หน้าใหม่แต่ไฟแรง : 12 นักเตะคว้าแข้งยอดเยี่ยมพรีเมียร์ลีกตั้งแต่เดือนแรก

 

นับตั้งแต่ปี 1994 พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ได้มีการมอบรางวัลแข้งยอดเยี่ยมประจำเดือนให้นักเตะเป็นครั้งแรก โดยคัดเลือกผู้ชนะจากผู้เชี่ยวชาญในวงการ, กัปตันทีมในลีก และ ผลโหวตออนไลน์ที่คิดเป็น 10 เปอร์เซนต์ของคะแนนทั้งหมด

 

ผ่านไป 25 ปีกว่าๆ รางวัลนี้ก็ยังคงเป็นที่พูดถึงของแฟนบอลในแต่ละเดือนเรื่อยมา ซึ่งรายล่าสุดที่คว้ารางวัลนี้คือ บรูโน่ แฟร์นานเดส กองกลางป้ายแดงของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ทำผลงานโดดเด่นสุดๆนับตั้งแต่ย้ายมาค้าแข้งในแดนผู้ดีเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา

 

มากกว่าไปนั้นเขาเป็นหนึ่งใน 12 ผู้เล่นที่คว้ารางวัลนี้ตั้งแต่ย้ายมาค้าแข้งในพรีเมียร์ลีกหรือกับต้นสังกัดใหม่ในเดือนแรกด้วย

 

แต่ 11 คนก่อนหน้า  แข้งปีศาจแดงจะมีใครบ้างที่คว้ารางวัลนี้กับต้นสังกัดใหม่ไปครองตั้งแต่เดือนแรกกันบ้า’ลองไปหาคำตอบผ่านบทความชิ้นนี้กัน

 

 

บรูโน่ แฟร์นานเดส | กุมภาพันธ์ 2020 (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)

 

 

กองกลางชาวโปรตุกีส ย้ายมาสวมเครื่องแบบปีศาจแดงอย่างเป็นทางการในวันที่ 29 มกราคม จากสปอร์ติ้ง ลิสบอน ด้วยค่าตัว 68 ล้านปอนด์ และได้ประเดิมสนามนัดแรกในเกมที่เสมอกับ วูล์ฟแฮมป์ตันแบบไร้สกอร์ในเดือนต่อมา

 

ทว่าหลังจากนั้น บรูโน่ ก็ฉายแววเด่นทันทีในเกมที่บุกไปเอาชนะ เชลซี ถึง สแตมฟอร์ด บริดจ์ 2-0 ด้วยการทำ 1 แอสซิสต์ ก่อนจะทำประตูในอาทิตย์ต่อมาที่เอาชนะ วัตฟอร์ด 3-0 แถมเขายังจ่ายให้ เมสัน กรีนวู๊ด ซัดประตูที่ 3 ในเกมวันนั้น

 

 

ตีมู ปุ๊กกี้ | สิงหาคม 2019 (นอริช ซิตี้)

 

 

หัวหอกชาวฟินแลนด์ กลายเป็นที่จับตามองอย่างมากในช่วงต้นฤดูกาล และพิสูจน์ตัวเองได้ว่าเขามีฝีเท้าที่ดีเกินกว่าจะเล่นในแชมเปี้ยนส์ชิพ

 

แข้งวัย 25 ปี กดไป 5 เม็ด จาก 4 นัดแรกของเดือนสิงหาคม โดยในจำนวนนั้นคือ แฮตทริกในเกมที่พบนิวคาสเซิล และเกมเปิดฤดูกาลที่พบ ลิเวอร์พูลด้วย น่าเสียดายที่ฟอร์มการยิงประตูของเขาก็ค่อยๆลดลง โดยยิงในลีกเพิ่มแค่ 6 ประตูหลังจากนั้น

 

 

อองโทนี่ มาร์กซิยาล | กันยายน 2015 (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)

 

 

แฟนปีศาจแดงต่างงงงวยไม่น้อย เมื่อทีมรักของพวกเขาไปคว้าดาวรุ่งจากโมนาโกมาร่วมทีมในซัมเมอร์ปี 2015 ด้วยค่าตัวกว่า 36 ล้านปอนด์ ซึ่งถือว่าไม่ใช่จำนวนน้อยๆเลยในยุคนั้น

 

แต่หัวหอกวัย 19 ปี ณ ตอนนั้นก็ปิดปากเสียงวิจารณ์เงียบกริบด้วยการซัดไป 3 ประตู จาก 4 นัดแรกในลีก และหลายคนคงจดจำช็อตลากเลื้อยที่ยิงใส่ลิเวอร์พูลในนัดประเดิมได้อย่างแน่นอน

 

ปัจจุบัน มาร์กซิยาล ยังคงเป็นตัวหลักในแนวรุกของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา โดยซัดไป 16 ประตู กับ 5 แอสซิสต์ จากการลงเล่น 34 นัดในทุกรายการของฤดูกาลนี้

 

 

อังเดร อายิว |  สิงหาคม 2015 (สวอนซี)

 

 

