อีกตำนานเอ่ยคำลา : 8 เหตุการณ์สำคัญในชีวิตค้าแข้งของ เคดิร่า

 

ซามี่ เคดิร่า กลายเป็นอีกหนึ่งแข้งที่เตรียมอำลาสังเวียนลูกหนัง หลังประกาศแขวนสตั๊ดอย่างเป็นทางการหลังสิ้นสุดฤดูกาล 2020-21 

 

มิดฟิลด์วัย 34 ปี เพิ่งย้ายจาก ยูเวนตุส กลับมาเล่นบนเวทีบุนเดสลีก้ากับ แฮร์ธ่า เบอร์ลิน เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ทว่าด้วยอาการบาดเจ็บที่รุมเร้าตลอดช่วงหลายปีหลัง ทำให้เจ้าตัวเพิ่งได้ลงเล่นให้กับทีมหญิงชราไปเพียง 8 นัดเท่านั้น

 

ด้วยเหตุนี้ทำให้ กองกลางดีกรีแชมป์โลก ตัดสินยุติบทบาทนักฟุตบอลของตนหลังจบฤดูกาล โดยจะรีไทร์อย่างเป็นทางการหลังจบเกม บุนเดสลีกา นัดสุดท้าย ซึ่งทัพ ‘หญิงชรา’ มีโปรแกรมบุกไปเยือน ฮอฟเฟ่นไฮม์ วันเสาร์ที่ 22 พฤษภาคม

 

และก่อนที่ เคดิร่า จะแขวนสตั๊ดในช่วงสุดสัปดาห์นี้ UFA ARENA จึงขอพาไปพบกับ 8 เหตุการณ์สำคัญในอาชีพค้าแข้งหนึ่งในกองกลางระดับตำนานทีมชาติเยอรมัน ที่หลายคนน่าจดจำได้ดี

 

 

แจ้งเกิดเต็มตัวกับ ม้าขาว

 

 

เคดิร่า เติบโตด้วยการดูแลของ พ่อผู้เป็นชาวตูนิเซีย และ แม่ที่เป็นชาวเยอรมัน โดยอาศัยอยู่ใน เฟลบาช-เอฟฟิงเก่น เมืองเล็กทางตอนเหนือใน สตุ๊ตการ์ท ร่วมกับน้องชายอีก 2 คน หนึ่งในนั้นคือ รามี่ ที่เป็นนักฟุตบอลอาชีพเหมือนกัน และค้าแข้งกับ เอาส์บวร์ก ในปัจจุบัน

 

แม้ไม่ใช่ครอบครัวที่ฐานะมากมาย แต่ เคดิร่า ก็มีช่วงเวลาดีในวัยเยาว์ เขาย้ายไปร่วมทีมชุดเยาวชนของ สตุ๊ตการ์ท ในปี 1995 ด้วยวัยเพียง 8 ขวบ และพัฒนาฝีเท้าได้ดี ถึงต้องเลิกเรียนในวัย 16 ปี แต่เขาก็มุ่งมั่นในเส้นทางนี้ จนโค้ชในทีมเห็นแวว ดันขึ้นมาเล่นในชุดสำรองของทีมแบบเต็มตัว ปี 2004 หลังเล่นในชุด U-19 มาพักใหญ่

 

จากนั้นในฤดูกาล 2006-07 เคดิร่า ได้ดันขึ้นมาเล่นชุดใหญ่ให้ทีม ‘ม้าขาว’ เป็นครั้งแรก ในยุคของ อาร์มิน เวห์ และได้ประเดิมสนามทันทีในเดือนตุลาคมปี 2006 ที่เสมอกับ แฮร์ธ่า เบอร์ลิน 2-2 และอีก 4 สัปดาห์ต่อมา เจ้าตัวก็ยิงประตูทีมได้เป็นครั้งแรก ในเกมที่เหมา 2 เม็ดช่วยให้ทีมอัด ชาลเก้ 3-0

 

