อกหัก 9 ครั้งยังไม่สาย : เส้นทางสู่ชัยชนะเพลย์ออฟหนแรกของ เบรนท์ฟอร์ด

เบรนท์ฟอร์ด
เบรนท์ฟอร์ด

 

เบรนท์ฟอร์ด กลายเป็นสโมสรที่ 3 ที่จะได้เลื่อนชั้นขึ้นไปเล่นในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลหน้า ตามหลัง นอริช และ วัตฟอร์ด ด้วยการคว้าชัยในการเพลย์ออฟเลื่อนชั้นเหนือ สวอนซี เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา

 

ประตูของ อิวาน โตนี่ย์ และ เอมิเลียโน่ มาร์คอนเดส ช่วยให้ ‘เดอะ บีส์’ ขึ้นมาโลดแล่นในพรีเมียร์ลีกเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร และเป็นทีมที่ 50 ที่ได้ขึ้นมาเล่นในลีกสูงสุดยุคใหม่

 

อย่างไรก็ตาม ทีมจากลอนดอนตะวันตก เคยครองสถิติที่ไม่น่าอภิรมย์นัก เพราะนับตั้งแต่ฤดูกาล 1990-91 พวกเขาปราชัยในเกมเพลย์ออฟเลื่อนชั้นมากถึง 9 ครั้ง และไม่ว่าจะก่อนหน้านั้นจะโชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมแค่ไหน ก็มาตกม้าตายนัดสุดท้ายตลอด

 

UFA ARENA จึงขอพาไปพบกับ เส้นทางการเล่นเพลย์ออฟของ เบรนท์ฟอร์ด ตลอดช่วง 30 ปีที่ผ่านมา ก่อนประสบความสำเร็จกับการเล่นเพลย์ออฟเลื่อนชั้นหนที่ 10 ของสโมสร

 

 

รอบตัดเชือกดิวิชั่น 3 | ฤดูกาล 1990-91

 

 

เบรนท์ฟอร์ด ใช้เวลาในระหว่างยุค 1960-1980 วนเวียนอยู่ในดิวิชั่น 3 และ 4 ในฟุตบอลอังกฤษ แต่ก็มีแววหลุดพ้นวงโคจรนี้ได้ช่วงต้นยุค 90 เมื่อ สตีฟ เพอร์รี่ย์แมน ผู้จัดการทีมได้ลาออกก่อนเปิดฤดูกาลใหม่เพียง 10 วัน จน ฟิล โฮลเดอร์ ผู้ช่วยของเขาต้องมารับช่วงต่อ และใช้เวลาไม่นานก่อนสร้างให้ทีมขึ้นรั้งอันดับบนของตาราง

 

‘เดอะ บีส์’ จบอันดับที่ 6 คว้าสิทธิ์ไปเล่นรอบเพลย์ออฟเลื่อนชั้น โดยพบกับ ทรานเมียร์ โรเวอร์ส และเสมอได้ในเกมเหย้าเลกแรกที่ กริฟฟิน ปาร์ค 1-1 แต่ในเกมต่อมที่ เปรนตัน ปาร์ค ก็พ่ายไปด้วยสกอร์รวม 3-2 พลาดไปเล่นนัดชิงชนะเลิศที่ เวมบลีย์

 

 

รอบตัดเชือกดิวิชั่น 2 | ฤดูกาล 1994-95

 

 

ฤดูกาลนี้ เบรนท์ฟอร์ด ประสบปัญหาฟอร์มตกจนหล่นไปรั้งกลางตารางในเดือนพฤศจิกายนปี 1994 แต่เมื่อ เดวิด เว็บบ์ กุนซือของทีมปรับเปลี่ยนบางอย่างในทีมให้เข้ารูปเข้ารอย พวกเขาก็แพ้แค่ครั้งเดียวเท่านั้น ลากยาวเกือบจบฤดูกาล และการเอาชนะ เบอร์มิ่งแฮม ได้จะทำให้ เดอะ บีส์ การันตีเลื่อนชั้นทันที และความพ่ายแพ้ต่อทีม ลูกโลก 2-0 กลายเป็นจุดเปลี่ยนของพวกเขาในเวลาต่อมา

 

เบรนท์ฟอร์ด สะดุดพ่าย บอร์นมัธ 2-1 และ เสมอกับ บริสตอล โรเวอร์ส 2-2 ในนัดต่อมา แต่อย่างน้อยก็ยังคว้าตั๋วไปเล่นเพลย์ออฟเลื่อนชั้นได้ แต่ด้วยความมั่นใจที่หายหด ทำให้พวกเขา พ่ายต่อ ฮัดเดอร์สฟิลด์ ช่วงยิงจุดโทษชี้ขาด 4-3 หลังเสมอกันด้วยสกอร์ 1-1 ทั้ง 2 เลก

