เก่งนักใช่ไหม! 9 แข้งโดนซื้อตัวหลังฟอร์มแจ่มกับต้นสังกัด

เก่งนัก

คำว่า ‘หากต่อต้านไม่ได้ ก็ให้เข้าร่วม’ ดูจะเป็นประโยคที่คุ้นหูกันไม่น้อย ที่ถูกเอามาใช้ในหลายๆโอกาส เช่นเดียวกับวงการฟุตบอล เมื่อทีมใหญ่ๆเจอนักเตะที่ยากต่อกร ก็เลือกเซ็นสัญญามาอยู่กับทีมซะเลยให้รู้แล้วรู้รอดกันไป

วันนี้ UFAARENA จะพาไปดูว่ามีนักเตะคนไหนบ้างที่แผลงฤทธิ์ จนบรรดาบิ๊กทีมอดใจไม่ไหวต้องดึงตัวไปร่วมทีม กับ เก่งนักใช่ไหม! 9 แข้งโดนซื้อตัวหลังฟอร์มแจ่มกับต้นสังกัด

 

คริสเตียโน่ โรนัลโด้ | แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

How much did it cost Manchester United to buy Cristiano Ronaldo from  Sporting? Transfer deal explained | Goal.com US

“ผมไม่น่าส่งเขาลงสนามเลย และตอนนี้ผมเสียใจเรื่องนั้น” คำพูดจากอดีตผู้จัดการทีม สปอร์ติ้ง ลิสบอนอย่าง เฟร์นานโด ซานโตส ที่เคยให้สัมภาษณ์ไว้เมื่อปี 2016 ซึ่งเจ้าตัวได้พูดไปถึงในช่วงที่ CR7 ยังเป็นเพียงดาวรุ่งวัย 18 ปี และตนได้ส่งเขาลงสนามในเกมปรีซีซั่นก่อนฤดูกาล 2003/04 โดยในเกมนั้นเจ้าตัวได้ลงสนามเป็นตัวจริงและทีมดังจากโปรตุเกสก็ชนะไปด้วยสกอร์ถึง 3-1

แม้ว่าจะไม่สามารถทำประตูได้แต่ในเกมนั้น เจ้าหนูโรนัลโด้ ก็ทำได้ 1 แอสซิสต์ แถมยังสร้างปัญหาให้กับแนวรับปีศาจแดงอย่างหนัก จนถึงขั้นที่ว่าหลังจบเกม ริโอ เฟอร์ดินานด์ แนวรับของทีมในตอนนั้น ถึงกับร้องขอให้เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ไปซื้อตัวแข้งชาวโปรตุเกสรายนี้มาสู่ทีม ซึ่งก็ใจตรงกับนายใหญ่พอดี เพราะหลังจากนั้นยอดทีมจากแมนเชสเตอร์ก็หอบเงินกว่า 12.2 ล้านปอนด์ ไปดึงตัว โรนัลโด้มาสู่ทีมหลังจบเกมนั้นทันที

 

อัลเฟรโด ดิ สเตฟาโน่ | เรอัล มาดริด

What if...Di Stéfano had joined Barcelona instead of Madrid? | BU

ตำนานชาวสแปนิช เคยทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมจนสองยักษ์ใหญ่แดนกระทิงดุอย่าง บาร์เซโลน่า และ เรอัล มาดริด ต้องเปิดศึกแย่งตัวกันยกใหญ่ในสมัยที่กำลังจะสร้างชื่อให้กับตัวเอง ซึ่งเจ้าบุญทุ่มเคยยื่นซื้อเจ้าตัวก่อนหน้านี้ไปแล้วก่อนหน้านี้ในปี 1949 สมัยที่ค้าแข้งกับ ริเวอร์เพลท แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ย้ายมาร่วมทีม