ผลงานช่วงเวลา 2-3 เดือนแรกในอาชีพค้าแข้ง เพียงพอที่ทำให้ เคดิร่า ได้รับสัญญาอาชีพเป็นครั้งแรก ในปลายเดือนมกราคมปี 2007 และจบฤดูกาลแรกด้วยการยิงประตูชัยเหนือ เอเนอร์จี้ ค็อตบัส 2-1 ช่วยให้ สตุ๊ตการ์ท คว้าแชมป์บุนเดสลีก้า ครั้งแรกในรอบ 15 ปี

 

 

ติดธงหนแรก

 

 

เคดิร่า ได้โอกาสติดทีมชาติเยอรมันชุด U-21 ในปี 2007 ซึ่งเป็นช่วงที่ ดีเตอร์ ไอล์ส คุมทีม ก่อนได้สวมปลอกแขนกัปตันทีมชุด U-21 ในอีก 2 ปีต่อมา และลงเล่นร่วมกับ มานูเอล นอยเออร์, มัตต์ ฮุมเมิ้ลส์, เจอโรม บัวเต็ง และ เมซุต โอซิล คว้าแชมป์ยูโรรุ่นเล็ก ด้วยการถล่ม ทีมชาติอังกฤษ แบบยับเยิน 4-0

 

นั่นทำให้เขาได้รับการจับตามองจาก โยอาคิม เลิฟ กุนซืออินทรีเหล็ก และมอบโอกาสประเดิมทีมชุดใหญ่ให้ครั้งแรกในเกมอุ่นเครื่องพบ แอฟริกาใต้ ในปี 2009 ก่อนมีชื่อติดทีมชาติลุยฟุตบอลโลกในปี 2010 เช่นเดียวกับเพื่อนร่วมทีมทั้ง 4 คนในทีมรุ่นเล็ก และมีส่วนสำคัญช่วยให้ทีมบ้านเกิด คว้าอันดับ 3 มาครอง 

 

 

ผจญภัยในแดนกระทิง

 

 

คววามสำเร็จในฟุตบอลโลก เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ เคดิร่า ได้ย้ายไปร่วมทีม เรอัล มาดริด ในซัมเมอร์ปี 2010 ในช่วงที่ โชเซ่ มูรินโญ่ เข้ามาทำหน้าที่เป็นผู้จัดการทีมคนใหม่

 

กองกลางทีมชาติ เยอรมัน กลายเป็นคนสำคัญในแผงมิดฟิลด์ของ เดอะ สเปเชียล วัน ร่วมกับ ชาบี อลอนโซ่ และ เมซุต โอซิล เพื่อนร่วมชาติ แต่บทบาทของเขาก็ถูกลดลง หลังการมาของ ซีเนอดีน ซีดาน และ คาร์โล อันเชล็อตติ ในระหว่างปี 2013-2015 ที่เลือกใช้ โทนี่ โครส กองกลางรุ่นน้องร่วมทีมแทนที่

 

อย่างไรก็ตาม ตลอดเวลา 5 ปี ในซานติอาโก้ เบอร์นาเบว ต้องบอกว่า เคริด่าประสบความสำเร็จไม่น้อย ด้วยการคว้าแชมป์ลาลีก้า 1 สมัย, โกปา เดล เรย์ 2 สมัย, แชมเปี้ยนส์ลีก 1 สมัย และ แชมป์สโมสรโลกอีก 1 สมัย

 

 

สู่แข้งแชมป์โลก

 

 

นี่คงเป็นรางวัลที่ เคดิร่า ยกให้เป็นความสำเร็จระดับสูงสุดในอาชีพค้าแข้ง หลังเป็นกุญแจสำคัญช่วยให้ทีมชาติเยอรมัน ผงาดคว้าแชมป์โลก มาครองได้อย่างยิ่งใหญ่ในปี 2014 

 

อดีตแข้ง สตุ๊ตการ์ท ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในทัพ ‘อินทรีเหล็ก’ 5 นัด ก่อนถึงนัดชิงชนะเลิศ แต่ด้วยอาการเจ็บน่องช่วงอบอุ่นร่างกายก่อนนัดชิงชนะเลิศ ทำให้ เลิฟ ต้องเลือกใช้ คริสตอฟ คราเมอร์ ลงเล่นแทน ทว่าก็ลงเล่นเพียง 31 นาทีก็ถูกเปลี่ยนตัวออก เนื่องจากมีอาการบาดเจ็บรุนแรงที่ศรีษะ