 

 

นัดชิงเลื่อนชั้นดิวิชั่น 2 | ฤดูกาล 1996-97

 

A goal from Shaun Smith condemned Brentford to a 1-0 defeat in the 1997 Second Division play-off final

 

เว็บบ์ ยังได้โอกาสคุมทีมต่อไป และยังผู้เล่นแกนหลักชุดเดิมจากความพ่ายแพ้ในเกมเพลย์ออฟหนก่อน และทำผลงานได้ยอดเยี่ยม เมื่อ คาร์ล อซาบา กดไป 11 ลูก จาก 11 เกมแรก จนทีมขึ้นไปรั้งอันดับบนตารางอย่างเหนียวแน่น จนกระทั่งถึงเดือนมีนาคมปี 1997

 

ประตูที่เคยทำได้เป็นกอบเป็นกำ ค่อย ๆ ลดลงอย่างชัดเจน หลัง นิคกี้ ฟอร์สเตอร์ ย้ายไป เบอร์มิ่งแฮม ส่งผลให้ ‘เดอะ บีส์’ ยิงเพียง 7 ลูกในช่วง 15 นัดสุดท้ายของฤดูกาล เก็บไปแค่ 13 แต้มจากทั้งหมด 45 คะแนนที่สามารถทำได้

 

การเลื่อนชั้นก็ยังมีโอกาสอยู่ หลังสามารถเอาชนะ บริสตอล ซิตี้ ไปได้ 4-2 ในรอบตัดเชือก แต่ตอนจบกลับไม่ใช่สิ่งที่ เบรนท์ฟอร์ด หวังไว้เลยซักนิด เมื่อโดน สจ๊วร์ต ฌอน สมิธ กดประตูโทนให้ ครูว์ อเล็กซานดร้า คว้าชัยในนัดชิง คว้าสิทธิ์เลื่อนชั้นไปเล่น ดิวิชั่น 1 ในฤดูกาลหน้า

 

 

นัดชิงเลื่อนชั้นดิวิชั่น 2 | ฤดูกาล 2001-02

 

Steve Coppell took the Bees to the 2001/02 Second Division play-off final

 

สตีฟ ค็อปเปล เข้ามารับช่วงต่อจาก เรย์ เลวิงตัน ในซัมเมอร์ปี 2001 และพา เบรนท์ฟอร์ด ทะยานขึ้นไปรั้งอันดับหนึ่งในเดือนกันยายน ซึ่งถือเป็นการออกสตาร์ททีมที่ดีที่สุดในรอบ 60 ปีเลย และแพ้แค่ 2 นัดเท่านั้น จาก 19 เกมแรก แต่ผลงานก็ดิ่งลงหลังช่วงคริสมาสต์และต้นปี 2002 เป็นต้นมา จนหล่นมาจับที่อันดับ 3 ในลีก โดน เร้ดดิ้ง เฉือนคว้าอันดับ 2 เพียงแต้มเดียว

 

เพลย์ออฟเลื่อนชั้นรอ ‘เดอะ บีส์’ อีกครั้ง แม้เอาชนะ ฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ ไปได้ 2-1 ในรอบตัดเชือก แต่สุดท้ายก็พ่าย สโต๊คของ กุ๊ดจอน ธอร์ดาร์สัน 2-0 ณ สนามมิลเลนเนี่ยม สเตเดี้ยม

 

 

เกมรอบตัดเชือกลีกวัน | ฤดูกาล 2004-05 

 

Martin Allen took Brentford to the League One play-off semi-finals in his first full season in charge

 

2 ปีก่อนหน้านี้ มาร์ติน อัลเลน เข้ามากอบกู้ เบรท์ฟอร์ด ให้รอดตกชั้นได้ และในปี 2004 เขาก็สร้างทีมให้กลับมามีลุ้นเลื่อนชั้นไปเล่น แชมเปี้ยนส์ชิพ แต่ทว่าพลาดท่าช่วงสุดท้ายของฤดูกาล พ่าย 3 เกมติดช่วง 2 สัปดาห์สุดท้ายในเดือนเมษายน จนหมดหวังคว้า 2 อันดับแรกไปโดยปริยาย

 

ในรอบเพลย์ออฟ ประตูโทนของ จอน-พอล แม็คโกเวิร์น ช่วยให้ เชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์ ได้เปรียบในเกมเลกแรก ก่อนที่ ลี พีค็อค และ คริส บรันท์ จะยิงเพิ่มให้ ทีมนกฮูก นำห่าง 3-0 ในเกมต่อมา แม้ แอนดี้ แฟรมพ์ตัน ยิงให้ ‘เดอะ บีส์’ ตีตื้นมาได้ แต่มันก็สายเกินไปแล้ว

