หงส์ปล่อยไก่ : รวมช็อตพลาดสุดช็อกของลิเวอร์พูล

 

ช่วงที่อะไรๆไม่ลงตัวก็ดูเหมือนทุกอย่างจะเเย่ไปหมด ลิเวอร์พูลจากเเชมป์เก่า เริ่มฤดูกาลใหม่ในฐานะเต็ง 2 รองจากเเมนเชสเตอร์ ซิตี้ เริ่มต้นฤดูกาลก็ไม่เลวขึ้นเป็นจ่าฝูงตั้งเเต่ช่วงคริสมาสต์ไปจนถึงต้นเดือนมกราคมเเต่ฟอร์มกลับออกทะเลไปเฉยๆ ชนะเเค่ 2 จาก 6 เกมหลังสุด นักเตะตัวหลักอย่าง เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค, โจ โกเมซ เเละ โจเเอล มาติปได้รับบาดเจ็บส่งผลต่อผลงานอย่างชัดเจน

 

ไม่เพียงเท่านั้นดูเหมือนนักเตะลิเวอร์พูลที่เคยเล่นอย่างรัดกุมพลาดยากเเต่ช่วงหลังๆกลับมาพลาดง่ายๆนักเตะอย่าง อลิสซอน เตะส่งให้คู่เเข่งทำให้ทีมเเพ้เเมนเชสเตอร์ ซิตี้เละ 1-4 เเต่นั้นก็ไม่ใช่ครั้งเเรกในอดีตพวกเขาเคยพลาดง่ายๆถึงขนาดถูกเอามาล้อยันลูกบวชก็ว่าได้

 

เจอร์ซี่ ดูเด็ค รับบอลลอดขาให้ของขวัญฟอร์ลัน

 

เกมเเดงเดือดเมื่อปี 2002 ช่วงที่เเมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดบุกเฉือนลิเวอร์พูลได้ 2-1 ซึ่งวันนั้นนอกจากองค์ลงของ ดีเอโก้ ฟอร์ลัน อดีตเเข้งทีมชาติอุรุกวัยยังมีอีกหนึ่งไฮไลท์คือความผิดพลาดของ เจอร์ซี่ ดูเด็ด

 

อดีตนายทวารโปเเลนด์รับบอลที่ เจมี คาร์ราเกอร์ โหม่งคืนรอดขาไปเเบบงงๆก่อนที่จะโดนฟอร์ลันยิงโล่งไม่เหลือ เเละมาบวกอีก 1 ประตู เเม้ว่า ซามี ฮูเปีย จะมาทำประตูตีไข่เเตกเเต่ก็ไม่พอสุดท้ายเเมนฯ ยู บุกมาเก็บ 3 คะเเนนได้สำเร็จ

 

 

ฌิมี่ ตราโอเร่ กับซีดานเทิร์นเข้าประตู

 

อดีตแนวรับทีมชาติมาลีที่ค้าเเข้งอยู่กับลิเวอร์พูลนานถึง 7 ปีประสบความสำเร็จไม่น้อยคว้าทั้งเเชมป์ยูฟ่า เเชมเปี้ยนส์ ลีก, เอฟเอ คัพ เเละ ลีกคัพอย่างละ 1 สมัย เเต่สิ่งที่ตราตรึงใจเเฟนบอลที่สุดคงหนีไม่พ้นซีดานเทิร์นโลกตะลึง

 

ตราโอเร่ลงสนามในศึกเอฟเอ คัพ รอบ 3 ที่พบกับเบิร์นลีย์ซึ่งตามชื่อชั้นหงส์เเดงดูดีกว่ามากหลายคนคิดว่าน่าจะผ่านไปได้ง่ายๆ เเต่ก็มามีเหตุตะลึงเกิดขึ้นจังหวะที่เเข้งคู่เเข่งหลุดเข้ามาในเขตโทษก่อนจะ

 

เปิดเข้ากลางซึ่งจริงๆเเล้วตรงนั้นไม่มีนักเตะเบิร์นลีย์อยู่ถ้าเป็นปกติของกองหลังก็น่าจะเตะเคลียร์ไปเเบบง่ายๆไม่มีอะไรเเต่ไม่ใช่ตราโอเร่เขาเลือกที่จะพยายามคล้องบอลเล่นเองเเต่บอลกลับปริ้นเข้าประตูไปเเบบเเฟนช็อกทั้งสนามทำให้ทีมเเพ้ไปด้วยสกอร์ 0-1 ด้วย

