อย่าให้พลังเงินครอบงำเจ้า! 5 แข้งดังที่ดีเกินกว่าจะยังเล่นอยู่ในจีน

ขึ้นชื่อว่าการทำงาน แน่นอนว่าปัจจัยสำคัญที่สุดย่อมต้องเป็นเรื่องเงิน นักฟุตบอลก็เช่นเดียวกัน นั่นจึงทำให้ดาวดังจำนวนไม่น้อย ยอมที่จะทิ้งความฝันบนเส้นทางลูกหนัง และตัดสินใจข้ามน้ำข้ามทะเลมากอบโกยรายได้มหาศาล ในดินแดนที่ได้ชื่อว่ามีระดับฟุตบอลที่ด้อยกว่าถิ่นที่พวกเขาจากมา

อย่างไรก็ตาม ยังมีพ่อค้าแข้งบางส่วนที่กลับมาคิดได้ว่าเงินไม่ใช่ที่สุดของเส้นทางสายนี้ แล้วย้อนกลับมาทำตามความฝันในยุโรปอีกครั้ง อย่างที่ อักเซล วิตเซล กำลังไปได้สวยกับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ในปัจจุบัน และต่อไปนี้ คือ 5 ดาวเตะที่เรามองว่ามันคงจะน่าเสียดายถ้าพวกเขายังเล่นอยู่ที่ ไชนีส ซุปเปอร์ลีก ต่อ

ออสการ์ (เซี่ยงไฮ้ เอสไอพีจี)

หากพูดถึงสตาร์ลูกหนังที่ย้ายมาค้าแข้งบนแผ่นดินมังกร ดีลของ ออสการ์ จัดว่าน่าเซอร์ไพรส์ที่สุด เพราะตอนที่ เซี่ยงไฮ้ เอสไอพีจี ขนเงินจำนวนถึง 52 ล้านปอนด์ ไปสู่ขอเพลย์เมคเกอร์แซมบ้าเมื่อปี 2016 ขณะนั้นเจ้าตัวมีอายุเพียง 25 ปี และถือเป็นขาประจำในทีมชาติบราซิลด้วย

แม้ในช่วงก่อนย้ายทีม ออสการ์ จะไม่ค่อยได้รับโอกาสลงสนามมากนักกับ เชลซี แต่นั่นเป็นเพราะดาวเตะชาวบราซิเลี่ยนไม่มีที่ยืนในระบบ 3-4-3 ของ อันโตนิโอ คอนเต้ ต่างหาก เนื่องจากเจ้าตัวเล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรุก ไม่ใช่เพราะศักยภาพในตัวเขาลดลงแต่อย่างใด

และจากผลงาน 22 ประตู 29 แอสซิสต์ ใน 71 นัด พร้อมพา เซี่ยงไฮ้ เอสไอพีจี เถลิงแชมป์ลีกในปีล่าสุดได้สำเร็จ ก็น่าจะสามารถการันตีถึงฝีเท้าของ ออสการ์ ได้เป็นอย่างดี ซึ่งมันคงจะน่าเสียดายไม่น้อย ถ้าเจ้าตัวเลือกที่จะจำกัดพรสวรรค์ของตัวเอง ด้วยการอยู่ค้าแข้งบนเวที ไชนีส ซุปเปอร์ลีก ต่อไป

เปาลินโญ่ (กว่างโจว เอเวอร์แกรนด์)

มิดฟิลด์ชาวแซมบ้า ตัดสินใจย้ายเข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ของ กว่างโจว เอเวอร์แกรนด์ ในปี 2015 ด้วยค่าตัว 10 ล้านปอนด์ หลังไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลยตลอดระยะเวลา 2 ฤดูกาลที่อยู่กับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์

ซึ่งที่นี่ ก็ได้ชุบตัว เปาลินโญ่ ให้กลับมามีฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมยิ่งกว่าตอนที่แจ้งเกิดขึ้นมาเสียอีก โดยเจ้าตัวจัดการกดไปทั้งสิ้น 37 ประตู แอสซิสต์ไป 12 ครั้ง จากจำนวน 106 นัด พร้อมพาต้นสังกัดกวาดแชมป์ไปถึง 6 รายการ รวมถึงถ้วยใหญ่สุดของเอเชียอย่าง เอเอฟซี แชมเปียนส์ ลีก ส่งผลให้เขาได้รับโอกาสกลับไปติดธงเซเลเซาอีกครั้ง ทั้งยังถูกยอดทีมอย่าง บาร์เซโลน่า คว้าตัวไปร่วมทัพในปี 2017 ด้วย

แต่หลังจากนั้นเพียงซีซั่นเดียว จู่ๆ เปาลินโญ่ ก็ตัดสินใจคัมแบ็ค กว่างโจว เอเวอร์แกรนด์ แบบงงกันทั้งวงการ เนื่องจากเจ้าตัวกำลังไปได้สวยบนถิ่น คัมป์ นู ซึ่งจากผลงานที่ช่วยให้ อาซูลกราน่า คว้าดับเบิ้ลแชมป์ (ลาลีก้า และ โกปา เดล เรย์) ได้เมื่อปีก่อน คือการพิสูจน์ให้เห็นว่าเขายังโลดแล่นบนเกมฟุตบอลระดับสูงได้สบาย และไม่ควรจะรีบกลับไปเล่นที่ประเทศจีนเลย

