ฤดูกาล 2019-20 ถือว่าเป็นปีที่ ไค ฮาเวิร์ตซ์ ทำผลงานในอาชีพค้าแข้งที่โดดเด่นที่สุด นับตั้งแต่ประเดิมชุดใหญ่กับ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ครั้งแรกในปี 2016 ไม่แปลกที่เขาจะได้รับความสนใจจากสโมสรดังมากมายทั่วยุโรป
ตัวรุกทักษะสูงชาวเยอรมัน พัฒนาฝีเท้าได้อย่างรวดเร็วในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา แต่ในฤดูกาลล่าสุดคือช่วงที่เขายอดเยี่ยมมากที่สุดในทีมห้างขายยา ด้วยการซัดไป 20 ประตูจากทุกรายการที่ลงเล่น อีกทั้งยังทำไป 6 แอสซิสต์ด้วย
ด้วยผลงานที่สามารถเห็นได้เป็นรูปธรรม ทำให้แข้งวัย 21 ปี มีโอกาสไม่น้อยที่จะตามรอยรุ่นพี่ในอดีตเพื่อย้ายไปประสบความสำเร็จกับสโมสรที่ใหญ่กว่าเดิม ยกตัวอย่างเช่น มิชาเอล บัลลัค, โทนี่ โครส หรือ อาร์ตูโร่ วิดัล
นอกจากนี้ ฮาเวิร์ตซ์ ยังเอ่ยปากบอกกับ สปอร์ต บิลด์ สื่อในเมืองเบียร์ด้วยตัวเองว่า “ผมพร้อมแล้วที่จะก้าวไปข้างหน้า และผมชื่นชอบความท้าทาย สำหรับผมแล้ว นี่รวมถึงการย้ายไปต่างแดนด้วย”
“เลเวอร์คูเซ่น เป็นสโมสรที่ยอดเยี่ยม ผมรู้สึกดีนะ ผมพูดแบบนั้นเสมอ แต่แน่นอนว่าผมก็อยากเติบโตต่อไปในอาชีพค้าแข้ง ณ ช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งด้วย นั่นคือความทะเยอทะยานของผม”
ว่าแต่จุดหมายต่อไปของ วันเดอร์คิดเมืองเบียร์จะเป็นที่ใด ทาง UFA ARENA จะพาไปวิเคราะห์ 4 ทีมที่ ฮาเวิร์ตซ์ น่าจะย้ายไปฝากอนาคตมากที่สุดในตอนนี้
บาร์เซโลน่า
นักเตะหมายเลข 10 คือของที่อยู่คู่กับ บาร์เซโลน่า มาทุกยุคทุกสมัย ไล่ตั้งแต่ โยฮัน ครัฟฟ์, จอร์จี้ ฮาจี้, ดีเอโก้ มาราโดน่า หรือ ไมเคิล เลาดรู๊ป
ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ควรเป็นนักเตะที่สืบทอดตำแหน่งนี้ในสโมสร แต่ผลลัพธ์ที่ออกมากลับไม่เป็นไปอย่างที่ใครๆคาดหวังไว้เท่าไหร่ จนทำให้เขาต้องย้ายไปเล่นแบบยืมตัวก้บ บาเยิร์น มิวนิค ในซัมเมอร์ปีก่อน
อีกทั้งอนาคตของ คูตี้ หลังย้ายกลับมาอาซูลกราน่ายังไม่สามารถการันตีได้ว่าจะเป็นอย่างไร นั่นทำให้โอกาสในการดึงตัว ฮาเวิร์ตซ์ เพื่อมาเสริมคุณภาพเกมรุกย่อมมีมากขึ้น
ความสามารถที่หลากหลายของ เพลย์เมกเกอร์ชาวเยอรมัน ทำให้เขาโดดเด่นในตำแหน่งตัวริมเส้น ซึ่งเป็นจุดที่ คูตินโญ่ แจ้งเกิดไม่ได้ ขณะที่การทำประตูของเขาอาจพัฒนามากขึ้น เมื่อมีตัวทำเกมระดับโลกคอยเปิดป้อนให้ในทีม
