เก็บไว้ในความทรงจำ! ย้อนรอย 6 ปี แข้งเทพยุค มาโน่ โพลกิ้ง

 

กุนซือบราซิล เชื้อสายเยอรมัน อย่าง มาโน่ โพลกิ้ง เพิ่งตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งเฮดโค้ช ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด หลังพาทีมเปิดบ้านแพ้ สุโขทัย เอฟซี 4 – 5 เกม โตโยต้า ไทยลีก ยุติการทำงานในถิ่น ธรรมศาสตร์ สเตเดี้ยม ซึ่งยาวนานกว่า 6 ปี

 

อย่างไรก็ตามต้องยอมรับว่าตลอด 6 ซีซั่นที่ผ่านมาของเทรนเนอร์วัย 43 ปี กับทีม “แข้งเทพ” มีเหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นพาทีมเข้าใกล้การคว้าแชมป์ไทยลีก ถึง 2 ครั้ง รวมไปถึงการยกระกับ บียู ให้กลายเป็นสโมสรระดับแถวหน้าของเมืองไทย แบบเต็มตัว

 

โดยวันนี้ Ufaarena จะพาไปดูกันว่าตลอด 6 ปีที่ผ่านมาของ มาโน่ โพลกิ้ง กับ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด จะมีเรื่องราวอะไรบ้างที่เกิดขึ้นระหว่างตัวเขากับสโมสรแห่งนี้

 

 

ยกระดับทีมกลายเป็นทีมเต็งแชมป์

 

ปฎิเสธไม่ได้ว่านับตั้งแต่ที่ มาโน่ โพลกิ้ง ตัดสินใจเข้ามารับงานกุนซือ แบงค็อก ยูไนเต็ด ช่วงเลกสองศึก โตโยต้า ไทยลีก ฤดูกาล 2014 เขาใช้เวลาเพียง 2 ปี ยกระดับทีมกลางตารางให้ก้าวขึ้นมาเป็นสโมสรแถวหน้าของเมืองไทย และกลายเป็นตัวเต็งลุ้นแชมป์ได้สำเร็จ

 

ด้วยการปรับเปลี่ยนสไตล์การเล่นให้มีความดุดันมากขึ้น และเน้นเกมรุกเป็นหลัก “แข้งเทพ” ภายใต้การคุมทีมของเฮดโค้ชชาวบราซิล เชื้อสายเยอรมัน กลายเป็นเครื่องจักรสังหารซึ่งอุดมไปด้วยเหล่าสุดยอดนักเตะ ซึ่งนั่นทำให้พวกเขาขยับจากการจบอันดับที่ 8 ในฤดูกาล 2014 มาเป็นอันดับ 5 ซีซั่นถัดมา และคว้าตำแหน่งรองแชมป์ไทยลีก เมื่อปี 2016

 

เห็นได้ชัดถึงแม้ มาโน่ อาจไม่ประสบความสำเร็จในเรื่องการคว้าถ้วยรางวัลกับสโมสร แต่ต้องยอมรับเลยว่าเขาคือคนที่ทำให้ยอดทีมแห่งเมืองหลวง กลายเป็นทีมน่าจับตามอง และตัวเต็งลุ้นแชมป์ทุกๆ ซีซั่น

 

 

เฉียดแชมป์ ไทยลีก 2 ครั้ง

 

หากพูดถึงความสำเร็จถือเป็นเรื่องน่าเสียดายไม่น้อยกับการที่ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด พลาดโอกาสแชมป์ โตโยค้า ไทยลีก แบบเฉียดฉิวถึง 2 ครั้ง ในช่วงระยะเวลา 6 ซีซั่น ซึ่ง มาโน่ โพลกิ้ง คุมทีม ระหว่างปี 2014 – 2020

 

