ส่งต่อรุ่นสู่รุ่น : 10 คู่พ่อลูกสุดโด่งดังในวงการลูกหนัง

 

ฟุตบอลเป็นอีกหนึ่งชนิดกีฬาบนโลกในใบนี้ที่เด็กหนุ่มทั่วโลกเฝ้าฝันอยากเล่นเพื่อก้าวไปเป็นนักเตะอาชีพให้ได้ในอนาคต โดยเฉพาะถ้าพวกเขามีพ่อเป็นนักฟุตบอลอาชีพอยู่ ความฝันนั้นย่อมไม่ใช่เรื่องน่าแปลกอะไร

 

ซึ่งมีแข้งดังไม่น้อยพยายามผลักดันให้ลูกชายของพวกเขาก้าวขึ้นไปเป็นนักเตะชื่อดังก้องโลก แต่ถึงอย่างนั้น มันก็ไม่ใช่เรื่องที่จะเกิดกันง่ายๆ และมีพ่อลูกเพียงไม่กี่คู่บนโลกใบนี้ที่สามารถกลายเป็นนักเตะอาชีพที่มีเล่นฟุตบอลในระดับสูงได้

 

และเนื่องในวันที่ 5 ธันวาคม คือวันพ่อแห่งชาติของไทย ทาง UFA ARENA จึงขอเสนอ 10 คู่พ่อลูกที่โด่งดังและเป็นที่รู้จักของเหล่าแฟนบอลมากที่สุดในวงการลูกหนังผ่านบทความชิ้นนี้กัน

   

 

เอียน ไรท์ และ ฌอน กับ แบรดลี่ย์ ไรท์ ฟิลลิปส์

 

 

เอียน ไรท์ เป็นกองหน้าระดับตำนานของอาร์เซน่อลที่พาทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกในฤดูกาล 1997-98 และได้ติดทีมชาติอังกฤษ 31 นัดด้วยกัน 

 

ซึ่งลูกชายคนโตของเขาอย่าง ฌอน ที่รับเลี้ยงเป็นลูกบุญธรรมตั้งแต่ 3 ขวบ จากนั้น เขาเจริญรอยตามผู้พ่อในเส้นทางลูกหนัง ด้วยการค้าแข้งกับทีมดังในบ้านเกิดทั้ง เชลซี และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ รวมถึงติดทีมชาติมากกว่าไรท์ผู้พ่อถึง 3 นัดเลย (34)

 

ขณะที่แบรดลี่ย์ ลูกชายคนที่  2 ของบ้านตระกูลไรท์ ก็เติบโตมาเป็นนักเตะฟุตบอลอาชีพไม่ต่างกัน โดยเริ่มต้นเป็นแข้งเยาวชนของเรือใบสีฟ้า และ ปัจจุบัน เขากลายเป็นหนึ่งในแข้งระดับตำนานของ เมเจอร์ ลีก ซ็อคเกอร์ เมื่อคว้ารองเท้าทองคำถึง 2 ครั้ง กับ นิวยอร์ค เร้ด บลู ในปี 2014 และ 2016

 

 

อาร์นอร์ และ ไอเดอร์ กุ๊ดยอห์นเซ่น

 

 

ในโลกลูกหนังมีเพียงพ่อลูกคู่เดียวที่ได้ลงเล่นในเกมทีมชาติเกมเดียวกัน เมื่อ ไอเดอร์ กุ๊ดยอห์นเซ่น กองหน้าดาวรุ่ง วัย 17 ปีของวงการฟุตบอลไอซ์แลนด์ ถูกเปลี่ยนตัวลงไปแทนที่ อาร์นอร์ กุ๊ดยอห์นเซ่น พ่อของเขาในเกมอุ่นเครื่องพบกับ เอสโตเนีย ในปี 1996

 

ต่อมาหลังจากที่ กุ๊ดยอห์นเซ่นผู้พ่อ เลิกเล่นไปแล้ว เขาก็ได้กลายเป็นเอเย่นต์ส่วนตัวของให้กับลูกชาย ก่อนจะก้าวขึ้นไปเป็นดาวยิงระดับตำนานคนหนึ่งของทีมชาติไอซ์แลนด์ได้ และสามารถคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ กับเชลซี ได้ถึง 2 สมัย รวมไปถึงคว้าแชมป์ ลาลีก้า สเปน และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กับ บาร์เซโลน่า อีกด้วย

