ยุคปัจจุบันหลายๆทีมชอบใช้นักเตะเก่าของตัวเองขึ้นมาคุมทีม ซึ่งอลายคนก็ทำได้ดี อย่าง โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ จากสุดยอดนักเตะ เเมนฯ ยู หลังได้โอกาสกลับมาทำทีมอีกครั้ง ก็ดูไม่ธรรมดาเลยทีเดียว คุมทีมได้อย่างยอดเยี่ยม วันนี้ UFAaREna จะพาไปทำความรู้จักอดีต 8 นักเตะดังที่ผันตัวมาคุมทีมเเล้วยังรุ่งอีก จะมีใครบ้างไปชมกัน
1. ซีเนอดีน ซีดาน (เรอัล มาดริด)
ไม่ต้องบรรยายอะไรมากอยู่เเล้วสำหรับ ซีเนอดีน ซีดาน ตำนานนักเตะของ เรอัล มาดริด ที่ประสบความสำเร็จในฐานะนักเตะยุคของ “กาลาติกอส” สมัยค้าเเข้ง ซีดาน ถูกยกเป็นนักเตะที่เก่งที่สุดของโลกคนหนึ่ง ประสบความสำเร็จมากมาย คว้าเเชมป์มาเเล้วทุกรายการ ทั้งในระดับสโมสรเเละทีมชาติ รางวัลส่วนตัวก็มีเต็มตู้ การันตีด้วย เเชมป์ ลีก 1 สมัย, ยูฟ่า เเชมเปี้ยนส์ ลีก 1 สมัย ในนามทีมชาติก็คว้าเเชมป์ฟุตบอลโลกกับฝรั่งเศส
หลังประสบความสำเร็จมากมาย ซีดาน ประกาศเเขวนสตั๊ดหลังจบศึกฟุตบอลโลก 2006 เเบบไม่สวยนัก ก่อนจะผันตัวเป็นกุนซือ เริ่มครั้งเเรกคือรับงาน เฮดโค้ช มาดริด ทีมสำรองเป็นเวลา 2 ปี จนในปี 2016 ซีดาน ได้รับการเเต่งตั้ง เป็นกุนซือชุดใหญ่ของ ราชันชุดขาว เเทนที่ของ ราฟาเอล เบนิเตซ ที่โดนปลดไป
ซีดาน คุม มาดริด 3 ปี เเละคว้าเเชมป์ ยูฟ่า เเชมเปี้ยนส์ ลีก ได้ 3 สมัยติด พ่วงด้วยเเชมป์ ลีกอีก 1 สมัย รวมถึงเเชมป์สโมสรโลกอีก 2 สมัย จนได้รับการจับตามองจากหลายทีมยุโรป เเต่สุดท้ายก็ประกาศเเยกทางกับทีมไปหลังคว้าเเชมป์ เเชมเปี้ยนส์ ลีก ในปี 2018 ซึ่งเป็นการเเยกทางที่ยิ่งใหญ่เเละเเฟนๆน่าจะคิดถึงเขาเเน่นอน
2. เป๊ป กวาร์ดิโอลา (บาร์เซโลน่า)
กวาร์ดิโอลา เป็นนักเตะฝึกหัดของ บาร์เซโลน่า ก่อนจะพัฒนาขึ้นมาจนติดทีมชุดใหญ่เเละเป็นกำลังหลักของทีม คว้าเเชมป์ ลีก 6 สมัย, ยูโรเปียน คัพ หรือ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 1 สมัย ช่วงปลายก็ย้ายทีมไปเล่นกับหลายสโมสรทั้ง โรม่า, เบรสชา รวมทั้ง อัลอาลี ก่อนจะปิดฉากอาชีพนักฟุตบอลอาชีพกับ โดราดอส ของลีกเม็กซิโก ในปี 2006
หลังจากนั้น กวาร์ดิโอลา เริ่มงานกุนซือทันทีกับ บาร์ซ่า บี หรือ ทีมสำรอง เเละใช้เวลาเเค่ปีเดียว ขึ้นมาทำทีม บาร์เซโลน่า ชุดใหญ่เเทนการจากไปของ แฟร้งค์ ไรจ์การ์ดกวาร์ดิโอลา เข้ามาชนิดที่เรียกได้ว่า ปฏิวัติทีมอย่างเเท้จริง สิ่งเเรกที่เขาทำคือประกาศว่า “เดโก้, ซามูเอล เอโต่ เเละ โรนัลดินโญ่ ไม่อยู่ในเเผนการทำทีม” ซึ่งนับว่าใจกล้าไม่น้อย เพราะทั้ง 3 คนเเม้ว่าจะอยู่ในช่วงปลายของอาชีพ เเต่ก็เป็นนักเตะเก๋าของ ไรจ์การ์ด ที่พาทีมฝ่าฟัน คว้าเเชมป์มากมาย กวาร์ดิโอลา เลือกที่จะปั้น ลิโอเนล เมสซี่ ที่ตอนนั้นเหมือนจะอยู่ใต้ร่มเงาของ โรนัลดินโญ่ มาตลอด