หนแรกเกิดขึ้นในซีซั่น 2016 เมื่อ แบงค็อก ยูไนเต็ด ณ เวลานั้น ซึ่งเต็มไปด้วยสุดยอดแข้งระดับแถวหน้าของลีกอย่าง ดราแกน บอสโควิช, มาริโอ ยูรอฟสกี้, สรวัฒน์ เดชมิตร และ เจย์ซี จอห์น ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมขับเคี่ยวลุ้นแชมป์กับ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ยุคดรีมทีมแบบสุดมันส์ ก่อนท้ายที่สุดเมื่อจบเกมนัดปิดฤดูกาล “กิเลนผยอง” เป็นฝ่ายคว้าแชมป์ไปครองด้วยการมีแต้มห่างจากอันดับสอง “แข้งเทพ” 5 คะแนนเท่านั้น

 

ส่วนครั้งที่สองเกิดขึ้นฤดูกาล 2018 มาคราวนี้ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ภายใต้การคุมทีมของ มาโน่ โพลกิ้ง เป็นซีซั่นที่ 4 ซึ่งเขาหมายมั่นปั้นมือหวังพาสโมสรคว้าแชมป์ไทยลีก ให้ได้ พร้อมกับดึงผู้เล่นบิ๊กเนมส์เข้ามาเสริมทัพอย่างคับคั่งไม่ว่าจะเป็น วานเดอร์ หลุยส์, เอเวอร์ตัน กอนซาเวส, ร็อบสัน แฟร์นานเดส, ด้วยฟอร์มการเล่นอันร้องแรงของทั้งบรรดาผู้เล่นตัวต่างชาติ และนักเตะไทย อย่าง ปกเกล้า อนันต์, สรวัฒน์ เดชมิตร, มานูเอล ทอม เบียร์, ธีรเทพ วิโนทัย และ สุมัญญา ปุริสาย ที่สามารถยิงประตูได้เป็นกอบเป็นกำ ส่งผลให้ บียู ทำผลงานดีต่อเนื่องจนกระทั่งไปพลาดท่าสะดุดช่วงท้ายฤดูกาล เปิดทางให้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เข้าป้ายคว้าแชมป์ลีกสูงสุดสมัยที่ 7 ไปครองอย่างน่าเสียดาย

 

 

พาทีมยิง 97 ประตู ในซีซั่นเดียว

 

หากพูดถึงเรื่องสไตล์การเล่นของ มาโน่ โพลกิ้ง ซึ่งเน้นเกมรุกเต็มตัว และมาพร้อมระบบแผนผังการยืน 4-3-3 หรือบ้างครั้งอาจเปลี่ยนมาเป็น 4-4-2 ส่งผลให้พวกเขากลายเป็นทีมที่ดุดัน และเดินหน้ายิงประตูคู่แข่งแบบกระจุยจาย

 

ย้อนกลับไปเมื่อซีซั่น 2017 ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ซึ่งยังคงนำทัพโดยอีกหนึ่งสุดยอดหัวหอกระดับตำนานไทย อย่าง ดราแกน บอสโควิช ทำผลงานได้อย่างร้อนแรงยิงประตูให้กับสโมสรในเกมลีก 36 ลูก นั่นส่งผลให้เจ้ากลายเป็นผู้เล่นที่ยิงประตูมากสุดต่อฤดูกาลของไทยลีก แซงหน้าสถิติเดิมของ ดิโอโก้ หลุยส์ ซานโต 34 ประตู

 

แน่นอนว่าเครดิตส่วนหนึ่งต้องยกให้กับ มาโน่ ที่สามารถจัดทีมออกได้อย่างสมบูรณ์แบบ และยกระดับเกมรุกของ บียู จนทำให้พวกเขาถล่มตาข่ายคู่แข่งในศึกไทยลีก ซีซั่น 2017 ไปถึง 97 ประตู จากการลงสนาม 34 เกม มากสุดเป็นอันดับ 2 รองจาก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ซึ่งเคยยิงไว้สูงสุด 98 ประตู เมื่อฤดูกาล 2015

 

 

ชวดคว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ

 

ยังคงอยู่กันในฤดูกาล 2017 ซึ่งถือเป็นปีที่ยอดเยี่ยมมากของ มาโน่ โพลกิ้ง กับ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด นอกจากเจ้าตัวพาทีมโชว์ฟอร์มร้อนแรงในเกมลีกแล้ว ในศึกฟุตบอลถ้วย ช้าง เอฟเอ คัพ บียู ทำผลงานยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน

 