อายิว เริ่มต้นชีวิตในเวลส์ได้ราวกับฝันหลังย้ายมาร่วมทีมแบบไร้ค่าตัวในซัมเมอร์ปี 2015 ด้วยการยิงไป 3 ประตู และช่วยให้สวอนซี่ไม่แพ้ใครในเดือนแรกของฤดูกาล แถมโผล่ขึ้นไปรั้งอันดับที่ 4 จาก 4 นัดแรกอีกต่างหาก

 

แข้งชาวกาน่า ซัดประตูในนัดประเดิมสนามที่เสมอกับ เชลซี 2-2 ก่อนจะยิงได้ในสัปดาห์ต่อมาที่เอาชนะ นิวคาสเซิลได้ จากนั้นก็รักษาฟอร์มอันยอดเยี่ยมด้วยการยิง 1 จ่าย 1 ในเกมที่พบกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

 

 

ดีเอโก้ คอสต้า | สิงหาคม 2014 (เชลซี)

 

 

หัวหอกชาวสแปนิช  ประสบความสำเร็จอย่างมากกับการค้าแข้งในถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ตลอดปี และเป็นคนสำคัญที่ช่วยให้ โชเซ่ มูรินโญ่ คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2014-15

 

คอสต้า เริ่มต้นด้วยฟอร์มอันร้อนแรง กดไป 4 ประตู จาก 3 นัดแรกในเดือนสิงหาคม ทำให้เขาคว้ารางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำเดือนไปครอง

 

แม้จะย้ายกลับไปเล่นในสเปน กลับแอตเลติโก้ มาดริด แล้ว แต่กองหน้าจอมตุกติกก็เคยติดทีมยอดเยี่ยมประจำฤดูกาล 2014-15 และคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือนอีกครั้งในเดือนพฤศจิกายนปี 2016

 

 

สตีเว่น เฟลชเชอร์ | กันยายน 2012 (ซันเดอร์แลนด์)

 

 

แม้ว่า เฟลชเชอร์ จะย้ายไปร่วมทีม ซันเดอร์แลนด์ ในเดือนสิงหาคมปี 2012 แต่เขาก็ไม่ได้ลงเล่นให้ต้นสังกัดใหม่เลยกนกระทั่งวันที่ 1 กันยายน 

 

แต่ค่าตัว 12 ล้านปอนด์ที่จ่ายให้ วูล์ฟแฮมป์ตัน 12 ล้านปอนด์ ก็ออกดอกออกผลอย่างรวดเร็ว เมื่อหอกชาวสก็อตกดไปถึง 5 ประตูจาก 4 นัดในเดือนดังกล่าว โดยเหมา 2 ในเกมประเดิมสนามพบ สวอนซี และประตูโทนในเกมเฉือน วีแกน 1-0 ก็เพียงพอจะทำให้เขาคว้ารางวัลนี้ไปครอง

 

 

ดาร์เรน เบนท์ | สิงหาคม 2005 (ชาร์ลตัน)

 

 

หลังทำผลงานเด่นกับ อิปสวิช ทาวน์ ทำให้ ชาร์ลตัน ที่ยังโลดแล่นอยู่ในศึกพรีเมียร์ลีก กระชากตัว ดาร์เรน เบนท์ มาร่วมทีมในซัมเมอร์ปี 2005 

 

หัวหอกชาวอังกฤษ ปรับตัวกับทีมแดนใต้ได้อย่างรวดเร็ว ด้วยการเหมา 2 ประตูในเกมนัดแรกที่พบกับ ซันเดอร์แลนด์ และยิงได้ทั้งหมดใน 4 นัดแรกกับต้นสังกัดใหม่ ไม่แปลกที่เขาจะคว้ารางวัลในเดือนสิงหาคมไปนอนกอด

 

มากไปกว่านั้น เบนท์ยังรักษาฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมต่อไปจนจบฤดูกาล 2005-06 ด้วยการซัดไป 18 ประตูในลีก กลายเป็นนักเตะอังกฤษที่ยิงประตูมากที่สุดเหนือใครๆ

 

 

เท็ดดี้ เชอร์ริงแฮม | สิงหาคม 2003 (พอร์ทสมัธ)

 

 

พอร์ทสมัธทำการคว้าตัว เท็ดดี้ เชอร์ริงแฮม มาร่วมทีมแบบฟรีๆ หลังเจ้าตัวหมดสัญญากับ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ในซัมเมอร์ปี 2003 เพื่อช่วยให้พวกเขาอยู่รอดปลอดภัยในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลแรก

 

ซึ่ง น้าหมี ก็กลายเป็นคนที่แฟนปอมปีย์หวังไว้จริงๆ หลังยิงในนัดแรกที่พบกับ แอสตัน วิลล่า และกดแฮตทริกนัดที่พบ โบลตัน ทำให้เขากลายเป็นนักเตะอายุมากที่สุดในลีกสูงสุดแดนผู้ดีที่ทำแฮตทริกได้ (37 ปี) และช่วยให้ทีมรั้งอันดับที่ 13 ในฤดูกาลนั้นด้วย

 

 