ก่อนที่ชื่อของเขาจะเข้ามาพัวพันกับสองทีมจากบ้านเกิดอีกครั้งในปี 1952 เมื่อเจ้าตัวในเวลานั้นค้าแข้งอยู่กับ มิลเลียนนาริออส ได้โคจรมาเจอกับ ราชันชุดขาว และสามารถพาทีมจากโคลอมเบียเอาชนะไปได้ด้วยสกอร์ 4-2 โดยยิงไปคนเดียว 2 ประตู นั่นทำให้ ยอดทีมจากกรุงมาดริด เดินหน้าคว้าตัว ดิ สเตฟาโน่ มาร่วมทีมอย่างเต็มกำลัง

ซึ่งทางบาร์ซ่าก็โดดเข้ามาร่วมวงด้วยในรอบนี้เพื่อแย่งตัวเขาไปเช่นเดียวกัน ร้อนไปถึง สมาคมฟุตบอลสเปน และ ฟีฟ่าที่ต้องลงมาตัดสินใจเรื่องนี้ โดยจะให้ตัวนักเตะไปค้าแข้งกับทั้งสองสโมสรคนละฤดูกาล ซึ่งจะเริ่มจากเรอัล มาดริด ก่อนแต่สุดท้ายทาง บาร์เซโลน่าเป็นฝ่ายที่ล้มเลิกดีลนี้ไปเอง ทำให้ดิ สเตฟาโน่กลายมาเป็นตำนานของราชันชุดขาวด้วยการพาทีม คว้าแชมป์ลาลีกาไปทั้งหมด 8 สมัย แชมป์ ยุโรปอีก 5 สมัย

 

วิลเลี่ยน | เชลซี

Chelsea haven't given up hope of landing £35m rated Willian - Mirror Online

ดาวเตะแซมบ้าแจ้งเกิดมาจากการค้าแข้งอยู่กับ ชัคตาร์ โดเนส์ท ทีมดังจากยูเครน ซึ่งในตอนนั้นเจ้าตัวได้มีโอกาสพบกับ เชลซีในศึก ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกเมื่อปี 2012/13 รอบแบ่งกลุ่ม โดยเกมแรกเจ้าตัวเป็นผู้ทำแอสซิสต์ช่วยให้ต้นัสังกัดเอาชนะ เชลซีไปด้วยสกอร์ 2-1 ส่วนนัดที่สองแม้จะเป็นฝ่ายแพ้ด้วยสกอร์ 3-2 แต่ วิลเลี่ยนก็เป็นผู้ที่ทำทั้งสองประตู ซึ่งสุดท้ายก็สามารถผ่านเข้ารอบ 16 ทีมไปได้ในฐานะอันดับ 2 ส่วนสิงห์บลูก็เป็นอันต้องอกหักไปตามระเบียบด้วยการเป็นอันดับ 3 ของกลุ่ม

อย่างไรก็ตามทัพสิงห์บลูยังไม่ได้คว้าตัวแข้งชาวบราซิเลี่ยนทันที แต่เจ้าตัวมีการย้ายไปอยู่กับ อันจิ มาคัชคาลา ในช่วงครึ่งซีซั่นหลัง ก่อนที่จบฤดูกาล สิงห์บลูจะหอบเงินกว่า 35 ล้านยูโรไปสู่ขอตัวมาสู่ถิ่นสแตมฟอร์ดบริดจ์ แม้จะมีคู่แข่งร่วมเมืองอย่าง ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ส เข้ามาแจมด้วยแต่ก็ไม่เป็นผล สุดท้ายยอดทีมจากกรุงลอนดอนก็ได้ตัว วิลเลี่ยนไปร่วมทีม และอยู่ร่วมสร้างผลงานมาจนถึงปี 2020 ที่ผ่านมานี้เอง

 

เลียม เบรดี้ | ยูเวนตุส

40 years on, the Juventus deal that made Liam Brady but also set Arsenal  back by a decade - Independent.ie