โดยฤดูกาลดังกล่าวเทรนเนอร์ชาวแซมบ้า พา แบงค็อก ยูไนเต็ด เอาชนะผ่านทีมอย่าง เชียงราย ซิตี้, นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี, การท่าเรือ เอฟซี, สุพรรณบุรี เอฟซี และ เจแอล เชียงใหม่ ยูไนเต็ด ในเกมรอบรองชนะเลิศ

 

ส่วนนัดชิงชนะเลิศ “แข้งเทพ” ต้องโคจรมาพบกับ สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด สโมสรเจ้าพ่อบอลถ้วยของเมืองไทย ยุคปัจจุบัน ถึงแม้แมตช์ดังกล่าว แบงค็อก เป็นฝ่ายออกนพำไปก่อนตั้งแต่ 6 นาทีแรก จากประตูของ ปกเกล้า อนันต์ ทว่าท้ายที่สุดกลับเป็นทางฝั่ง “กว่างโซ้ง” ที่เอาชนะไปได้ด้วยสกอร์ 4 – 2 และเป็นอีกครั้งสำหรับ มาโน่ โพลกิ้ง กับโอกาสคว้าแชมป์กับสโมสรอย่างน่าเสียดาย

 

 

ผลงานน่าผิดหวังศึกฟุตบอลเอเชีย

 

แม้ผลงานของ มาโน่ โพลกิ้ง กับ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ในลีกรวมไปถึงฟุตบอลถ้วยจะยอดเยี่ยมแค่ไหน แต่ฟอร์มการเล่นเกมฟุตบอลสโมสรเอเชีย อย่าง เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก เปรียบเสมือนเป็นตราบาปที่ติดอยู่กับความทรงจำของแฟนบอล บียู แบบไม่มีวันจางหาย

 

ย้อนกลับไปเมื่อปีซีซั่น 2017 แบงค็อก ยูไนเต็ด ได้สิทธิ์ลงเล่นศึก แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบคัดเลือก รอบที่สอง ด้วยการเปิดรังเหย้า ธรรมศาสตร์ สเตเดี้ยม รับการมาเยือนของสโมสรแชมป์ มาเลเซีย ซุปเปอร์ ลีก อย่าง ยะโฮร์ ดารุล ทักซิม ซึ่งเกมตลอด 90 นาที ดำเดินไปอย่างสูสี และเสมอกันช่วงต่อเวลาพิเศษ 1 – 1 ทว่าท้ายที่สุดเป็นยอดทีมจากแดนเสืเหลือง บุกมาเอาชนะ บียู ด้วยการดวลจุดโทษช็อคแฟนบอล “แข้งเทพ” แบบไม่มีใครคาดคิด

 

หลังจากนั้นในปี 2019 เป็นอีกครั้งที่ลูกทีมของ มาโน่ ได้กลับมาเล่นในถ้วยฟุตบอลเอเชียอีกครั้ง และต้องลงเตะรอบเดิมเปิดบ้านพบกับสโมสรแชมป์ วีลีก เวียดนาม อย่าง ฮานอย เอฟซี ซึ่งเต็มไปด้วยนักเตะระดับทีมชาติเวียดนาม ทั้ง ดวน วาน เฮา, เหงียน วาน เควียต และ เหงียน กวง ไฮ เป็นอีกหนึ่งเกมที่ทั้งสองฝ่ายสู้กันได้อย่างสนุกสุดมันส์ แต่แล้วช่วงท้ายเกมเป็นทางฝั่ง ฮานอย มาได้ประตูชัยจากจุดโทษของ วาน เควียต เขี่ย ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ตกรอบคัดเลือก รอบที่สอง เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก เป็นหน 2 ในรอบ 3 ซีซั่น ซึ่งถือเป็นผลงานที่น่าผิดหวังไม่น้อยสำหรับ มาโน่ กับการลงเล่นรายการนี้

 

 

ให้โอกาสดาวรุ่งสู่ทีมชุดใหญ่

 