 

 

ฌอง และ ยูริ จอร์เกฟฟ์

 

 

ฌอง เจอร์เกฟฟ์ เป็นกองหลังทีมชาติฝรั่งเศสชุดลุยศึกฟุตบอลโลกปี 1966 และใช้เวลาค้าแข้งในฟุตบอลอาชีพให้ทีมดังในบ้านเกิดถึง 3 สโมสร นั่นก็คือ โอลิมปิก ลียง, โอลิมปิก มาร์กเซย และ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง พร้อมกับคว้าแชมป์ แฟรนช์ คัพ ได้ 2 สมัย ในช่วงเวลานั้น

 

แต่ทายาทของเขา ยูริ จอร์เกฟฟ์ กลับโด่งดังและประสบความสำเร็จในเส้นทางสายลูกหนังมากกว่าผู้เป็นพ่อเยอะเลย หลังเป็นแข้งที่อยู่ในทัพตราไก่ชุดคว้าแชมป์โลกปี 1998 และแชมป์ยูโรปี 2000 นอกจากนี้ในระดับสโมสร หัวหอกเลือดน้ำหอมยังคว้าแชมป์ได้พอสมควร ทั้งเฟรนช์ คัพ กับโมนาโกในปี 1991, แชมป์วินเนอร์ส คัพกับ เปแอชเช ปี 1995 และ ยูฟ่า คัพ กับ อินเตอร์ มิลานในปี 1998

 

 

แดนนี่ และ ดาลี่ย์ บลินด์

 

 

แดนนี่ บลินด์ เป็นหนึ่งในนักเตะของอาแจ็กซ์ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในสโมสร หลังคว้าแชมป์ยุโรปได้ 3 รายการใน 13 ปีที่ค้าแข้งในเมืองอัมสเตอร์ดัม ก่อนจะได้รับงานคุมสโมสรเก่าของตนเอง จากนั้นก็ทีมชาติฮอลแลนด์ในเวลาต่อมา แม้จะไม่ประสบความสำเร็จเท่าไหร่ก็ตาม

 

ซึ่งในช่วงที่แดนนี่เริ่มทำงานโค้ชเต็มตัว ลูกชายของเขา ดาลี่ย์ บลินด์ ก็เริ่มต้นในอาชีพค้าแข้งพร้อมกันกับ อาแจ็กซ์ สโมสรที่ผู้เป็นพ่อเติบโตมา โดยกองหลังชาวดัตช์วัย 29 ปี คว้าแชมป์เอเรดิวิซี่ 4 สมัย ก่อนจะย้ายไปอยู่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พร้อมกับคว้าแชมป์ยูโรป้า ลีก, เอฟเอ คัพ และ ลีก คัพ ก่อนจะย้ายกลับมาเล่นในอัมสเตอร์ดัมอีกครั้งในตอนนี้

 

 

เซซาเร่ และ เปาโล มัลดินี่

 

 

ตำนานแข้งของเอซี มิลาน เซซาเร่ มัลดินี่ พาสโมสรดังจากอิตาลีคว้าแชมป์ยูโรเปี้ยน คัพในปี 1963 รวมถึงแชมป์เซเรียอา 4 สมัยในช่วงที่เล่นฟุตบอลอาชีพ ก่อนจะผันตัวมาเป็นผู้จัดการทีมของรอสโซเนรี่ และคว้าแชมป์วินเนอร์ส คัพ และ โคปา อิตาเลีย ในปี  1973 ทำให้เขาได้รับจารึกชื่อบนหอเกียรติยศของลูกหนังอิตาลีในปี 2016

 

