แมตช์หยุดโลก : จัดอันดับ 10 เกมสุดมันส์สิงโตประชันอินทรีเหล็กหลังยุค 2000

 

เกมระหว่าง อังกฤษ และ เยอรมัน เป็นหนึ่งในการแข่งขันระดับชาติได้รับความสนใจจากแฟนบอลเป็นอันดับต้นๆ ซึ่งแต่ละครั้งที่ดวลล้วนเต็มไปด้วยเรื่องราวน่าจดจำและเหตุการณ์ดราม่าต่างๆมากมาย

 

การพบกันของทั้ง 2 ทีมที่สื่อจากต่างประเทศยกให้เป็นดั่งคู่ปรับในเกมระดับทีมชาติ มีเรื่องราวโด่งดังมากมาย ทั้งประตูของ เจฟฟ์ เฮิร์สท์ จากไลน์แมนชาวรัสเซีย, น้ำตาของแกซซ่า หรือ อกหักจากจุดโทษในยูโร 1996 รวมถึงหลังปี 2000 เป็นต้นมา ความเป็นคู่อริของทั้ง 2 ในเกมลูกหนังก็ไม่ได้ลดน้อยถอยลงไปแต่อย่างใด

 

อีกทั้ง สถิติการเจอกันที่ผ่านมาต้องบอกว่าสูสีมากๆ เพราะจาก 32 เกมก่อนหน้านี้ที่ดวลแข้งกัน ต่างฝ่ายต่างผลัดกันชนะทีมละ 13 หน โดยพลพรรค ‘สิงโตคำราม’ ทำได้ดีกว่าเล็กน้อยตรงประตูได้เสียที่ยิงไป 51 และเสียประตูให้ ‘อินทรีเหล็ก’ เพียง 42 ลูก

 

ด้วยเหตุนี้ UFA ARENA จึงขอพาแฟนบอลไปย้อนรำลึกถึง 10 การเผชิญหน้าระหว่าง ‘สิงโต’ กับ ‘อินทรี’ ที่ยอดเยี่ยมที่สุดนับตั้งแต่ปี 2000 เป็นต้นมา

 

 

10.อังกฤษ 0-1 เยอรมัน | อุ่นเครื่องปี 2013

 

 

หลังจากพลาดท่าแก่ ชิลี ในเกมก่อน ความคาดหวังกับ อังกฤษ ก็ต่ำลงเรื่อยๆ ในช่วงอุ่นเครื่องเตรียมตัวก่อนฟุตบอลโลกปี 2014 ที่สนามเวมบลี่ย์

 

แต่อย่างน้อย ‘สิงโตคำราม’ ก็ดูกระเตื้องขึ้น ในเกมที่พ่าย เยอรมัน 1-0 จากลูกโหม่งของแพร์ แมร์เตซัคเกอร์ ในครึ่งแรก แม้ทีมของ รอย ฮอดจ์สัน ไม่สามารถยิงประตูผ่าน โรมัน ไวเดนเฟลเลอร์ ไปได้ แต่รูปเกมโดยรวมต้องบอกว่าไม่ห่างกันนัก

 

อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงทัวร์นาเม้นต์จริงในปีต่อมา ก็แสดงให้เห็นว่าพวกเขาห่างชั้นกันแค่ไหน เมื่อ อังกฤษ ตกรอบตั้งแต่ 2 เกมแรก ขณะที่ เยอรมัน ไปถึงจุดสูงสุดด้วยการคว้าแชมป์โลกมาครอง

 

 

9.อังกฤษ 0-0 เยอรมัน | อุ่นเครื่องปี 2017 

 

 

การเสมอแบบไร้สกอร์ส่วนใหญ่ล้วนเป็นการแข่งขันที่ไม่น่าระทึกเท่าไหร่ แต่ในเกมระหว่าง อังกฤษ กับ เยอรมัน ในเดือนพฤศจิกายน ปี 2017 ถือว่าสนุกกว่าที่หลายคนคิด

 

หลังจากคว้าตั๋วลุยฟุตบอลโลกปี 2018 ที่รัสเซียได้แล้ว ‘สิงโตคำราม’ ที่มีคิวดวลกับ แชมป์โลก ส่ง จอร์แดน พิคฟอร์ด และ รูเบน ลอฟตัส-ชีค ลงประเดิมทีมชาติเป็นนัดแรก