เด็กปั้นจากอาร์เซน่อล ถูกดันขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่ตั้งแต่ปี 1973 และสร้างผลงานได้อย่างน่าประทับใจในฐานะตัวหลักของทีม จนเมื่อถึงปี 1979 ทัพปืนใหญ่มีคิวพบกับ ยูเวนตุส ทีมจากศึกกัลโช่ เซเรียอา ในบอลถ้วยยูโรเปี้ยนคัพ รอบรองชนะเลิศ ซึ่งแข้งชาวไอริชก็คุมแดนกลางได้อย่างอยู่หมัด แถมเป็นผู้ทำประตูชัยให้กับทีมเอาชนะไปได้ด้วยสกอร์ 1-0 อีกด้วย

ด้วยฟอร์มอันโดดเด่นบวกกับประตูที่ซัดใส่ ทำให้เบียงโคเนลลี่ ตัดสินใจหอบเงิน 5 แสนปอนด์ เพื่อดึงตัวเขามาสู่ทีมหลังจบซีซั่นนั้นทันที และเจ้าตัวก็ไม่ทำให้แฟนบอลม้าลายผิดหวังด้วยการพาทีมคว้าแชมป์สคูเด็ตโต้มาครองได้สองปีติดที่อยู่กับทีม แม้จะอยู่ได้แค่สองปีก็ต้องย้ายออกเพื่อหลีกทางให้กับ มิเชล พลาตินี่ แต่ก็เป็นสองปีที่มีถ้วยแชมป์ติดมือทั้งคู่

 

คริส วอดเดิ้ล | ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ส

Exclusive: Former footballer Chris Waddle reveals the secret behind his  iconic mullet

แนวรุกชาวอังกฤษ ถูกจดจำในฐานะตำนานแข้งของ ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ส แต่ก่อนหน้านั้นเขาสร้างผลงานน่าประทับใจกับการพา นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด เลื่อชั้นขึ้นมาสู่ลีกสูงสุดในปี 1984 ซึ่งซีซั่นแรกที่พวกเขาขึ้นก็ไม่ได้มีผลงานดีเด่นอะไรมากมาย แต่ผลงานส่วนตัวของ วอดเดิ้ลทำได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะในเกมกับไก่เดือยทอง

แม้ว่าในเกมดังกล่าวสาลิกาดงจะเป็นฝ่ายแพ้ไปด้วยสกอร์ 3-1 แต่หนึ่งประตูที่พวกเขาได้มาจากแนวรุกเลือดผู้ดีที่โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นในวันนั้น ถึงขนาดว่าเจ้าตัวเคยออกมาพูดถึงเกมในวันนั้นว่า “เกมที่เปลี่ยนแปลงชีวิตผม มันคือซีซั่นแรกที่เราเลื่อนชั้นขึ้นมา เราแพ้ 3-1 แต่เราเล่นได้ดี เราออกนำไปก่อนด้วยจากผม แล้วหลังจากนั้นไม่กี่วัน หนังสือพิมพ์ต่างลงข่าวว่า ท็อตแน่ม อยากเซ็นสัญญากับผมแล้วมันก็เป็นเรื่องจริง”

วอดเดิ้ล ได้ย้ายไปอยู่กับไก่เดือยทองหลังจบซีซั่นนั้น และอยู่ค้าแข้งกับทีมมาถึง 4 ฤดูกาล ฝากความสำเร็จเป็นถ้วยแชมป์ เอฟเอคัพปี 1986/87 ก่อนจะย้ายออกไปค้าแข้งต่อตามเส้นทาง ส่วนกับทีมชาติอังกฤษ ก็กลายเป็นตัวหลักนับตั้งแต่นั้นมา และเคยพาทีมไปได้ไกลถึงที่ 4 ของศึกฟุตบอลโลก

 

