วลี ‘หนักแผ่นดิน’ กำลังเป็นกระแสและถูกพูดถึงอย่างมากในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นสื่อเก่าอย่าง หนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ หรือ สื่อใหม่ในโซเชียลมีเดียต่างๆอย่างเฟสบุ๊ค หรือ ทวิตเตอร์ เนื่องจากเป็นเพลงที่พลเอกได้แนะนำ (หรือไล่) ให้พรรคการเมืองหนึ่งในบ้านเราไปฟังเพื่อปรับทัศนคติ
แต่ UFA ARENA ไม่ได้มาพูดถึงเรื่องนั้น เพราะคำว่า ‘หนักแผ่นดิน’ ในวงการฟุตบอลก็มีนักเตะจากสโมสรหรือทีมชาติต่างๆมากมายที่ทำตัวเช่นนั้น จนต้นสังกัดหรือแฟนบอลต่างเอือมระอาและเบื่อหน่ายกับการกระทำเหล่านั้น ไม่ว่าจะเป็นฟอร์มการเล่นที่ห่วยจนเกินจะรับไหว หรือพฤติกรรมที่ชวนสร้างความหงุดหงิดก็ตาม และนี่คือ 9 แข้งชื่อดังที่เป็นแบบนั้น
ธิโบต์ กรูตัวส์
ฟอร์มการเล่นของนายทวารชาวเบลเยี่ยมไม่ได้มีปัญหาจนเพื่อนๆร่วมทีมหนักใจเลย แต่เป็นพฤติกรรมที่เขาแสดงออกมามากกว่าที่ทำให้แฟนบอลของแต่ละทีมที่เขาเคยอยู่ต้องเอือมระอา โดยเฉพาะช่วงท้ายที่ค้าแข้งกับเชลซี รวมไปถึงแฟนๆแอตเลติโก้ มาดริดที่ประกาสไม่เผาผีกับนายทวารคนเก่าอย่างเด็ดขาด
กรูตัวส์ออกอาการงอแงต้องการย้ายไปร่วมทีมเรอัล มาดริด จนออกนอกหน้าถึงขนาดไม่มาร่วมซ้อมกับทีมหลังหมดช่วงพักผ่อนในฟุตบอลโลก ทำให้เชลซีจำใจขายเขาออกไป แต่ผู้รักษาประตูวัย 26 ปีก็ยังไม่วาย แซะทีมเก่าว่าอยู่คนละระดับกับโลส บลังโกส ไม่แปลกที่แฟนสิงห์บลูจะสาปส่งให้เขาล้มเหลวในสเปน
นอกจากนี้กรูตัวส์ยังแฉว่า ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ นายเก่าของเขาในแอตเลติโก มาดริด ชอบแขวะราชันชุดขาวเพื่อเรียกคะแนนนิยมจากแฟนตราหมีอีกด้วย
อเล็กซิส ซานเชซ
นับตั้งแต่ดาวเตะชาวชิลีย้ายมาค้าแข้งกับปีศาจแดงในเดือนมกราคมปีที่แล้ว เขาแทบไม่ได้สร้างความประทับใจให้แฟนเร้ดอาร์มี่ได้เลย ออกไปทางผิดหวังด้วยซ้ำ เพราะตลอด 38 นัดที่เขาลงเล่น ซานเชซทำไปแค่ 5 ประตูกับอีก 9 แอสซิสต์เท่านั้น
มากไปกว่านั้น สิ่งที่ทำให้แฟนๆบอลรู้สึกแย่ในตัวซานเชซมากกว่าเดิมก็คือ การที่เขาได้ค่าเหนื่อยมากที่สุดในทีม โดยได้ไป 350,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ แต่ก็ไม่สร้างประโยชน์อะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย ไม่ว่าจะเป็นยุคที่โชเซ่ มูรินโญ่ หรือ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา คุมทีมอยู่ก็ตาม