นอกจากเรื่องผลงานในสนามแล้วการให้โอกาสดาวรุ่งได้ก้าวขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่ ยังเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของกุนซืออย่าง มาโน่ โพลกิ้ง ตลอดช่วงระยะเวลา 6 ปี ที่เขารับงานคุมทีมในถิ่น ธรรมศาสตร์ สเตเดี้ยม

 

โดยหนึ่งในดาวรุ่งที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้ก็คือ ศศลักษณ์ ไหประโคน ปีกตัวเก่งซึ่งถูกดันขึ้นมาเล่นให้กับทีมใหญ่ของ บียู ตั้งแต่เมื่อปี 2014 ก่อนถูกดึงไปอยู่กับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด กระทั่งมีโอกาสได้ลงสนามรับใช้ทีมชาติไทย ชุดใหญ่เรียบร้อยแล้ว เช่นเดียวกับ จักรกฤษณ์ เวชภิรมย์ แข้งดีกรีทัพ “ช้างศึก” U23 ซึ่งแจ้งเกิดไล่เลี่นกัน

 

นอกจากนั้นยังมีดาวรุ่งอีกหลายคนที่ได้รับโอกาสจาก มาโน่ โพลกิ้ง ไม่ว่าจะเป็น ศรายุทธ สมพิมพ์, วิศรุต อิ่มอุระ รวมไปถึง ณัฐวุฒิ สุขสุ่ม หัวหอกอนาคตไกลวัย 22 ปี ซึ่งถูกยืมไปอยู่กับ เอฟซี โตเกียว U23 ลงเล่นศึก เจลีก 3 ซีซั่นที่แล้ว ก่อนกำลังทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมให้กับ บียู ในฤดูกาลนี้ ด้วยผลงานลงสนาม 9 นัดในศึกไทยลีก ยิงไปแล้ว 4 ประตู

 

 

กุนซือคุมทีมนานสุดในศึก โตโยต้า ไทยลีก

 

เรียกได้ว่าเป็นกุนซือยู่ยงคงกระพันสำหรับ มาโน่ โพลกิ้ง กับการรับงานกุนซือ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด เพราะถึงแม้เขาจะทำผลงานย่ำแย่แค่ไหนตลอดระยะเวลา 6 ปีที่ผ่านมา เฮดโค้ชชาวแซมบ้า สามารถรักษาตำแหน่งของตัวเอง และก้าวผ่านวิกฤตมาได้ตลอด

 

ระยะเวลาการทำงานในถิ่น “แข้งเทพ” 6 ปี 4 เดือน ทำให้ มาโน่ ครองต่ำแหน่งเฮดโค้ชที่รับงานคุมทีมยาวนานสุดในศึก โตโยต้า ไทยลีก นับตั้งแต่เดือนมิถุนายน ปี 2014 จนถึงเดือนตุลาคม ปี 2020

 

 

ขึ้นแท่นยอดโค้ชไทยลีก แม้ยังไร้โทรฟี่

 

ท้ายที่สุดแล้วถึงแม้ มาโน่ โพลกิ้ง ต้องปิดฉากการระยะเวลา 6 ปี ในฐานะกุนซือ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด แบบไม่มีแชมป์ติดมือเลยสักรายการเดียว ทว่ายังไงก็ไม่กล้ามีใครปฎิเสธว่าเขาคือผู้จัดการทีมระดับแถวหน้าของเมืองไทย อย่างแท้จริง

 

โดยผลงานของเทรนเนอร์วัย 43 ปี กับ แบงค็อก ยูไนเต็ด ตลอด 6 ซีซั่นที่ผ่านมา พาทีมลงสนามทั้งหมด 212 นัด ชนะ 121 เสมอ 44 แพ้ 47 ยิงได้ 459 ประตู เสีย 276 ซึ่งเป็นตัวเลขที่ยอดเยี่ยมไม่น้อยเลยทีเดียว

 

เพราะฉะนั้นถึง มาโน่ โพลกิ้ง จะไม่สามารถพา ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ประสบความสำเร็จความแชมป์ได้ในท้ายที่สุด แต่เขาจะถูกยกย่องให้เป็นหนึ่งในกุนซือที่ดีที่สุดคนหนึ่งของศึก โตโยต้า ไทยลีก แบบไม่ต้องสงสัย