 

รวมถึงกองกลางในวันนั้นของ อังกฤษ อย่าง เอริค ดายเออร์ และ เจค ลิเวอร์มอร์ ก็ทำผลงานได้น่าพอใจไม่น้อยเลย

 

 

8.อังกฤษ 1-0 เยอรมัน | ยูโร 2000

 

 

นี่ถือเป็นเกมที่มีความสำคัญไม่น้อยในเวลานั้น แต่ส่วนใหญ่กลับถูกหลงลืมไปตามกาลเวลา เมื่อทั้ง 2 ทีมต้องดวลกันในรอบแบ่งกลุ่มในยูโร 2000

 

หลังกลุ่มฮูลิแกนแดนผู้ดีสร้างชื่อเสียงด้านลบให้กับทีมบ้านเกิดพวกเขา กับยูโรที่ เบลเยี่ยม กับ เนเธอร์แลนด์ เป็นเจ้าภาพร่วม จากเกมแรกที่พ่าย โปรตุเกสไป 3-2 ในสุดท้าย ‘สิงโตคำราม’ ก็คว้าชัยเป็นครั้งแรกในทัวร์นาเม้นต์ จากลูกโหม่งโทนของ อลัน เชียเรอร์ ในเกมดวล ‘อินทรีเหล็ก’

 

อังกฤษ ถูกยูฟ่า เตือนว่าจะขับออกจากการแข่งขัน หากพฤติกรรมของแฟนบอลผู้ดียังไม่ดีขึ้น แต่การพ่าย โรมาเนีย ในเกมสุดท้าย ก็ทำให้พวกเขาเก็บของกลับบ้านแบบที่ ยูฟ่า ไม่ต้องไล่ พร้อมๆกับ เยอรมัน ที่รั้งบ๊วยของกลุ่ม

 

 

7.อังกฤษ 1-2 เยอรมัน | อุ่นเครื่องปี 2007

 

 

เยอรมัน กลายเป็นทีมแรกที่เอาชนะ อังกฤษ ได้ที่สนามเวมบลี่ย์ใหม่ กับเกมอุ่นเครื่องในเดือนสิงหาคมปี 2007

 

แฟรงค์ แลมพาร์ด ยิงประตูให้ ‘สิงโตคำราม’ ออกนำไปก่อน แต่ความผิดพลาดครั้งเดียวของ พอล โรบินสัน ที่รับลูกครอสเข้ามาของ แบรนด์ ชไนเดอร์ ไม่อยู่ จนบอลมาเข้ามา เควิน คูรานี่ ยิงตีเสมอให้ เยอรมัน ในเวลาต่อมา

 

คริสเตียน แพนเดอร์ ยิงประตูให้ ‘อินทรีเหล็ก’ เป็นฝ่ายกำชัยในท้ายที่สุด และทีมของ สตีฟ แม็คคลาเรน ก็ทำผลงานได้ย่ำแย่ลงในหลายเกมต่อมา จนพลาดตั๋วไปเล่นยูโรรอบสุดท้ายในปี 2008

 

 

6.เยอรมัน 1-2 อังกฤษ | อุ่นเครื่องปี 2008

 

 

หลังล้มเหลวในยุคบิ๊กแม็ค อังกฤษ ก็กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งกับ ฟาบิโอ คาเปลโล่ แม้สุดท้ายจะล้มเหลวกับทัวร์นาเม้นต์ใหญ่ไม่ต่างจากกุนซือคนอื่นๆก็ตาม

 

ดอน ฟาบิโอ พา ‘สิงโตคำราม’ เอาชนะ เยอรมัน คู่ปรับตลอดกาลได้ถึงกรุงเบอร์ลิน ซึ่งหากดูจากรายชื่อแล้วถือว่าน่าประหลาดใจไม่น้อยที่พวกเขาทำได้เช่นนี้

 

ทั้ง แก็บบี้ อักบอนลาฮอร์ หรือ แม็ธธิว อัพสัน ที่โชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยมในเกมนั้น แม้ สก็อต คาร์สัน กับ จอห์น เทอร์รี่ มีส่วนผิดพลาดจนทำให้ แพทริค เฮลเมส ยิงตีเสมอได้ แต่ กองหลังจาก เชลซี ก็แก้ตัวด้วยการยิงประตูชัยให้ทีมได้ในอีก 6 นาทีต่อมา