ยานนิค การ์ราสโก้ (ต้าเหลียน อี้ฟาง)

ปีกทีมชาติเบลเยี่ยม ย้ายมาร่วมทีม ต้าเหลียน อี้ฟาง ด้วยค่าตัว 26 ล้านปอนด์ ในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2018 พร้อมกับเพื่อนร่วมทีมตราหมีอย่าง นิโกลาส ไกตัน โดยผลงานในปีแรกบนลีกสูงสุดแดนมังกร เจ้าตัวจัดการทำไป 7 ประตู 5 แอสซิสต์ จากทั้งหมด 25 นัดที่ลงสนาม

การ์ราสโก้ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งนักเตะที่ก้าวเข้ามาเล่นบนเวที ไชนีส ซุปเปอร์ลีก แบบค่อนข้างน่าตกใจพอสมควร เพราะก่อนที่จะย้ายทีม เขาคือผู้เล่นตัวหลักของ แอตเลติโก มาดริด มีอนาคตที่น่าจับตามอง และอายุเพียงแค่ 24 ปีเท่านั้น

โดยล่าสุด มีข่าวว่า การ์ราสโก้ ต้องการจะกลับไปโลดแล่นในยุโรปอีกครั้ง และภรรยาของเขาก็ยืนยันว่ามีหลายสโมสรใหญ่ให้ความสนใจจริง ซึ่งด้วยวัยเพียง 25 ปี บวกกับฝีเท้าที่ยังสามารถพัฒนาไปได้อีกไกล มันก็คงจะน่าเสียดายไม่น้อย หากเจ้าตัวไม่ลองพิจารณาข้อเสนอจากบรรดาบิ๊กทีมอย่างจริงจัง

ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ (เหอเป่ย ไชน่า ฟอร์จูน)

อดีตห้องเครื่องของ ลิเวอร์พูล และ บาร์เซโลน่า ถือเป็นหนึ่งในดาวเตะระดับ “เวิร์ลคลาส” เพียงไม่กี่คนที่โยกมาหากินในประเทศจีน โดย มาสเคราโน่ ปิดฉากช่วงเวลา 7 ปีครึ่งบนถิ่น คัมป์ นู ย้ายมาร่วมทีม เหอเป่ย ไชน่า ฟอร์จูน ในเดือนมกราคม ปี 2018 ด้วยมูลค่าเพียง 5.5 ล้านยูโรเท่านั้น

เอาล่ะ ปฏิเสธไม่ได้ว่าด้วยวัย 34 ปี การรีบโกยเงินในช่วงปลายอาชีพค้าแข้งย่อมไม่ใช่ทางเลือกที่ผิด แต่ถึงกระนั้น หากมองในมุมของฟุตบอลล้วนๆ แข้งชาวอาร์เจนไตน์ยังสามารถลงเล่นบนเวทีระดับสูงได้สบาย เพราะเจ้าตัวเป็นนักเตะที่ดูแลสภาพร่างกายได้ดี ทั้งยังเล่นในตำแหน่งกองกลางตัวรับและเซนเตอร์ฮาล์ฟ ซึ่งทั้งสองตำแหน่งนี้สามารถใช้ความเก๋ายกระดับทีมได้

ดังนั้น ถ้ามองเรื่องความมั่นคงในชีวิต มาสเคราโน่ ก็คงเลือกถูกแล้ว แต่ถ้ามองเรื่องในสนาม มันก็น่าเสียดายเหมือนกันที่เจ้าตัวตัดสินใจหันหลังให้กับเกมลูกหนังบนแผ่นดินยุโรปเร็วขนาดนี้

อเล็กซ์ เตเซร่า (เจียงซู ซูหนิง)

ครั้งหนึ่ง เตเซร่า เคยตกเป็นเป้าหมายของสองขาใหญ่ใน พรีเมียร์ลีก อย่าง ลิเวอร์พูล และ เชลซี มาก่อน แต่เจ้าตัวกลับเลือกที่จะย้ายมาขุดทองที่เมืองจีนกับ เจียงซู ซูหนิง แบบเหนือความคาดหมาย เมื่อปี 2016 ด้วยค่าตัวที่สูงถึง 50 ล้านยูโร

ซึ่งตลอดระยะเวลา 3 ฤดูกาลที่ค้าแข้งอยู่กับทีม ตัวรุกเลือดแซมบ้าถือว่ามีผลงานที่ไม่เลวเลยทีเดียว โดยเขาจัดการซัดไปทั้งสิ้น 45 ประตู แอสซิสต์ไป 16 ครั้ง จาก 102 นัดที่ลงสนาม

อย่างไรก็ตาม เตเซร่า ยังตกเป็นข่าวกับทีมจากยุโรปอยู่เรื่อยๆ ซึ่งหากเจ้าตัวเอ่ยปากว่าต้องการกลับ เชื่อว่ายังมีอีกหลายสโมสรที่พร้อมอ้าแขนรับ และด้วยวัยที่เพิ่งครบ 29 ปีไปเมื่อช่วงต้นเดือน นี่อาจเป็นจุดที่เขาต้องตัดสินใจแล้วว่าอะไรคือสิ่งที่ต้องการจริงๆในอนาคต