กวาร์ดิโอลา พิสูจน์ให้เห็นว่าเขาคิดถูก เมสซี่ เป็นตัวหมากที่อยู่ในระบบ ติกิ-ตาก้า เเละทีมของ กวาร์ดิโอลา ก็ถูกเรียกว่า “เป๊ป ทีม” หลังจากอะไรลงตัว กวาร์ดิโอลา เดินหน้าพาทีมคว้าเเชมป์มากมาย ตลอด 4 ปี คว้าเเชมป์ลีก 3 สมัย, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 2 สมัย เเละ สโมสรโลกอีก 2 สมัย ก่อนจะเเยกทางเพื่อไปหาความท้าทายใหม่กับ บาเยิร์น มิวนิค เเละ เเมนฯ ซิตี้ ในปัจจุบัน
3. ดิเอโก้ ซิเมโอเน่ (แอตเลติโก มาดริด)
เป็นนักเตะรุ่นราวคราวเดียวกันกับ เป๊ป กวาร์ดิโอลา เเต่ต่างตรงที่ ซิเมโอเน่ นับเป็นเเข้งจอมพเนจรคนหนึ่ง เเต่ดังสุดๆตอนอยู่กับ เเอต. มาดริด คว้าเเชมป์ลีก 1 สมัย เเละ บอลถ้วยอีก 1 สมัย ก่อนจะย้ายไปคว้าเเชมป์ ยูฟ่า คัพ กับ อินเตอร์ มิลาน รวมถึง ลาซิโอ ที่คว้าเเชมป์ ลีก ได้ด้วย
ซิเมโอเน่ เเขวนสตั๊ดในปี 2006 กับ ราซิ่ง คลับ เเละเริ่มงานโค้ชที่นั้นเลย เเต่ก็อยู่ได้ไม่นาน ต้องย้ายไปอยู่กับทีมอื่นอีกหลายสโมสร ก่อนจะได้กลับมาคุม เเอต. มาดริด ในเดือนธันวาคม ปี 2011 เเทนที่ของ เกรกอริโอ มานซาโน่ ที่เเยกทางกับทีมไป
ซิเมโอเน่ เข้ามาคุมขัดตราทัพช่วงกลางของฤดูกาล เเต่ผลงานกลับยอดเยี่้ยมเกินคาด พาทีมคว้าเเชมป์ ยูโรป้า ลีก ด้วยการเอาชนะ เเอธ. บิลเบา 3-0 ก่อนจะต่อยอดด้วยผลงานยอดเยี่ยม คว้าเเชมป์ ลีก 1 สมัย, บอลถ้วยในลีก 1 สมัย, ยูโรป้า ลีก 2 สมัย รวมถึง เข้าชิงแชมเปี้ยนส์ ลีกถึง 2 ครั้ง
4.ฟาบิโอ คาเปลโล (ยูเวนตุส)
หลายคนสมัยใหม่อาจจะคุ้นชื่อของ ฟาบิโอ คาเปลโล ในฐานะสุดยอดกุนซือ เเต่ถ้าย้อนกลับไปอีก 40 ปีที่เเล้ว คาเปลโล ถือเป็นสุดยอดนักเตะที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่ง คาเปลโล เเจ้งเกิดในการเล่นให้กับ โรม่า 3 ปี คว้าเเชมป์ โคปา อิตาเลียน ได้ 1 สมัย ก่อนที่จะถูกมหาอำนาจลูกหนังอิตาลี อย่าง ยูเวนตุส คว้าตัวไปร่วมทีมในปี 1970 เเละนั้นคือจุดสูงสุดในชีวิตของเขา
คาเปลโล ที่เล่นในตำเเหน่งกองกลาง ลงเล่นให้ทีมม้าลายไปถึง 165 นัด ซัดไป 27 ประตูตลอด 6 ปี ในตูริน พาทีมคว้าเเชมป์ลีกได้ถึง 3 สมัย ก่อนจะย้ายไปอยู่กับ เอซี มิลาน ในช่วงปลาย เเต่ก็ยังมีส่วนร่วมพาทีมคว้าได้อีก 1 เเชมป์ลีก กับ 1 บอลถ้วย
