มาดริด เขาก้าวขึ้นมาเป็นแกนหลักของทีมในยุคนั้นทันที และช่วยทีมคว้าได้ทั้งถ้วยลีกสูงสุดแดนกระทิงดุ รวมไปถึง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ในฤดูกาล 2001/2002 หลังเป็นผู้ซัดประตูชัยจากจังหวะวอลเลย์สุดคลาสสิคในเกมที่เอาชนะ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น 2 – 1 พาทีมสอยถ้วย “ลา เดซิม่า” สมัยที่ 9 ของสโมสร

 

 

 

คริสเตียโน่ โรนัลโด้

 

นับได้ว่าเป็นดีลที่สะท้านโลกมากที่สุดของ เรอัล มาดริด หลังพวกเขายอมทุ่มเงินจำนวน 80 ล้านปอนด์ ดึงตัว คริสเตียโน่ โรนัลโด้ สุดยอดแข้งแห่งยุคจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาค้าแข้งกับสโมสรเมื่อช่วงซัมเมอร์ปี 2008

 

โดยนับแต่วันแรกที่ดาวยิงเจ้าของรางวัลบัลงดอร์ 5 สมัย เปิดตัวอย่างเป็นทางการกับทีมแชมป์ยุโรป 13 สมัย เจ้าตัวเดินหน้าสร้างสถิติกับสโมสรแห่งนี้ไว้มากมายควบคู่กับการพาทีมคว้าถ้วยแชมป์มาครองอย่างต่อเนื่องทั้ง ลาลีก้า สเปน 2 สมัย, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 4 สมัย, โกปา เดล เรย์ 2 สมัย และ ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก 3 สมัย นอกจากนี้แข้ง “CR7” ยังการันตีความยิ่งใหญ่ด้วยการทุบสถิติทะยานขึ้นเป็นดาวยิงสูงสุดตลอดกาลของสโมสรด้วยจำนวน 450 ประตู แซงอดีตศูนย์หน้ากัปตันทีม ราอูล กอนซาเลซ ที่เคยยิงไว้มากสุด 323 ประตู ได้สำเร็จ

 

อย่างไรก็ตามนับตั้งแต่ที่เขาตัดสินใจย้ายออกจากทีมไปอยู่กับ ยูเวนตุส เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่แล้ว ส่งผลกระทบครั้งใหญ่แก่ มาดริด เข้าอย่างจัง ซึ่งทำให้พวกเขาต้องประสบพบเจอกับผลงานย่ำแย่สุดๆเมื่อไร้เงาของ โรนัลโด้ อยู่ในทีม ขณะเดียวกันชีวิตการค้าแข้งบยังแดนมักกะโรนีของดาวเตะ “ฝอยทอง” ดูตรงข้ามกันชัดเจนเพราะเขาสามรถพา “ม้าลาย” คว้าถ้วย สคูเด็ตโต้ ฤดูกาลนี้มาครองได้สำเร็จ