ไรอัน กิ๊กส์ | แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

Every Season of Ryan Giggs' Professional Career - Ranked

แม้ว่าตำนานปีกพ่อมดเวลส์จะถูกจดจำในฐานะตำนานวันแมนคลับสโมสรปีศาจแดง แต่ก่อนหน้านั้นในช่วงอายุ 13 ปีเจ้าตัวอยู่กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ คู่อริร่วมเมืองมาก่อน ซึ่งสโมสรก็หมายมั่นปั้นมือจะปั้นเด็กคนนี้ แต่ต้องรอจนกว่าเจ้าหนูกิ๊กส์ จะอายุ 14 ปีถึงจะยื่นสัญญาเยาวชนไปให้ แต่ ยูไนเต็ด ดันมาเจอเด็กคนนี้ก่อนที่การยื่นสัญญานั้นจะเกิดขึ้น

เนื่องจากในเวลานั้น กิ๊กส์ ยังเป็นเด็กไร้สังกัด และถูกทีมอย่าง ซัลฟอร์ด บอยส์ เชิญไปลงเล่นให้พบกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดชุด U-15 โดยในเกมดังกล่าว เจ้าตัวสามารถกดแฮตทริคโชว์ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ที่ภายหลังได้ออกมาเปิดเผยว่าตัวเองเหมือนเป็น “นักขุดทองที่เจอก้อนทองคำ” และเมื่ออายุถึง 14 ปี สัญญาที่ร่อนให้ไปไม่ใช่แมนเชสเตอร์ฝั่งสีฟ้า แต่เป็นฝั่งสีแดง ก่อนจะกลายมาเป็นตำนานสโมสรในเวลาต่อมา

 

โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ | เชลซี

Pin on Chelsea FC

ย้อนไปในปี 2014 โมซาลาห์ยังเป็นเพียงนักเตะโนเนมที่ค้าแข้งอยู่กับ บาเซิ่ล ในลีกสวิสเซอร์แลนด์เท่านั้น แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ยังได้มาเล่นบนเวที ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก โดยอยู่กลุ่มเดียวกับ เชลซี ที่ได้ตัว โชเซ่ มูรินโญ่ กลับมาคุมทีมอีกครั้ง แต่ก็ไม่มีใครคาดคิดว่าทัพสิงห์บลูภายใต้การคุมทีมของกุนซือจอมอหังการจะแพ้ให้กับทีมแดนนาฬิกา ทั้งขาไปขากลับในรอบแบ่งกลุ่ม

ยอดทีมจากกรุงลอนดอน เปิดหัว UCL รอบแบ่งกลุ่มด้วยการแพ้ให้กับ บาเซิ่ล ด้วยสกอร์ 2-1 โดย ซาลาห์ เป็นผู้ทำประตูตีเสมอให้กับทีม ก่อนที่จะมาได้ประตูชัยท้ายเกม หลังจากนั้นเกมนัดที่สอง แนวรุกชาวอียิปต์ก็ยังมาย้ำแค้นอีกรอบด้วยการยิงให้ทีมเอาชนะไปด้วยสกอร์ 1-0 แม้ทีมจากสวิสจะตกรอบแบ่งกลุ่มไป แต่ก็เรียกว่าทำได้แสบสันกับเชลซีที่ผ่านเข้ารอบไปด้วยตำแหน่งแชมป์กลุ่ม

หลังจากนั้นกุนซือชาวโปรตุเกสก็อดรนทนไม่ไหว เมื่อตลาดเดือนมกราคมเปิดขึ้นก็ไปดึงตัว ซาลาห์ มาร่วมทีมด้วยค่าตัว 11 ล้านปอนด์ โดยครึ่งซีซั่นแรกที่เจ้าตัวย้ายมาอยู่กับทีม ได้ลงสนามไปทั้งหมด 11 นัดยิง 2 ประตู 2 แอสซิสต์ รวมทุกรายการ แต่หลังจากนั้นแข้งชาวอียิปต์ก็ไม่ค่อยได้รับโอกาส และทำผลงานไม่ได้เลยในซีซั่นถัดมา ก่อนโดนปล่อยไปให้กับ ฟิออเรนติน่า ต่อด้วย โรม่า และสุดท้ายก็ได้ย้ายมาอยู่กับ ลิเวอร์พูล อย่างในทุกวันนี้

 