แต่ก่อนหน้านั้น 4 ปี เปาโล มัลดินี่ ลูกชายแท้ของเขา ก็ได้รับเกียรตินั้นก่อนผู้เป็นพ่อซะอีก และยิ่งใหญ่ไม่แพ้กันเลยในฐานะนักเตะ เนื่องจากเขาอยู่ค้าแข้งกับ ปีศาจแดงดำแค่สโมสรเดียวตลอดอาชีพค้าแข้ง ลงเล่นให้มากกว่า 900 นัด คว้าแชมป์ทั้งในประเทศและระดับยุโรปมากมาย อีกทั้งยังลงเล่นในนามทีมชาติอิตาลีถึง 126 นัด พร้อมกับได้แชมป์ฟุตบอลโลกกับอัซซูรี่ในปี 2006 

 

 

ปีเตอร์ และ แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล

 

 

ปีเตอร์ และ แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล คือพ่อลูกคู่เดียวในประวัติศาตร์ที่เคยคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้ อีกทั้งยังเป็นผู้รักษาประตูมือหนึ่งในทีมชาติเดนมาร์กในยุคของตัวเองด้วย

 

สำหรับชไมเคิลผู้พ่อกลายเป็นที่รู้จักหลังพาทีมโคนมคว้าแชมป์ยูโรในปี 1992 รวมถึงช่วงที่เขาเฝ้าเสาให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และเป็นกัปตันทีมชุดทริปเปิ้ลแชมป์ของทีมในปี 1999 อีกทั้งยังมีชื่อเข้าชิงนายทวารยอดเยี่ยมแห่งปีของยูฟ่า ถึง 3 ครั้ง

 

ในขณะที่ ชไมเคิ่ลคนลูก แม้จะไม่ได้ประสบความสำเร็จเท่าผู้เป็นพ่อ แต่เขาก็เป็นหนึ่งในนักเตะของเลสเตอร์ชุดประวัติศาสตร์ที่คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกอย่างราวกับปาฏิหารย์ในปี 2016 

 

 

มาซินโญ่ และ ติอาโก้ กับ ราฟินญ่า

 

 

ในฟุตบอลโลกปี 1994 มาซินโญ่ เป็นส่วนหนึ่งในทางฉลองชัยอุ้มเด็กของ เบเบโต้ ซึ่งทำท่านี้เพื่อฉลองให้กับลูกชายที่เพิ่งลืมตาดูโลก แต่ในขณะที่ มัธเธอุส ลูกชายของเขาไปได้ไม่สวยในฟุตบอลอาชีพเท่าไหร่ ทายาทของมาซินโญ่กลับกลายเป็นที่รู้จักของแฟนบอลทั่วโลกและประสบความสำเร็จกว่าหลายเท่าตัว

 

ไม่ว่าจะเป็น  ติอาโก้ อัลคันทาร่า กองกลางมากทักษะที่เป็นตัวหลักทั้งใน บาเยิร์น มิวนิค และทีมชาติสเปนในปัจจุบัน ส่วน ราฟินญ่า น้องชายของเขาที่เลือกเล่นให้บราซิล ตามผู้เป็นพ่อ ก็เคยคว้าแชมป์ยุโรปกับบาร์เซโลน่ามาแล้ว แม้ในตอนนี้ เขาจะต้องโยกไปเล่นกับทีมระดับกลางในลีกสเปนอย่าง เซลต้า บีโก้ แบบยืมตัวก็ตาม

 

 

โยฮัน และ จอร์ดี้ ครัฟฟ์

 

 

เจ้าของรางวัลบัลลงดอร์ 3 สมัย โยฮัน ครัฟฟ์ เป็นหนึ่งในนักเตะที่ได้รับการยกย่องให้เป็นนักฟุตบอลที่ดีที่สุดตลอดกาล เขาเป็นตำนานทั้งใน อาแจ็กซ์, บาร์เซโลน่า และทีมชาติฮอลแลนด์ 

 

แต่ด้วยความสำเร็จมากมายมหาศาลเหล่านี้ ไม่แปลกใจที่มันจะทำให้ จอร์ดี้ ลูกชายของเขา มีเส้นทางค้าแข้งที่ค่อนข้างธรรมดา ไม่หวือหวามากนัก แม้จะมีโอกาสอยู่ในทีมระดับโลกอย่าง บาร์เซโลน่า และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

 