 

 

5.เยอรมัน 1-0 อังกฤษ | อุ่นเครื่องปี 2017

 

 

การทดลองใช้ผู้เล่นหน้าใหม่ของ แกเร็ธ เซาธ์เกต ยังเดินหน้าไปได้ดีกับการดวลกับ เยอรมัน ครั้งก่อน และในครั้งนี้ก็ทำได้ดีเช่นกัน เพียงแต่พวกเขาเป็นฝ่ายแพ้ไปจากประตูโทนของ ลูคัส โพลดอลสกี้

 

นี่ถือเป็นเกมสุดท้ายของ โพลดี้ ในชุด ‘อินทรีเหล็ก’ และได้รับการสแตนดิ้ง โอเวชั่น ปรบมือจากแฟนบอลทั่วสนามซึกนัล อิดูน่า ปาร์ค หลังถูกเปลี่ยนตัวออกไป และถึงแม้นี่เป็นความพ่ายแพ้ครั้งแรกของ เซาธ์เกต ในทีมชาติ แต่ก็มีเรื่องบวกมากมายจากเกมดังกล่าวให้เขาได้ต่อยอดจนประสบความสำเร็จในฟุตบอลโลกอีกปีต่อมา

 

 

4.อังกฤษ 0-1 เยอรมัน | คัดบอลโลก 2002 ปี 2000

 

 

หนึ่งในเกมที่ย่ำแย่ที่สุดของ อังกฤษ ในการดวลกับ เยอรมัน เมื่อโดน ดีทมาร์ ฮาร์มันน์ ลักไก่ยิงฟรีคิกระยะไกล ในขณะที่ เดวิด ซีแมน พยายามตะโกนให้เพื่อนร่วมทีมตั้งกำแพงกันไว้

 

แต่เรื่องราวที่น่าสนใจเกิดขึ้นหลังจากเกมนั้น เพราะนอกจากนี้เกมนัดสุดท้ายในสนามเวมบลี่ย์เดิมแล้ว ยังเป็นเกมสุดท้ายที่ เควิน คีแกน ทำหน้าที่คุม ‘สิงโตคำราม’ ก่อนตัดสินใจลาออกหลังเกมนั้นทันที หลังโดนวิจารณ์อย่างหนักจากผลงานที่ย่ำแย่ก่อนหน้านี้

 

 

3.เยอรมัน 2-3 อังกฤษ | อุ่นเครื่องปี 2016

 

 

ไม่บ่อยนักที่ อังกฤษ พลิกสถานการณ์จากเป็นรอง เปลี่ยนมาเป็นฝ่ายที่สู้กับทีมใหญ่ระดับเดียวกันได้สูสีและคว้าผลการแข่งขันที่พวกเขาต้องการได้ในท้ายที่สุด

 

หลังโดนนำห่าง 2-0 จาก เยอรมัน ตัวเต็งแชมป์ยูโร 2016 รอย ฮอดจ์สัน จึงลองเสี่ยงใช้ไพ่ใบสุดท้ายกับ แข้งจาก เลสเตอร์ ผู้เคยพาทีมคว้าแชมป์ลีก และดาวรุ่งจาก ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ เพื่อพลิกสถานการณ์ และได้ผลทันตาเห็น

 

เดลี่ อัลลี่ ประสานงานกับ แฮร์รี่ เคน อย่างลงตัวจนช่วยให้ ‘สิงโตคำราม’ ตีไข่แตกได้ ก่อนที่ เจมี่ วาร์ดี้ จะไขว้ประตูสุดสวยให้ทีมตีเสมอได้สำเร็จ 

 

ผลเสมอถือว่าเหลื่อเชื่อแล้ว แต่ เอริค ดายเออร์ ก็โหม่งประตูชัยให้ อังกฤษ บุกไปเอาชนะ ทีมของ โยอาคิม เลิฟ ได้ถึงถิ่น ซึ่งผลการแข่งขันทำให้พวกเขามั่นใจไม่น้อยในศึกยูโร ทว่าสุดท้ายกลับโดนทีมอย่าง ไอซ์แลนด์ เขี่ยตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายหน้าตาเฉย