จอร์จินโญ่
กองกลางป้ายแดงของเชลซี สร้างความประทับใจให้แฟนๆทันทีที่ย้ายมาเล่นในพรีเมียร์ลีกครั้งแรก และถูกมองว่าน่าจะเป็นหนึ่งการซื้อขายที่ดีที่สุดในฤดูกาลนี้ หลังจอร์จินโญ่เข้ามายกระดับในแดนกลางของเชลซี และมีสไตล์การเล่นแบบคุมจังหวะใกล้เคียงกับอันเดรีย ปีร์โล่ หรือ ชาบี อลอนโซ่ เลย
แต่ช่วงเวลาดีๆมักจะผ่านไปเร็วเสมอ การเล่นของจอร์จินโญ่เริ่มโดนคู่แข่งจับทางได้ ส่งผลให้เขาเล่นอย่างย่ำแย่ในสนาม ซึ่งเขาถูกแฟนบอลเชลซีมองว่าไม่อะไรโดดเด่นซักอย่าง นอกจากการจ่ายบอล แถมยังดึงกองกลางอย่าง เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ที่ฟอร์มดีมาตลอดให้ตกลงอย่างน่าประหลาดใจ
เมซุต โอซิล
เพลย์เม็คเกอร์ชาวเยอรมันเป็นตัวหลักให้ทีมทุกทีมเขาลงเล่นมาตลอด ไม่ว่าจะเป็นตอนค้าแข้งกับ เวเดอร์ เบรเมน, เรอัล มาดริด หรือต้นสังกัดในปัจจุบันอย่างอาร์เซน่อลด้วย แต่ทว่าสถานะในทีมของเขาเปลี่ยนไปนับตั้งแต่อูไน เอเมอรี่เข้ามาเป็นกุนซือทีมปืนใหญ่
แม้จะมีค่าเหนื่อยมากที่สุดในทีมและมากที่สุดเป็นอันดับสองในพรีเมียร์ลีก แต่กุนซือชาวสเปนก็ไม่ได้มองโอซิลต่างจากเดิม เขายังคงเป็นส่วนเกินในทีมอาร์เซน่อลต่อไป ในบางครั้งโอซิลอาจถูกค่อนแคะจากแฟนบอลว่าเขาไม่ได้ทำงานหนักมากพอและไร้ความกระตือรือในสนาม แต่พวกเขาก็ไม่ได้มองว่าโอซิลเป็นภาระในทีมเท่ากับที่เอเมอรี่มองอย่างแน่นอน
โรเมลู ลูกากู
ปีแรกในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด กองหน้าชาวเบลเยี่ยมเอาตัวรอดไปได้แบบฉิวเฉียด แต่ทว่าในปีต่อมา ลูกากูไม่ได้โชคดีแบบนั้นแล้ว เขากลายร่างจากกองหน้าจอมทำประตูเป็นกองหน้ากระสุนด้านเรียบร้อย
ในช่วงที่มูรินโญ่ยังคุมทีมอยู่ แฟนปีศาจแดงต้องบ่นผ่านหน้าจอทุกครั้งยามเห็นอดีตหัวหอกเอฟเวอร์ตันลงเล่น ทั้งๆที่ฟอร์มของเขาไม่สมควรจะเป็นตัวจริงเลย แต่กุนซือชาวโปรตุเกสก็ดันดันทุรังส่งลูกากูลงสนามอยู่ร่ำไป ก่อนที่เขาจะกลายเป็นกองหน้าเบอร์ 2 ในยุคของโซลชา
อัลบาโร่ โมราต้า
อัลบาโร่ โมราต้า เป็นกองหน้าที่อันโตนิโอ้ คอนเต้ กุนซือเชลซีคนเก่า เป็นคนซื้อเข้ามา แถมทำผลได้อย่างยอดเยี่ยมในช่วงแรกที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ แต่แล้วอาการบาดเจ็บก็ทำให้เขาฟอร์มสะดุดลงดื้อๆ อีกทั้งความมั่นใจที่มีในตอนแรกก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย
แม้ปีแรกจะไม่ประสบความสำเร็จเท่าไหร่ แต่แฟนสิงห์บลูก็หวังอย่างยิ่งว่ากองหน้าชาวสเปนจะกลับมาเฉิดฉายอีกครั้ง ทว่าปีที่สองในอังกฤษกลับตอกย้ำว่าโมราต้าใกล้เคียงกับคำว่าล้มเหลวในอังกฤษเต็มที หลังไม่สามารถเป็นตัวจริงในทีมของซาร์รี่ได้เลย และเรื่องการยิงประตูของเขาก็พึ่งพาไม่ได้เลย ทำให้เขาต้องย้ายกลับไปเล่นในบ้านเกิดกับแอตเลติโก มาดริดแบบยืมตัว เพื่อเรียกความมั่นใจกลับมา
แกเร็ธ เบล
แข้งชาวเวลส์ย้ายมาราชันชุดขาวด้วยค่าตัว 85 ล้านปอนด์ในปี 2013 ซึ่งถือเป็นสถิติโลกในเวลานั้นด้วย และเบลยังเป็นนักเตะคนสำคัญที่ช่วยให้ทัพโลส บลังโกส คว้าถ้วยแชมเปี้ยนส์ลีกมาครองได้อีกสมัยด้วย แต่หลังจากนั้นฟอร์มของเขาก็ต่างไปจากปีแรกพอสมควร
แฟนบอลเรอัล มาดริดต่างเห็นพ้องต้องกันว่าปีแรกของเบลในสเปนคือช่วงเวลาที่ดีที่สุดของเขาแล้ว เพราะในปีต่อมาๆ ผลงานในสนามของเขามักจะเอาแน่เอานอนไม่ได้ บางเกมก็โดดเด่นมาก แต่นัดต่อมากลับฟอร์มตกไปดื้อๆซะอย่างนั้น แถมอาการบาดเจ็บในแต่ละปีก็ทำให้แฟนบอลมาดริดเซ็งอยู่ไม่น้อย
เฮนริค มคิทาร์ยาน
เฮนริค มคิทาร์ยาน ย้ายมาร่วมทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในปี 2016 ซึ่งเขาผลงานในช่วงแรกไม่ดีนัก ก่อนจะปรับตัวได้ในเวลาต่อมา และเป็นส่วนสำคัญในการพาปีศาจแดงคว้าแชมป์ยูโรป้า ลีก สมัยแรกมาครองได้
แต่ทว่าในปีถัดมา มิคกี้ฟอร์มตกลงอย่างน่าใจหาย เนื่องจากอกหักจาการที่คนรักของเขาประกาศแต่งงานฟ้าแลบกับนักแสดงในวงการบันเทิงรัสเซีย ทำให้เขาถูกดร็อปและสลับขั้วกับอเล็กซิส ซานเชซ ย้ายไปอยู่กับอาร์เซน่อลในเวลาต่อมา
ผลงานในปืนใหญ่ทำท่าว่าจะสดใสขึ้น แต่ไปๆมาๆ แข้งชาวอาร์เมเนียก็ไม่สามารถยืดตัวจริงในทีมได้ถาวรเลย โดยในฤดูกาลนี้เขาลงเล่นเป็นตัวจริงในลีกแค่ 10 นัดเท่านั้นจาก 15 เกมที่ลงเล่นทั้งหมด ทำไปแค่ 5 ประตูกับอีก 1 แอสซิสต์เท่านั้น
โธมัส แฟร์มาเล่น
กองหลังกระดูกเปราะชาวเบลเยี่ยมเป็นที่เบื่อหน่ายของแฟนอาร์เซน่อลและบาร์เซโลน่ามากๆ เนื่องจากเขาใช้เวลาอยู่กับหมอและพยาบาล มากกว่าลงสนามบนฟลอร์หญ้าซะอีก แถมยามลงสนามก็ใช่ว่าจะทำผลงานได้ดีเหมือนสมัยก่อนด้วย
สื่อจากสเปนเคยลงสถิติของแฟร์มาเล่นว่าเขาพลาดลงสนามเพราะอาการบาดเจ็บมากถึง 240 นัดตลอดการค้าแข้ง และบาดเจ็บมากถึง 27 ครั้งนับตั้งแต่อายุ 20 ปีอีกด้วย