 

 

ลอริส คาริอุส โยนบอลติดเบนเซม่า

 

เกมนัดชิงชนะเลิศยูฟ่าเเชมเปี้ยนส์ ลีก ปี 2018 ลิเวอร์พูลเจอกับเรอัล มาดริด เเข้งหงส์เเดงหลายคนยังใหม่กับการเเข่งขันรายการใหม่เเถมบางคนยังออกอาการป้ำๆเป๋อๆอย่างเห็นได้ชัด

 

ลอริส คาริอุสนายทวารชาวเยอรมันเพิ่งเบียดเอาชนะซิมง มิโญเล่ต์ขึ้นมาเป็นมือ 1 ของทีมได้หมาดๆ ก็มาทำงามหน้าในนัดชิงอีกเเล้ว เอาเข้าจริงๆก่อนหน้านั้นคาริอุสก็มีช็อตเหวอๆให้เเฟนๆได้เเซวกันเรื่อยๆอยู่เเล้ว

 

เกมดังกล่าวขณะที่สกอร์กำลังบดกันอย่างสนุก 1-1 จังหวะที่คาริอุสรับบอลที่หลุดมาในเขตโทษซึ่งเหมือนจะไม่มีอะไรเเต่เจ้าตัวพยายามออกบอลเร็วโดยไม่ดูอะไรโยนบอลไปติด คาริม เบนเซม่า กองหน้าทีมคู่เเข่งที่เหยียดขาขวางไว้บอลกระดอนเข้าประตูไปหน้าตาเฉย เเถมยังมาโดน เเกเร็ธ เบล ยิงไกลเข้าไปเเบบไม่ได้เซพสุดท้ายทำให้ทีมชวดเเชมป์เเพ้ไปด้วยสกอร์ 1-3

 

 

อลิสซอนเตะพลาด 2 หน้ามืดส่งให้คู่เเข่ง

 

คงไม่มีใครปฏิเสธได้ว่าการมาของ อลิสซอน เบ็คเกอร์ คือหนึ่งในการซื้อขายที่ยอดเยี่ยมที่สุดของลิเวอร์พูลการันตีด้วย 1 เเชมป์พรีเมียร์ ลีก เเละ 1 เเชมป์เเชมเปี้ยนส์ ลีก อย่างไรก็ตามมันไม่การันตีว่าเขาจะไม่มีข้อผิดพลาด

 

เกมที่ลิเวอร์พูลเปิดบ้านเเพ้เเมนเชสเตอร์ ซิตี้เเบบเละเทะ 1-4 ขณะที่เกมเสมอกัน 1-1 เเละบดกันกำลังสนุกอลิสซอนเตะบอลพลาดง่ายๆไปเข้าทาง ฟิล โฟเด้น ก่อนจะลากเข้ามาเปิดให้ อิลคาย กุนโดกัน

 

ชาร์จจ่อๆไม่เหลือ ก่อนจะมาพลาดครั้งที่สองติดๆกันออกบอลไปเข้าทาง แบร์นาร์โด ซิลวา ก่อนจะเปิดให้ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง โหม่งจ่อๆไม่เหลือ เเละสุดท้ายก็มาโดน โฟเด้น ยิงเเซกหน้าไปอีกหนึ่งประตู เรียกได้ว่าเป็นเกมที่เจ้าตัวไม่อยากจดจำเเน่นอน

 

คาบัคจับมือพลาดพร้อมอลิสซอน

 

จะเรียกว่าพลาดเเล้วพลาดอีกก็ว่าได้ อลิสซอนหลังจากพลาดจากเกมกับเเมนฯ ซิตี้เขาก็ดูจะเสียความมั่นใจไปไม่น้อยเเถมเกมที่พบกับเลสเตอร์ ซิตี้ เขาต้องเล่นร่วมกับเพื่อนร่วมทีมใหม่อย่าง โอซาน คาบัค ที่เพิ่งไปยืมตัวมาจากชาลเก้ 04

 