 

 

เกมรอบตัดเชือกลีกวัน | ฤดูกาล 2005 -06

 

Swansea ran out 3-1 aggregate winners in the 2005/06 League One play-off semi-final

 

แม้ผลงานที่น่าผิดหวังในฤดูกาลก่อน และปัญหาด้านการเงินของสโมสร อัลเลน ก็ยังเลือกทำหน้าที่คุม เบรท์ฟอร์ด ต่อไป และทำผลงานได้ยอดเยี่ยมอีกครั้ง โดยมี ดีเจ แคมป์เบลล์ เป็นนักเเตะที่โดดเด่นที่สุดในตอนนั้น จนมีข่าวกับสโมสรในแชมเปี้ยนส์ชิพ และ พรีเมียร์ลีก

 

การเลื่อนชั้นอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม แต่ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป เมื่อ ดาวยิงตัวเก่งย้ายไป เบอร์มิ่งแฮม ในเดือนมกราคมปี 2006 ส่งผลต่อทีมของ อัลเลน โดยตรง ที่ชนะเพียง 4 เกมใน 15 เกมสุดท้าย หลุด 2 อันดับแรกเรียบร้อย และพ่ายต่อ สวอนซี ในเกมตัดเชือกเพลย์ออฟเลื่อนชั้น 3-1 ในเวลาต่อมา ก่อนที่ อัลเลน จะลาออกจากตำแหน่งกุนซือของทีมหลังจากวันนั้นไม่นาน

 

 

เกมนัดชิงลีกวัน | ฤดูกาล 2012 -13

 

Brentford were beaten 2-1 by Yeovil in the League One play-off final in 2013

 

หลังพลาดเลื่อนอัตโนมัติในเกมนัดสุดท้ายของฤดูกาล จากการพลาดจุดโทษของ มาร์เซลโล่ ทร็อตต้า ในเกมพบ ดอนคาสเตอร์ ทำให้ เบรนท์ฟอร์ด ต้องมาตั้งต้นกันใหม่ในรอบเพลย์ออฟกับ สวินดอน ในเพลย์รอบรอบรองชนะเลิศ

 

ด้วยผลเสมอกัน 3-3 ในเกมเลกสองช่วงต่อเวลาพิเศษ ทำให้ต้องดวลจุดโทษตัดสิน แต่เป็นทีม อูเว่ รอสเลอร์ ที่เด็ดขาดว่า เอาชนะไป 5-4 ทว่าอีก 2 สัปดาห์ต่อมา พวกเขาก็พบกับความผิดหวังอีกครั้งที่ เวมบลีย์ หลังพ่ายให้กับ เยโอวิล ทาวน์ 2-1 

 

 

เกมรอบตัดเชือกแชมเปี้ยนส์ชิพ | ฤดูกาล 2014 -15 

 

Mark Warburton's men were beaten 5-1 on aggregate by Middlesbrough in the semi-finals in 2014/15

 

นี่เป็นฤดูกาลที่แรกที่ เบรนท์ฟอร์ด กลับมาเล่นลีกระดับ 2 ของอังกฤษ เป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ปี 1992-193 ทีมของ มาร์ค วาร์เบอร์ตัน ทำให้หลายคนประหลาดใจด้วยการจบอันดับ 5 ในปีนั้น แม้ไม่ได้มีงบเสริมนักเตะมากมาย แต่เป็นเพราะหาแข้งใหม่ที่ชาญฉลาด ทำให้เขาได้ทั้ง อังเดร เกรย์ และ สก็อต โฮแกน ด้วยค่าตัวไม่ถึง 1.5 ล้านปอนด์ ขณะที่การยืมตัว อเล็กซ์ พริตชาร์ด จาก สเปอร์ส ก็กลายเป็นกุญแจสำคัญให้ทีมคว้าตั๋วเพลย์ออฟไปครอง

 

แต่การแย่งชิงสิทธิ์เลื่อนชั้นในรอบเพลย์ออฟของ แชมเปี้ยนส์ชิพ หนักหนากว่าที่ ‘เดอะ บีส์’ จินตนาการ เมื่อต้องเจอกับ มิดเดิ้ลสโบรห์ หนึ่งในตัวเต็งแชมป์เพลย์ออฟในตอนนั้น ก่อนที่ พลพรรค ‘สิงห์แดง’ จะถล่ม เบรนท์ฟอร์ด ให้ไปตั้งต้นใหม่ในฤดูกาลหน้า ด้วยสกอร์รวม 5-1 

 

 

เกมนัดชิงแชมเปี้ยนส์ชิพ | ฤดูกาล 2019 -20 

 