แดนนี่ ดริ้งวอเทอร์ | เลสเตอร์ ซิตี้

Drinkwater signs new deal | Football News | Sky Sports

กองกลางเด็กปั้นจากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถูกปล่อยไปให้กับ บาร์นสลีย์ ยืมตัวในฤดูกาล 2011/12 ซึ่งเจ้าตัวก็ได้ลงไปเล่นอย่างสม่ำเสมอในแชมเปี้ยนชิพ จนได้มาเจอกับ เลสเตอร์ ซิตี้ ในเกมลีก โดยในเกมเลกแรกจบลงด้วยผลเสมอ 1-1 แต่ในเกมนัดที่สองที่มาเยือน คิง พาวเวอร์ สเตเดี้ยม แดนนี่ ทำผลงานได้อย่างโดดเด่น ด้วยการทำ 2 แอสซิสต์ จนทีมเอาชนะไปได้ด้วยสกอร์ 2-1

ด้วยผลงานดังกล่าวทำให้เมื่อหมดสัญญายืมตัวในช่วงเดือนมกราคม ทางจิ้งจอกสยามก็รีบไปคว้าตัวมาทันที หลังจากนั้นก็ใช้เวลาอยู่กับทีมเพียงแค่ 2 ฤดูกาล ก็สามารถพาทีมเลื่อนชั้นขึ้นมาบนลีกสูงสุดได้ในปี 2014/15 และก้าวไปถึงการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกในปี 2015/16 และนับเป็นจุดสูงสุดของอาชีพของเขา เพราะหลังจากนั้น เชลซีก็มาดึงตัวเขาไปสู่ทีม แต่ก็ไม่ได้เป็นตัวหลัก และโดนปล่อยยืมจนกระทั่งหมดสัญญาลงในซัมเมอร์นี้เอง

 

ลูซิโอ | อินเตอร์นาซิอองนาล

Como o zagueiro Lúcio foi parar no Internacional ~ O Curioso do Futebol

ก่อนที่ปราการหลังชาวบราซิเลี่ยนจะก้าวมาคว้าแชมป์ บุนเดสลีกา , กัลโช่ เซเรียอา และยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกกับทั้ง บาเยิร์น มิวนิค และ อินเตอร์ มิลาน ไปจนถึงแชมป์ฟุตบอลโลกกับทีมชาติ เจ้าตัวเริ่มต้นค้าแข้งกับ กัวร่า ทีมในบ้านเกิดก่อนจะได้มาเจอกับทีมดังในประเทศอย่าง อินเตอร์นาซิอองนาล ในศึก โคปา ดู บราซิล เมื่อปี 1997

แม้ว่าจะเป็นฝ่ายแพ้ไปด้วยสกอร์ขาดลอย 7-0 แต่แข้งแซมบ้าในวัย 18 ปี ณ ตอนนั้นก็สามารถโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมจนไปเตะตาทาง อินเตอร์นาซิอองนาล โดยตัวนักเตะได้ออกมาย้อนความหลังว่า “ผมถูกติดตามฟอร์มตั้งแต่เกมที่แพ้ อินเตอร์ 7-0 แล้ว แต่มันก็ยังน่าพอใจนะ”

หลังจากนั้นแค่ปีเดียวยอดทีมแดนแซมบ้าก็ดึงแนวรับดาวรุ่งรายนี้ไปร่วมทัพ ก่อนจะสร้างชื่อจนได้ย้ายมาค้าแข้งบนเวทียุโรปกับ เลเวอร์คูเซ่น ต่อด้วย บาเยิร์น มิวนิค , อินเตอร์ มิลาน และ ยูเวนตุส ก่อนจะกลับไปค้าแข้งในบ้านเกิดอีกครั้ง และนับเป็นปราการหลังบราซิลที่ประสบความสำเร็จมากเป็นอันดับต้นๆเลยทีเดียว

นังงูพิษ! 10 นักเตะแว้งกัดใส่ทีมเก่า

งูพิษ