ฮาเวิร์ตซ์ ลงเล่นในตำแหน่งริมเส้น 10 นัดในบุนเดสลีก้าฤดูกาลนี้ ซึ่งเขาทำได้ 3 ประตูจากบทบาทดังกล่าว ดังนั้นการขยับเขาไปเล่นด้านข้างคงไม่ทำให้ความสามารถในการทำประตูลดลง เมื่อบวกกับการมาของ มิลาเร็ม ปานิช และ แฟรงกี้ เดอ ยอง ในแดนกลาง น่าจะทำให้เกมรุกของบาร์ซ่าดูลื่นไหลกว่าเดิมแน่นอน
อีกจุดที่ทำให้ ยอดทีมจากกาตาลัน ดูได้เปรียบในการคว้า ฮาเวิร์ตซ์ มาร่วมมากกว่าสโมสรไหน เป็นเพราะก่อนหน้านี้ แข้งวัย 21 ปี เคยกล่าวชื่นชมสโมสรนี้ในชุดที่คว้าถ้วยแชมเปี้ยนส์ลีกในปี 2006 ด้วย
“สโมสรที่ผมชื่นชอบเป็นพิเศษในเวลานั้นคือ บาร์เซโลน่า ซึ่งเป็นสโมสรแรกที่ผมชื่นชอบ ห้องของผมเต็มไปด้วยโปสเตอร์ของ บาร์ซ่า เลยล่ะ” ฮาเวิร์ตซ์ ให้สัมภาษณ์กับ สป็อกซ์ สื่อกีฬาในเยอรมัน
นี่คงเป็นความฝันที่เป็นจริง หาก ฮาเวิร์ตซ์ ได้มีโอกาสสวมเสื้อที่เลือดหมูในอนาคตอันใกล้นี้
เชลซี
ข่าวคราวการย้ายทีมของ อาเวิร์ตซ์ มีการพลิกไปมาในช่วง 2-3 ปีหลังสุด แต่ในตอนนี้ เชลซี คือ สโมสรที่ตกเป็นข่าวกับตัวรุกเมืองเบียร์มากกว่าทีมไหนๆ โดยเฉพาะหลังจากที่ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น จบอันดับ 5 ในบุนเดสลีก้า และพลาดคว้าตั๋วไปลุยแชมเปี้ยนส์ลีกฤดูกาลหน้า
ทางด้าน แฟรงค์ แลมพาร์ด กุนซือสิงห์บลู ก็ไม่ปิดบังความชื่นชอบในฝีเท้าของ ฮาเวิร์ตซ์ เช่นกัน ซึ่งหลังจากที่ทีมคว้า ฮาคิม ซีเยค และ ติโม แวร์เนอร์ มาร่วมทีมได้แล้ว แลมพ์ก็อาจเดินหน้าเพื่อปิดจ็อบดีลนี้
แต่ด้วยค่าตัวจำนวนมหาศาล อาจทำให้ทีมต้องโละนักเตะจำนวนหนึ่งที่ไม่อยู่ในแผนทำทีมออกไปเช่น มิตชี่ บัตชูอายี่ หรือ ติเอมูเอ้ บากาโยโก้
จากรายงานของ เอ็กซเพรส สปอร์ต สื่อในแดนผู้ดี เผยว่า ทีมดังจากลอนดอนพร้อมปล่อยนักเตะออกจากทีมอย่างน้อยถึง 6 คนด้วยกัน ทั้ง มาร์กอส อลอนโซ่, บัตชูอายี่, บากาโยโก้, เคเนดี้ และ แดนนี่ ดริงค์วอเตอร์
หาก แลมพาร์ด สามารถตัดสินใจในเรื่องนี้ได้น่าจะทำให้ เชลซี เป็นทีมที่มีศักยภาพในการลุ้นแชมป์ รวมไปถึงรายการฟุตบอลยุโรปด้วย ซึ่ง ฮาเวิร์ตซ์ คงจะช่วยสามารถคุณภาพในเกมรุกได้หลากหลาย และทำให้เขาโดดเด่นยิ่งขึ้น อีกทั้ง การได้คำแนะนำจาก แลมพาร์ด ที่คว้าแชมป์ในสมัยค้าแข้งมาแล้วมากมายก็เป็นเรื่องที่ดีไม่น้อยเช่นกัน
