แนวรับชาวออสเตรียอธิบายถึงเหตุผลที่ตัดสินใจหันหลังให้กับสโมสรที่อยู่มานานถึง 13 ปี
ดาวิด อลาบา กองหลังของบาเยิร์น มิวนิค ยอมรับว่าเป็นเรื่องยากที่ต้องย้ายออกจากถิ่นอัลลิอันซ์ อารีน่า แต่เขาก็คิดว่าถึงเวลาแล้วที่ตัวเองจะต้องก้าวต่อไปในอาชีพการค้าแข้ง
ดาวเตะวัย 28 ปี จะโบกมือลา บาเยิร์น หลังจบฤดูกาล 2020-21 เมื่อสัญญาฉบับปัจจุบันสิ้นสุดลง และถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด เจ้าตัวจะย้ายไปเล่นให้กับ เรอัล มาดริด ในช่วงซัมเมอร์นี้
“มันยากเสมอเมื่อบางอย่างมาถึงจุดจบ และมันไม่ใช่ความลับที่ผมรู้สึกเสมอว่าที่นี่เหมือนบ้าน” อลาบา บอกกับเว็บไซต์ทางการของสโมสร
“ชัดเจนว่าผมกำลังจะย้ายออกจาก บาเยิร์น ด้วยน้ำตา แต่ผมยังมองไปถึงอนาคตของตัวเองข้างหน้าในเวลาเดียวกันด้วย มันไม่ใช่การตัดสินใจที่ขัดแย้งกับสโมสร แต่ผมตัดสินใจว่าอยากทำอะไรใหม่ๆ และก้าวไปอีกขั้น”
“ในการเติบโต คุณต้องออกมาจากคอมฟอร์ต โซน และผมจงใจที่จะใส่คำนั้นในสิ่งที่ผมพูด เพราะมันอาจทำให้เข้าใจผิดได้”
“ที่ บาเยิร์น ความคาดหวังในสนามมักจะสูงลิบเสมอ ทั้งจากผู้บริหาร , ในห้องแต่งตัว หรือจากตัวคุณเอง ผมคิดว่าบางทีคุณต้องเข้าไปในสิ่งที่คุณไม่รู้จัก เพื่อให้สามารถเติบโตขึ้นได้อีกครั้ง”
สำหรับ อลาบา ย้ายเข้ามาอยู่กับ บาเยิร์น ตั้งแต่ปี 2008 โดยปัจจุบันเจ้าตัวลงสนามให้กับทีมเสือใต้ไปแล้ว 428 นัด พร้อมประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามด้วยการคว้าแชมป์บุนเดสลีก้า 9 สมัย , เดเอฟเบ โพคาล 6 สมัย และยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก 2 สมัย