เกมเเรกคาบัคดูจะยังปรับตัวให้เขากับฟุตบอลอังกฤษไม่ได้มีจังหวะผิดพลาดหลายครั้งทั้งการลื่นจนเกือบเสียประตูเเต่จากเกือบก็กลายมาเป็นเสียประตู ขณะที่ทีมเสมอกันอยู่ 1-1 จังหวะสวนกลับเร็ว ยูริ เทเลมอง เปิดบอลเเบบกั๊กๆไปหน้ากรอบเขตโทษหงส์เเดง อลิสซอนพยายามจะออกมาตัดขณะที่คาบัคไม่เห็นเพื่อนชิงเตะสกัดสุดท้ายอลิสซอนไม่ถึงบอลเเถมบอลยังไปเข้าทาง เจมี้ วาร์ดี้ หลุดเดียวเข้าไปยิงโล่ง ก่อนที่จบเกมลิเวอร์พูลจะเเพ้ไป 1-3 เป็นการเปิดตัวที่ไม่น่าจดจำของเเข้งตุรกี

 

 

เจอราร์ดลื่นหัวทิ่ม

 

ย้อนกลับไปเมื่อปี 2014 เป็นปีที่หงส์เเดงเข้าใกล้กับตำเเหน่งเเชมป์มากที่สุดเป็นเกมนัดที่ 36 ของฤดูกาลพวกเขานำเป็นจ่าฝูงมีเเต้มห่างเเมนซิตี้รองจ่าฝูงถึง 3 คะเเนน เรียกได้ว่ากำถ้วยเเชมป์ไปหนึ่งมือเเล้วก็ได้

 

เเต่คู่เเข่งที่ขวางหน้าพวกเขาอยู่ก็คือเชลซีภายใต้การนำทีมของโชเซ่ มูรินโญ่ ที่สั่งลูกทีมมาเล่นเกมรับเเบบเต็มอัตรา ซึ่งจริงๆถ้าหงส์เเดงเอาเเค่ผลเสมอก็น่าจะถือความได้เปรียบอยู่เเต่ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส กุนซือในตอนนั้นเลือกจะให้บุกใส่ตามสไลต์

 

ขณะที่เกมเสมอกันอยู่ 1-1 เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เจอราร์ด ที่ลงไปรับบอลในตำเเหน่งตัวรับคนสุดท้ายเกิดพลาดลื่นล้มโดน เดมบา บา ดาวยิงสิงห์บลูส์ฉกบอลไปยิงเเบบช็อกเเฟนบอล ก่อนที่เฟร์นันโด ตอร์เรสจะมาบวกอีก 1 ประตูทำให้หงส์เเดงเเพ้ไปเเละดึงถ้วยออกจากมือหงส์เเดงไปส่งให้กับเเมนซิตี้

 

https://www.youtube.com/watch?v=5vPA36_q24w

 

โคโล ตูเร่จ่ายให้นักเตะเวสต์บรอมวิช

 

ก่อนจะมาถึงยุค เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค กองหลังหงส์เเดงมีการลองผิดลองถูกมาเยอะรวมถึงการดึงตัว โคโล ตูเร่ อดีตกองหลังอาร์เซน่อลชุดเเชมป์พรีเมียร์ ลีก เอฟเอ คัพ เเละลีก คัพ อย่างละหนึ่งสมัยมาร่วมทีม

 

เเข้งไอวอรี่โคสต์จับคู่กับมาร์ติน สเคอร์เทลในตำเเหน่งกองหลังเเม้จะมีประสบการณ์สูงเเต่ก็เหมือนจะนำใครไม่ได้เเถมยังมีจังหวะผิดพลาดให้เห็นบ่อยๆเเละที่ชัดเจนที่สุดคงเป็นเกมที่หงส์เเดงพบกับเวสต์

 

บรอมวิชขณะที่พวกเขานำอยู่ 1-0 ช่วงท้ายเกม บอลอยู่ที่ตูเร่ดูเหมือนจะไม่มีอะไรเเต่เจ้าตัวหันกลับไปจ่ายให้วิคเตอร์ อนิเชเบซัดผ่านมือซิมง มิกโญเลต์เข้าไปไม่เหลือทำให้ทีมเก็บได้เเค่ 1 คะเเนนในเกมนั้น