นอกจากนี้ ฮาเวิร์ตซ์ ยังมีความคล้ายคลึงกับ กุนซือสิงห์บลูคนปัจจุบันไม่น้อย เนื่องจากลีลาการถล่มประตูที่มีค่าเฉลี่ยสูงกว่ากองกลางปกติทั่วไป
การพัฒนาดาวรุ่งคือจุดเด่นอีกอย่างที่ แลมพาร์ด แสดงให้เห็นในฐานะกุนซือ ไม่ว่าจะในฤดูกาลนี้กับ เชลซี หรือ ดาร์บี้ เมื่อฤดูกาลก่อน และเชื่อว่า ฮาเวิร์ตซ์ น่าจะเก็บเรื่องนี้ไว้พิจารณาถึงอนาคตของเขาอย่างแน่นอน
โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์
โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ พยายามขึ้นมาเป็นเบอร์หนึ่งในบุนเดสลีก้า แต่ก็เป็นอีกครั้งที่พวกเขาเสียท่าให้กับ บาเยิร์น มิวนิค เจ้าของแชมป์ลีกฤดูกาลล่าสุด
และทางฝั่งเสือใต้เองก็เดินหน้าเสริมทัพเพื่อความสำเร็จในอนาคตทันทีหลังฤดูกาลจบลง ไม่ว่าจะเป็น ลีรอย ซาเน่, ตองกีย์ คูอาสซี่ และ อเล็กซานเดอร์ นูเบล
ด้วยเหตุนี้ทำให้ ลูเซียน ฟาฟร์ กุนซือเสือเหลือง จำเป็นต้องสร้างความสดใหม่ในทีมด้วยเช่นกัน หลัง อัชราฟ ฮาคิมี่ ย้ายซบ อินเตอร์ มิลาน เรียบร้อย แม้จะได้ โธมัส มูนิเย่ร์ มาเสริมหลังบ้านแบบไร้ค่าตัว แต่ มาร์โก รอยส์ ปีกคนสำคัญก็ยังมีอาการบาดเจ็บรบกวนอยู่บ่อยครั้ง
จริงอยู่ที่ ตัวรุก ในทีมของกุนซือชาวสวิตนั่นมีให้เลือกใช้มากมาย ไม่ว่าจะเป็น จาดอน ซานโช่, ธอร์แกน อาซาร์, จูเลี่ยน บรันด์ท และ เออร์ลิ่ง เบราท์ ฮาแลนด์ แต่การคว้าดาวเด่นจาก ห้างขายยา มาร่วมทีมในซัมเมอร์นี้ น่าจะทำให้พวกเขามีโอกาสลุ้นแชมป์ได้มากกว่าฤดูกาลที่ผ่านมา
ก่อนหน้านี้ เสือเหลือง เคยดึง บรันด์ท มาจากเลเวอร์คูเซ่นแล้วในฤดูกาลก่อน ซึ่ง กัปตันทีมอย่าง รอยส์ ได้ยืนยันตั้งแต่ต้นฤดูกาลนี้แล้วว่า เขาจะพยายามทำทุกอย่างเพื่อโน้มน้าวให้ ฮาเวิร์ตซ์ ย้ายมาร่วมทีมให้ได้ เหมือนที่เคยทำได้กับ บรันท์ด
“ผมจะทำทุกอย่างเพื่อให้เขาย้ายมา ดอร์ทมุนด์ ให้ได้” รอยส์ กล่าวกับ สปอร์ตวัน ในเดือนกันยายนปีก่อน “ผมไม่รู้ว่าเขาจะมีค่าตัวเท่าไหร่ หรือ ดอร์ทมุนด์ จะจ่ายไหวหรือไม่”
“แต่ผมจะทำให้เต็มที่ เหมือนที่ผมเคยทำกับ จูเลี่ยน (บรันด์ท) กับ จูเลี่ยน ผมถือว่ามีพวกที่รู้จักเขาเป็นอย่างดี ดังนั้นเราค่อยมาดูกันต่อไป”