Two Joe Bryan goals in extra-time dealt Brentford a ninth play-off failure at the end of the 2019/20 campaign

 

เมื่อพลาดโอกาสจนโดน เวสต์บรอม แซงหน้าเข้าไปคว้าอันดับ 2 เลื่อนชั้นสู่พรีเมียร์ลีกอัตโนมัติ ก็ทำให้ โธมัส แฟรงค์ กลายเป็นกุนซือคนต่อไปของ เบรนท์ฟอร์ด ที่ต้องพบกับคำสาปในรอบเพลย์ออฟที่หลอกหลอนทีมมาเป็นเวลานานหลาย 10 ปี และเกือบจอดตั้งแต่รอบตัดเชือกเมื่อโดน อังเดร อายิว ยิงให้ สวอนซี เอาชนะไปก่อนในเลกแรกของรอบตัดเชือก

 

แฟรงค์ กระตุ้นลูกทีมในเกมต่อมาที่ กริฟฟิน ปาร์ค ให้ทีมฮึดสู้จนเอาชนะไปได้ 3-1 จนสามารถเข้าไปเล่นในนัดชิงได้ และเป็นครั้งแรกในรอบ 116 ปีที่เข้าชิงเพลย์ออฟของลีกรองในอังกฤษ

 

ฟูแล่ม คือคู่ชิงของ เบรนท์ฟอร์ด หลังเอาชนะ คาร์ดิฟฟ์ ในอบก่อน และนี่ถือเป็นเกมลอนดอนดาร์บี้ฝั่งตะวันตกก็ว่าได้ แต่ด้วยเสมอ 0-0 ใน 90 นาทีทำให้ต้องตัดสินกันต่อในช่วงต่อเวลาพิเศษ

 

โจ ไบรอัน กด  2 ประตูให้ ‘เจ้าสัว’ ขึ้นนำในเวลาต่อมา แม้ เฮนริค ดัลส์การ์ด จะยิงให้ทีมตีไข่แตกได้ในช่วงท้ายครึ่งหลัง แต่ก็มันสายไปแล้ว และเป็นความรู้สึกที่แฟนบอล ‘เดอะ บีส์’ คุ้นเคย แม้พวกเขาจะอยากเป็นแบบนั้นก็ตาม

 

 

สมหวังครั้งที่ 10 | ฤดูกาล 2020 -21

 

เบรนท์ฟอร์ด
เบรนท์ฟอร์ด

 

 โธมัส แฟรงค์ คนดีคนเดิม ยังทำหน้าที่กุนซือของ เบรนท์ฟอร์ด ต่อไป แม้ต้องเสีย โอลลี่ วัตกินส์ ให้กับ แอสตัน วิลล่า แต่การมาของ อิวาน โตนี่ย์ ก็อุดช่องว่างในแนวรุกได้อย่างสมบูรณ์แบบ ถึงช่วงแรก ๆ ทีมจะฟอร์มกระท่อนกระแท่นจนรั้งอันดับกลางตารางก็ตามที

 

หลังเดือนธันวาคม ‘เดอะ บีส์’ ร้อนแรงต่อเนื่องไม่แพ้ใครเลย 14 นัด พร้อมทะยานไปรั้งจ่าฝูงเป็นครั้งแรก ทว่าก็แผ่วกันเองจนหลุด 2 อันดับแรกอีกครั้ง แต่ก็ยังสามารถประคองจนจบอันดับที่ 3 ได้เข้าไปเล่นเพลย์ออฟเลื่อนชั้น หนที่ 10

 

เบรนท์ฟอร์ด ทำท่าว่าจะโดนคำสาบเพลย์ออฟหลอกหลอนอีกครั้ง หลังพ่าย บอร์นมัธ ในเกมแรกไปก่อน 1-0 ที่ ไวทัลลิตี้ สเตเดี้ยม แต่ทีมของ แฟรงค์ ก็เอาคืนได้ 3 ประตูรวดในเกมเลกสอง เอาชนะไปด้วยสกอร์รวม 3-1

 

จากนั้นในนัดชิงชนะเลิศ ทีมจากลอนดอนก็สมหวังเสียที หลังเอาชนะ สวอนซี ด้วยสอร์ 2-0 เลื่อนชั้นไปเล่นในพรีเมียร์ลีกเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร รวมถึงเป็นครั้งแรกที่พวกเขาชนะในเกมนัดชิงรอบเพลย์ออฟ หลังจากผิดหวังมานานกว่า 3 ทศวรรษ

 

ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้องกับ เบรนท์ฟอร์ด

 

74ปีที่รอคอย!เบรนท์ฟอร์ด ทุบหงส์ขาว2-0ทะยานขึ้นชั้นพรีเมียร์ลีก

 

เบรนท์ฟอร์ด