 

 

2.เยอรมัน 4-1 อังกฤษ | ฟุตบอลโลกปี 2010

 

 

หลังจากที่ อังกฤษ เคยได้ลูกปริศนาของ เจฟฟ์ เฮิร์สท์ จนคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 1966 ให้หลังจากนั้น 44 ปี การเจอกันของคู่นี้ก็มีประตูปัญหาเกิดขึ้นอีกจนได้ แต่หนนี้เป็นทาง เยอรมัน ที่ได้ประโยชน์จากการตัดสินที่ผิดพลาดของกรรมการ

 

. แม้ ‘อินทรีเหล็ก’ จะเริ่มต้นได้ดีกว่าออกนำไปก่อนถึง 2 ลูกจาก มิโรสลาฟ โคลเซ่ และ ลูคัส โพดอลสกี้ แต่ลูกทีมของ ฟาบิโอ คาเปลโล่ ก็ไม่ยอมง่ายๆ ไล่มาเป็น 1-2 จาก แมทธิว อัพสัน และน่าจะตีเสมอได้ในอีก 2 นาทีถัดมาหลังลูกยิงของ แฟรงค์ แลมพาร์ด ข้ามเส้นไปแล้วแต่ผู้ตัดสินดันไม่เห็นและไม่ให้ประตู

 

ประตูนี้แทบดับความหวังของทีม ‘สิงโตคำราม’ และกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ เยอรมัน ยังคงได้เปรียบก่อนจะมาบวกเพิ่ม 2 ลูกรวดจาก โธมัส มุลเลอร์ และถล่มชนะไปได้ 4-1 ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมก่อนสุดท้ายจบทัวร์นาเมนต์ในฐานะอันดับ 3

 

ขณะที่ อังกฤษ ก็ผิดหวังกับฟุตบอลโลกต่อไป และต้องรออีก 8 ปี กว่าจะกลับมาผงาดอีกครั้งในฟุตบอลโลกแดนหมีขาวปี 2018 

 

 

1.เยอรมัน 1-5 อังกฤษ | คัดบอลโลก 2002 ปี 2001

 

 

ค่ำคืนนั้นที่ มิวนิค เป็นเกมที่โด่งดังที่สุดในประวัติศาสตร์ของฟุตบอลอังกฤษ เมื่อเดินหน้าถล่ม เยอรมัน แบบหมดสภาพ ในฟุตบอลโลก 2002 รอบคัดเลือกในปี 2001 

 

คาร์สเลน แยนค์เกอร์ อาจยิงให้ ‘อินทรีเหล็ก’ ขึ้นนำไปก่อนตั้งแต่ 6 นาทีแรก แต่ ‘สิงโตคำราม’ ก็เอาคืนทบต้นทบดอก ด้วยการซัดอีก 5 ประตูรวดในเวลาต่อมา จากแฮตทริกของ ไมเคิ่ล โอเว่น, สตีเว่น เจอร์ราร์ด และ กองหน้าตัวรับอย่าง เอมิล เฮสกี่ย์ เป็นคนยิงปิดกล่อง

 

อย่างไรก็ตาม ในฟุตบอลรอบสุดท้าย เยอรมัน เป็นฝ่ายได้เฮดังกว่าในภายหลัง เมื่อพวกเขาเข้าไปไกลถึงรอบชิงชนะเลิศ ขณะที่ อังกฤษ ร่วงในรอบ 8 ทีมสุดท้ายด้วยน้ำมือของ บราซิล ว่าที่แชมป์โลกในปีนั้น

 

แต่นั่นก็ไม่ได้ลดทอนความสุขของแฟนบอลอังกฤษกับค่ำคืนอันยิ่งใหญ่ในเดือนกันยายน ปี 2001 ให้น้อยลงไปแต่อย่างใด

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง OFFICIAL : ตามคาด! ฟลิคนั่งแท่นคุมอินทรีเหล็กแทนที่เลิฟหลังศึกยูโร

 

OFFICIAL : ตามคาด! ฟลิคนั่งแท่นคุมอินทรีเหล็กแทนที่เลิฟหลังศึกยูโร