เมื่อเปรียบเทียบกับนักเตะทุกคนใน ดอร์ทมุนด์ ฤดูกาลนี้ มีแค่ ซานโช่ (69 ครั้ง, 16 แอสซิสต์) คนเดียวเท่านั้นที่สร้างโอกาสในบุนเดสลีก้าได้มากกว่า ฮาเวิร์ตซ์ ที่ทำไป 59 ครั้ง และแอสซิสต์ไป 6 ครั้ง
อย่างไรก็ตาม นั่นไม่ได้ทำให้ความสนใจที่ดอร์ทมุนด์มีในตัว ฮาเวิร์ตซ์ ลดน้อยลงแต่อย่างใด เนื่องจากความสามารถในการเล่นได้ทุกตำแหน่งในแดนกลาง จะทำให้ ฟาฟร์ เปลี่ยนรูปแบบการเล่นเกมรุกระหว่างแข่งขัน และน่าจะช่วยให้พวกเขามีลุ้นคว้าแชมป์ลีกอีกครั้ง
แมนเชสเตอร์ ซิตี้
แม้ว่า เป๊ป กวาร์ดิโอล่า จะมีนักเตะระดับโลกอยู่ในทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ มากมาย และแทบไม่มีข่าวกับดาวเตะจากเลเวอร์คูเซ่นเลย แต่กุนซือชาวกาตาลุนญ่า ก็เป็นอีกคนที่หลงใหลในความสมบูรณ์แบบ และไม่แปลกใจเลย หากเขาแอบจับจ้องไปที่ ฮาเวิร์ตซ์ ซึ่งทำผลงานได้โดดเด่นในลีกเยอรมันที่เขารู้จักเป็นอย่างดี
จากหลายๆปีที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่า เรือใบสีฟ้า เป็นหนึ่งในสโมสรที่อำนาจในการเงินเป็นอันดับต้นๆของยุโรป และการที่ ดาบิด ซิลบา เตรียมลาถิ่นเอติฮัดในซัมเมอร์นี้ อาจทำให้ กวาร์ดิโอล่า จำเป็นต้องหาผู้สืบทอดที่เหมาะสมมาทดแทนตำแหน่งของจอมทัพชาวสแปนิช
หลายคนคาดว่า ฟิล โฟเด้น จะก้าวขึ้นแทนที่ตำแหน่งของ ซิลบา แต่ถ้าพวกเขาล้มเหลวอีกครั้งในแชมเปี้ยนส์ลีกฤดูกาลนี้ พวกเขายังจะกล้าเสี่ยงให้ ดาวรุ่งชาวอังกฤษ รับบทบาทนี้ต่อไปหรือ? และประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาของซิตี้ ก็ตอบคำถามนี้ได้อย่างชัดเจน
นับตั้งแต่ย้ายมาในแมนเชสเตอร์ เป๊ป ไม่หวั่นที่จะใช้จ่ายเงินมากมายเพื่อเสริมความแข็งแกร่งในทีม ทั้งในช่วงปิดฤดูกาล, ซัมเมอร์ หรือ ตลาดนักเตะหน้าหนาว และพวกเขาอาจลงทุนครั้งใหญ่ในตลาดนักเตะหนนี้เพื่อโอกาสในการดึงตัว ฮาเวิร์ตซ์ มาร่วมทีม
ไม่มีกองกลางคนไหนที่สัมผัสบอลในแดนคู่แข่งของบุนเดสลีก้า ฤดูกาลนี้ ได้มากกว่า ฮาเวิร์ตซ์ อีกแล้ว (140 ครั้ง) และเป็นกองกลางที่ยิงประตูได้เป็นอันดับ 2 (12 ลูก) ตามหลัง ซานโช่ (17 ลูก) ซึ่งนี่ถือเป็นความยอดเยี่ยมและลื่นไหลในการเล่นรุกของ ฮาเวิร์ตซ์ ที่น่าจะสามารถทดแทนการขาดหายไปของ ซิลบา ในระยะยาวได้อย่างสมบูรณ์แบบ