โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ซัดเบิกร่องพา “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล บุกถล่ม อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม 3-0 ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้สำเร็จ

โดยในเกมนี้เจ้าถิ่นไม่มีทางเลือกต้องเก็บ 3 คะแนนให้ได้เท่านั้นเพื่อต่อลมหายใจลุ้นเข้ารอบในเกมสุดท้าย ได้ดูซาน ทาดิช พ้นโทษแบนกลับมาประสานพ้นโทษแบนกลับมา ส่วนลิเวอร์พูลขอแค่ผลเสมอก็จะการันตีการเข้ารอบ 16 ทีมทันที ส่งดาร์วิน นูนเญซ ประสานเกมรุกร่วมกับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และโรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่

เริ่มเกมมาแค่ 2 นาที เจ้าถิ่นทักทายแรงจากการขึ้นเกมรุกครั้งแรก สตีเว่น เบิร์กฮุยส์ ได้โอกาสส่องก่อนบอลผ่านมือ อลิสซอน เบ็คเกอร์ แต่บอลไปชนเสา

หลังจากนั้น อาแจ็กซ์ ยังคงเป็นฝ่ายเปิดเกมรุกเข้าใส่มีโอกาสอยู่หลายครั้ง โดยเฉพาะจังหวะได้ซัดโล่ง ๆ ของ ดูซาน ทาดิช แต่บอลไปติดบล็อกของ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์

นาทีที่ 42 กลายเป็น ลิเวอร์พูล ที่บุกน้อยกว่ามาได้ประตูออกนำ 1-0 จากจังหวะที่ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน พลิกหนีตัวประกบก่อนจะดีดด้วยขวาบอลไซด์ก้อยให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เข้ามาโฉบยิงผ่านมือ เร็มโก้ ฟาสเฟียร์ นายทวารเจ้าถิ่นเข้าไป ทำให้จบครึ่งแรก ลิเวอร์พูล บุกนำอาแจ็กซ์ 1-0

กลับมาเล่นครึ่งหลังเริ่มเกมมาเพียง 4 นาที ลิเวอร์พูล มาได้ประตูนำห่าง 2-0 จากจังหวะเตะมุม แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน เปิดให้กับ ดาร์วิน นูนเญซ สลัดหนีตัวประกบโขกเข้าไปไม่เหลือ

จากนั้นนาทีที่ 52 ลิเวอร์พูล มาได้ประตูทิ้งห่างไปเป็น 3-0 โมฮาเหม็ด ซาลาห์ รับบอลจากกลางสนามก่อนจะจ่ายทะลุช่องให้ ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ หลุดเข้าไปซัดมุมแคบด้วยขวาแสกหน้า เร็มโก้ ฟาสเพียร์ เข้าไป

หลังจากนำห่าง 3-0 เยอร์เก้น คล็อปป์ ทยอยถอดผู้เล่นตัวหลักออกไป ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมไม่สามารถทำอะไรกันเพิ่มได้ ทำให้จบเกม ลิเวอร์พูล บุกเอาชนะ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม 3-0 กอดคอกับนาโปลีผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย

ส่วนในกลุ่ม บี เอฟซี ปอร์โต้ บุกถล่ม คลับ บรูช ที่เข้ารอบไปแล้ว 4-0 ทำให้ทั้งสองทีมควงกันผ่านเข้ารอบ 16 ทีมเช่นเดียวกัน เพราะ ยานนิค การ์ราสโก้ จุดโทษในช่วงทดเจ็บ ทำให้ “ตราหมี” แอตเลติโก้ มาดริด ทำได้เพียงเสมอกับ เลเวอร์คูเซ่น 2-2