ร็อบบี้ คีน | สิงหาคม 1999 (โคเวนทรี่)

 

 

เมื่อครั้งยังเป็นดาวรุ่ง ร็อบบี้ คีน ระเบิดฟอร์มได้โดดเด่นเกินวัยกับ วูล์ฟแฮมป์ตัน จนกลายเป็นที่จับจ้องของทีมใหญ่ๆในอังกฤษ แต่กลับเป็น โคเวนทรี่ ที่คว้าตัวเขาไปร่วมทีมในช่วงเปิดฤดูกาล 1999-2000 ด้วยค่าตัว 6 ล้านปอนด์

 

แต่เงินจำนวนนั้นที่ทีม สกาย บลูส์ เสียไปต้องบอกว่าเกินคุ้ม เมื่อเขาทำ 2 ประตูในเกมนัดแรกที่พบกับ ดาร์บี้ และยิงได้ในอาทิตย์ต่อมาที่เสมอกับ ซันเดอร์แลนด์ 

 

แม้จะคว้าแข้งยอดเยี่ยมประจำเดือนสิงหาคมไปครอง แต่ หอกเลือดไอริชยังรักษาฟอร์มเด่นต่อไป โดยยิงไปทั้งหมด 12 ประตู จาก 31 นัดในลีก

 

 

พาทริค แบร์เกอร์ | กันยายน 1996 (ลิเวอร์พูล)

 

 

หลังจากที่โชว์ฟอร์มสุดปังในยูโร 1996 กับ สาธารณรัฐเช็ก ทำให้ลิเวอร์พูลรีบคว้าตัว พาทริค แบร์เกอร์ จาก โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ มาร่วมทีมด้วยค่าตัว 3 ล้านปอนด์ ตั้งแต่ก่อนเปิดฤดูกาล

 

แม้จะย้ายมาร่วมทีมก่อนเดือนสิงหาคม แต่ แบร์เกอร์ ก็ได้ลงเล่นนัดแรกให้กับหงส์แดงในเดือนกันยายน ถึงอย่างนั้นเขาถูกคาดหวังจาก เดอะ ค็อป อย่างมากหลังลงมาเป็นตัวสำรองในนัดที่เอาชนะ เซาแธมป์ตัน 2-1 

 

 ในเดือนนั้น แข้งชาวเช็ก ยิงประตูชัยในนัดที่พบ เลสเตอร์ และ เชลซี ทำให้เขาคว้ารางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมในเดือนกันยายนมาครอง ทว่าหลังจากนั้นเขากลับยิงเพิ่มไปเพียง 2 ประตู และตัวเลขก็หยุดอยู่แค่นั้นจนกระทั่งจบฤดูกาล 1996-97

 

 

ดาวิด ชิโนล่า | สิงหาคม 1995 (นิวคาสเซิล)

 

 

แม้ ชิโนล่า ถูกรายงานจากสื่อหลายๆเจ้าว่า บาร์เซโลน่า ต้องการคว้าตัวเขาไปร่วมทีม แต่สุดท้ายกลับกลายเป็น นิวคาสเซิล ของ เควิน คีแกน ที่คว้าตัวเขาไปร่วมทีมแทนในปี 1995

 

ฟอร์มการเล่นช่วยที่ยกระดับสาลิกาดงให้ดีขึ้นผิดหูผิดตา ทำให่กองกลางชาวฝรั่งเศสคว้ารางวัลแข้งยอดเยี่ยมประจำเดือนแรกในฤดูกาล 1995-96 ไปแบบไม่พลิกโผ แม้จะยิงแค่ลูกเดียวเท่านั้น

 

อีกทั้งยังเป็นแข้งคนสำคัญที่ทำให้ทีมแดนอีสานขึ้นมาลุ้นแชมป์อย่างเต็มตัว แต่ก็ถูก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ปาดหน้าคว้าแชมป์ลีกแทน

 

 

เจอร์เก้น คลินสมันน์ | สิงหาคม 1994 (สเปอร์ส)

 

 

หัวหอกชาวเยอรมันคือนักเตะคนแรกที่คว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือนของพรีเมียร์ลีก ที่เริ่มมีการมอบรางวัลนี้ในฤดูกาล 1994-95

 

หลังย้ายจาก โมนาโก มาค้าแข้งในถิ่นลอนดอนเหนือ แข้งฉายา ‘ฉลามขาว’ ก็ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยการโหม่งประตูในนัดแรกที่กับ เชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์ ตามมาด้วยการเหมา 2 เม็ดในนัดที่พบ เอฟเเวอร์ตัน และ อิปสวิช ทาวน์ ทำให้คว้ารางวัลนี้ไปแบบไม่มีข้อกังขา

 

คลินส์มันน์จบฤดูกาลแรกกับการค้าแข้งในอังกฤษด้วยการยิงไปทั้งหมด 22 ประตู จากทุกรายการที่ลงเล่น และกลายเป็นตำนานของไก่เดือยทองในเวลาต่อมา นอกจากนี้เขายังคว้าอันดับ 2 ของผู้เข้าชิงบัลลงดอร์ในปี 1995 ด้วย