 

2 ปีต่อมา เคดิร่า พาทีมชาติไปไกลสุดถึงรอบตัดเชือกในยูโร 2016 ด้วยการแพ้ให้กับ ฝรั่งเศส เจ้าภาพในปีนั้น 2-0 แต่ก็ยังเป็นกำลังหลักของเยอรมันชุดลุยฟุตบอลโลกปี 2018 ที่รัสเซีย แต่ก็เป็นการปิดฉากไม่สวยนัก โดยลงเล่นเกมสุดท้ายนัดที่ 77 ให้ทีมชาติด้วยการพ่ายตอ เกาหลีใต้ 2-0 สิ้นลายแชมป์เก่าเก็บกระเป๋ากลับบ้านตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่ม

 

 

คว้าแชมป์ต่อเนื่องในอิตาลี

 

 

แม้ถูก ซีดาน เมินใน ‘ราชันชุดขาว’ แต่ ยูเวนตุส ก็มองเห็นว่า เคดิร่า ยังเป็นนักเตะที่มีของอยู่ ก่อนทำการคว้ามาร่วมทีมแบบไร้ค่าตัวในซัมเมอร์ปี 2015

 

ถึงมีอาการบาดเจ็บรบกวนในปีแรก ๆ แต่สุดท้าย เคดิร่า ก็สามารถยึดตำแหน่งเป็นตัวหลักให้ทีม ‘ม้าลาย’ ในเวลาต่อมา พร้อมมีส่วนสำคัญในการพาทีมคว้าแชมป์ในอิตาลีมากมาย ทั้ง แชมป์เซเรียอา 5 สมัย และ โคปปา อิตาเลีย อีก 3 สมัย

 

น่าเสียดายที่ปีท้าย ๆ ของ เคดิร่า ในตูริน ไม่ราบรื่นoyd หลังเขามีปัญหาอาการบาดเจ็บ รวมไปถึงปัญหาหัวใจเต้นผิดจังหวะ ในปี 2019 จนพลาดโอกาสลงสนาม และไม่สามารถเบียดขึ้นมาเป็นตัวหลัก เหมือนปีแรก ๆ ได้ ก่อนแยกทางกับ ‘เบี่ยงโคเนรี่’ ในต้นปี 2021

 

 

แฮตทริกครั้งแรกและครั้งเดียว

 

 

การทำประตู ไม่ใช่จุดเด่นของ เคดิร่า ที่เล่นเป็นกองกลางอยู่แล้ว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาไม่รู้จักวิธีทำประตูเลย หลังยิงให้ สตุ๊ตการ์ท 16 ลูก, เรอัล มาดริด 9 ลูก และ ทีมชาติเยอรมันอีก 7 ลูก และ ยูเวนตุส ทีมที่เขาทำประตูได้มากที่สุด โดยซัดไป 21 ตุงจาก 145 นัด อีกทั้งยังเป็นสโมสรเดียวในอาชีพที่เขาสามารถทำแฮตทริกได้ด้วย

 

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในเกมที่ ม้าลาย พบกับ อูดิเนเซ่ ในวันที่ 22 ตุลาคมปี 2017 แม้ทำเข้าประตูตัวเองไป 1 ลูก แต่ กองกลางชาวเยอรมัน ก็แก้ตัวด้วยการซัด 3 ประตู ช่วยให้ทีมเอาชนะไปแบบขาดลอย 6-2 แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังยินดีกับชัยชนะของทีม มากกว่าความสำเร็จส่วนตัว

 

“มันเป็นแฮตทริกแรกของผม ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องดี แต่ผมมีความสูงยิ่งกว่า เมื่อทีมชนะได้” เคดิร่า กล่าวหลังเกม และชัยชนะครั้งนั้นช่วยให้ ยูเวนตุส คว้าแชมป์สคูเด็ตโต้ ในฤดูกาล 2017-18 ไปครองโดยมีแต้มเหนืออันดับ 2 เพียง 4 คะแนน 

