บาเบลออกโรงจวก 4 อดีตนักเตะทีมฮอลแลนด์ว่าเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ทีมแดนกังหันอดชูถ้วยแชมป์โลกสมัยแรก
ไรอัน บาเบล ปีกตัวเก๋าจาก กาลาตาซาราย ได้ออกมาขุดเรื่องเก่าและพูดถึง 4 นักเตะเพื่อนร่วมชาติอย่าง เวสลีย์ สไนเดอร์, อาร์เยน ร็อบเบน, โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ และ ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ ว่ามีอีโก้มากเกินไปจนทำให้ฮอลแลนด์อดคว้าแชมป์โลกในปี 2010
ในเกมนัดชิงที่แอฟริกาใต้วันนั้น สเปนเป็นฝ่ายคว้าชัยและชูถ้วยแชมป์โลก จากประตูชัยของอันเดรส อิเนียสต้า กองกลางจากบาร์เซโลน่าในช่วงต่อเวลาพิเศษ ซึ่ง บาเบล ก็นั่งดูเกมนั้นในม้านั่งสำรองของทีมอัศวินสีส้ม แต่ไม่ได้ลงเล่นเลยแม้แต่เกมเดียวในทัวร์นาเม้นต์นั้น
ซึ่งแข้งวัย 32 ปีได้ย้อนถึงช่วงนั้น และ โทษว่าดาวเตะทั้ง 4 คนมีส่วนทำให้ทีมชาติของตนเองชวดแชมป์โลก และยืนยันว่าทีมของพวกเขาจะคว้าแชมป์หากเล่นเป็นทีมมากกว่านี้
“คุณจะต้องเจอการต่อสู้ของพวกบิ๊กโฟร์ตลอดในตอนนั้น” อดีตแข้งลิเวอร์พูลและอาแจ็กซ์กล่าวกับ Voetbal International นิตยสารฟุตบอลชื่อดังในบ้านเกิด
“จากประสบการณ์ของผม พวกเขาทั้งหมดต้องการจะเป็นที่ 1 มันฟังดูแปลกไม่น้อยเลย แต่ผมคิดว่าทีมในตอนนี้(ฮอลแลนด์) มีความเป็นทีมมากกว่า ผมไม่รู้สึกว่าเราจะมีอีโก้กันในทีมตอนนี้เลย”
“พวกเราต่างมีเป้าหมายร่วมกัน ลงเล่นร่วมเล่น จ่ายบอลให้กัน ทั้งหมดทั้งมวลนี้ ไม่มีใครที่ยืนนำหน้าอยู่โดดๆหรือแบกทีมเพียงคนเดียว”
“ผมจำนัดชิงในตอนนั้นได้ดี เมื่ออาร์เยน ร็อบเบนได้เข้าไปเจอกับ อิเกร์ การ์ซิยาส และการ์ซิยาสก็กำลังรวมให้เขาล้มลง ซึ่งรู้ดีกว่าปกติแล้วร็อบเบนก็คงจะล้มลง ถ้าเขาทำอย่างนั้นจริงๆ เราอาจจะได้เล่นกับคู่แข่งที่มีนักเตะแค่ 10 คน และอาจจะชนะก็ได้”
“แต่เขาอยากจะทำประตูมากๆ ผมอาจจะคิดเสียงดังออกมาไปหน่อยกจากตอนนั้น แต่บางที อาร์เยนอาจจะไม่ได้คิดถึงทีมในตอนนั้นเลย และแค่อยากจะทำประตูเท่านั้น บางทีนี่อาจจะเป็น 5 เปอร์เซนต์ (ที่เราขาด) ในการช่วยให้เราคว้าแชมป์โลกก็เป็นได้” บาเบลร่ายยาวทิ้งท้าย