แต่อย่างน้อยช่วงเวลาที่น่าจดจำก็ยังมีอยู่ เมื่อในช่วงที่ ครัฟฟ์คนลูกค้าแข้งกับ อลาเบส เขาช่วยให้ทีมม้ามืดจากแดนกระทิงเข้าชิง ยูฟ่า คัพ ในปี 2001 น่าเสียดายที่ทีมของเขาต้องพ่ายให้กับลิเวอร์พูล 5-4 ด้วยกฏโกลเด้น โกลด์ ณ วันนั้น  

 

 

แพทริค และ จัสติน ไคล์เวิร์ต

 

 

แพทริค ไคล์เวิร์ต รั้งดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลเป็นอันดับ 3 ของทีมชาติฮอลแลนด์ โดยซัดไปถึง 40 ประตู จากการลงเล่น 79 นัด แถมสถิติการยิงประตูของเขาก็น่าประทับใจไม่น้อยในระดับสโมสร เมื่อมีค่าเฉลี่ยยิงประตูให้อาแจ็กซ์ และ บาร์เซโลน่า ทุกๆลูกต่อการเล่น 2 นัด ก่อนจะแขวนสตั๊ดไปในปี 2008

 

แต่หลังจากนั้นอีก 7 ปีต่อมา ชื่อของไคล์เวิร์ตก็โผล่มาให้แฟนได้เห็นอีกครั้ง ซึ่งก็คือ จัสติน ลูกชายแท้ของ แพทริค ที่แม้จะไม่ได้เล่นเป็นกองหน้าเหมือนกับผู้เป็นพ่อ ถึงอย่างนั้นเขาก็เป็นดาวรุ่งที่น่าจับตามองมากๆในอาแจ็กซ์ 

 

ด้วยฟอร์มการเล่นที่โดดเด่นเกินวัย ทำให้ปีกชาวดัตช์ได้ย้ายไปร่วมทีม โรม่า เมื่อซัมเมอร์ปี 2018 ทำให้น่าสนใจเหลือเกินว่า ไคล์เวิร์ตคนลูกจะก้าวขึ้นไปเทียบชั้นกับผู้เปนพ่อได้หรือไม่ในอนาคตข้างหน้า

 

 

ซีเนดีน และ ลูก้า ซีดาน

 

 

แฟนบอลทั่วโลกไม่มีใครปฏิเสธว่า ซีเนดีน ซีดาน เป็นกองกลางแห่งยุคที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับเด็กหนุ่มทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นตอนที่เขาเล่นให้กับ ฝรั่งเศส, ยูเวนตุส และ เรอัล มาดริด อีกทั้งในบทบาทกุนซือ ซิซูก็ประสบความสำเร็จไม่แพ้กัน ด้วยการพา โลส บลังโกส เป็นทีมแรกที่คว้าถ้วยแชมเปียนส์ลีกได้ 3 สมัยติดต่อกัน 

 

เพราะฉะนั้น แค่ความยิ่งใหญ่ในตอนค้าแข้งของ กุนซือราชันชุดขาวคนปัจจุบัน ก็ยากแล้วที่ลูกๆของเขาจะทำตามได้ แม้เพียงเศษเสี้ยวหนึ่ง แต่คงจะไม่แฟร์เท่าไหร่ ถ้านำเรื่องเหล่านั้นมาเปรียบเทียบกับ ลูก้า ลูกชายคนที่ 2 ของเขา ที่เล่นในตำแหน่งผู้รักษาประตู

 

และถ้าหากนับในตอนนี้ ลูก้า เป็นทายาทแค่คนเดียวของซีดานที่ดูจะไปได้สวยที่สุดในอาชีพค้าแข้ง ณ ตอนนี้ หลังย้ายไปเล่นกับ ราซิ่ง ทีมระดับเซกุนด้าแบบยืมตัว ผิดกับลูกชายคนโต เอ็นโซ่ ที่เล่นกับ อาเวส ทีมระดับกลางในลีกโปรตุเกส ขณะที่ ธีโอ และ เอลีอาซ ก็ยังไม่มีโอกาสได้โชว์ฝีเท้าเป็นจริงเป็นจังนัก เนื่องจากยังเป็นนักเตะเยาวชนของ เรอัล มาดริดอยู่