 

 

ส่วนร่วมช่วยสังคม

 

 

ถึงโด่งดังแค่ไหน เคดิร่า ก็ไม่เคยลืมบ้านเกิด เมื่อเขาซื้อตั๋ว 1,200 ใบให้กับเด็กด้อยโอกาสเพื่อชมฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก ระหว่าง เยอรมนี พบ นอร์เวย์ ซึ่งแข่งขันกันในเมืองสตุ๊ตการ์ทบ้านเกิดของเขา 

 

“มีองค์กรการกุศลมาจากเมืองบ้านเกิดของผม เอฟฟิงเก่น และ เฟลแบ็ค และอีกหลายแห่งก็อยู่ในสตุ๊ตการ์ท ทั้ง ทูบิงเก้น หรือ ลุดวิกส์เบิร์ก ด้วย” เคดิร่า กล่าว

 

“สิ่งสำคัญสำหรับผมไม่เพียงแต่การบริจาคเงินเท่านั้น แต่เด็ก ๆ จะได้รับบางสิ่งบางอย่างจากมัน เด็ก ๆ หลายคนมักจะไม่ได้รับโอกาสชมเกมทีมชาติแบบสด ๆ เนื่องจากเหตุผลทางการเงินและการเดินทาง ผมหวังว่านั่นจะทำให้เด็ก ๆ มีรอยยิ้มได้”

 

นอกจากนี้ เคดิร่า ยังก่อตั้งมูลนิธิของตัวเองขึ้นมาในปี 2014 โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยเหลือเด็กที่ด้อยโอกาสทางสังคมอีกด้วย

 

 

ปีสุดท้ายในแฮร์ธ่า

 

 

หลังประสบความสำเร็จในต่างแดนมากมาย เคดิร่า ก็เลือกย้ายกลับมาบุนเดสลีก้าอีกครั้งในรอบ 10 ปี กับ แฮร์ธ่า เบอร์ลิน ช่วงบั้นปลายอาชีพ เพื่อช่วยให้ทีม ‘หญิงชรา’ รอดจากการตกชั้นจากลีกสูงสุดในฤดูกาลนี้ โดยได้รับการโน้มน้าวจาก อาร์เน่ ฟรีดริช อดีตรุ่นพี่ในทีมชาติเยอรมัน ให้กลับมาเล่นในบ้านเกิดอีกครั้ง

 

“ผมรู้ถึงความเป็นผู้นำของเขา และเราก็มีความสุขที่ได้เขามาร่วมทีมภายใต้สัญญาของ แฮร์ธ่า” ฟรีดริช ที่ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการกีฬาของ แฮร์ธ่า กล่าว

 

แน่นอนว่าทีมรอดตกชั้นแล้ว แต่อาการบาดเจ็บ อดีตกองกลางอินทรีเหล็ก ก็ยังรบกวนต่อเนื่องจนนทำให้เขาได้ลงเล่นเพียง 8 นัดเท่านั้น นับตั้งแต่เดือนมกราคม ก่อนที่เจ้าตัวจะตัดสินใจแขวนสตั๊ดอย่างเป็นทางการหลังจบฤดูกาลนี้ หลังจากโลดแล่นในวงการลูกหนังมานาน 15 ปี

 

“หลังจากการแข่งขันในวันเสาร์ก็ถึงเวลากล่าวคำอำลาแล้ว” เคดิร่า กล่าวคำอำผ่านทาง ทวิตเตอร์ส่วนตัว

 

“ผมรู้สึกภาคภูมิใจที่มีโอกาสได้สัมผัสประสบการณ์ยอดเยี่ยมเหล่านี้ร่วมกับพวกคุณ! ขอบคุณแฟนๆ ทุกคน, เพื่อนร่วมทีม, โค้ช และแน่นอน ครอบครัว และเพื่อนๆ ของผม”