หลังจากผันตัวมาเป็นกุนซือ หน้าที่การงานยิ่งประสบความสำเร็จมากมาย คุม เอซี มิลาน, โรม่า เเละยูเวนตุสได้เเชมป์ลีกรวมกันถึง 7 สมัย (มิลาน 4, โรม่า 1, ยูเว่ 2) ก่อนที่จะโดนริปไป 2 ครั้งคือปีที่ยูเวนตุส ถูกปรับตกชั้นข้อหาล้มบอล
เท่านั้นไม่พอ ย้ายไปคุมเรอัล มาดริด สองครั้ง คว้าแชมป์ลาลีกาทั้งสองครั้ง เรียกว่าไปที่ไหนก็ประสบความสำเร็จ ก่อนจะมาตกม้าตายในการคุททีมชาติอังกฤษเเละรัสเซีย เเต่ถึงกรนั้นเขาก็ถือเป็นหนึ่งกุนซือที่ทำผลงานได้ดีตั้งเเต่เป็นนักเตะจนเป็นกุนซือ
5. เคนนี่ ดัลกลิช (ลิเวอร์พูล)
อีกหนึ่งคนที่ประสบความสำเร็จทั้งในฐานะนักเตะเเละฐานะกุนซือ สมัยยังค้าเเข้งเขาเเจ้งเกิดกับ เซลติก ในสก็อตเเลนด์ ก่อนย้ายมาลิเวอร์พูลก็คว้าเเชมป์ลีกสูงสุดได้ถึง 6 สมัย รวมถึงรายการใหญ่อื่นๆทั้ง เอฟเอ คัพ 1 สมัย, ยูโรเปียน คัพ หรือ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ปัจจุบัน 3 สมัย
ดัลกลิช ค้าเเข้งกับหงส์เเดง จนเป็นที่รักของเเฟนๆ จนถึงปี 1985 ก็ถึงจุดเปลี่ยนที่สำคัญในชีวิตของเขา เนื่องจากเกิดโศกนาฏกรรมที่เฮย์เซล สเตเดียม จนมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ส่งผลให้ โจ เฟแกน กุนซือของทีมในตอนนั้นประกาศลาออกไป ทำให้ ดัลกลิช ถูกเเต่งตั้งเป็น ผู้เล่นผู้จัดการทีม
ในฤดูกาล 1985–86 ซึ่งเป็นฤดูกาลเเรกที่ ดัลกลิช ทำงานเเบบเต็มฤดูกาล เขาสร้างความฮือฮาด้วยการพาทีมคว้าดับเบิ้่ลเเชมป์(บอลลีก-เอฟเอ คัพ) เเถมยังต่อยอดพาทีมคว้าเเชมป์ลีกได้ตลอด 3 ฤดูกาลถัดมา เเต่ก็ต้องมาลาออกในปี 1991 เพราะทนเเรงกดดันไม่ไหว
เเต่จากผลงานที่ยอดเยี่ยม เเละการห่างหายไปจากเเชมป์ลีกของ ลิเวอร์พูล ทำให้ 20 ปีต่อมา คิง เคนนี่ กลับมาทำงานที่ถิ่น แอนฟิลด์ อีกครั้ง หลังได้รับการแต่งตั้งเป็นรักษาการณ์กุนซือต่อจาก รอย ฮอดจ์สัน ที่โดนปลดออกไปในเดือนมกราคมปี 2011 เเม้จะพาทีมจบเเค่ที่ 6 เเต่เขาได้รับสัญญาถาวร แต่ก็ต้องมาโดนไล่ออกในปีต่อมา หลังจากทำทีมจบเป็นอันดับ 8 ในซีซั่นที่เขาได้คุมทีมแบบเต็มตัว
6. อันโตนิโอ คอนเต้ (ยูเวนตุส)
อีกหนึ่งที่เป็นทั้งยอดนักเตะเเละยอดโค้ช คอนเต้ เริ่มค้าเเข้งกับ เลเช่ ก่อนจะย้ายมารุ่งกับ ยูเวนตุส ตลอด 13 ปี เขาประสบความสำเร็จมากมาย คว้าแชมป์ เซเรีย อา 5 ครั้ง, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 1 ครั้ง, ยูฟ่า คัพ 1 ครั้ง, โคปป้า อิตาเลียอีก 1 ครั้ง ซึ่งเขามีเเววเป็นยอดกุนซือ เพราะเริ่มศึกษางานโค้ชตั้งเเต่ยังเป็นนักเตะ
ปี 2004 คอนเต้ เริ่มงานโค้ช หลังถูกยื่นข้อเสนอให้เขามาเป็นมือขวาของ ลุยจิ เด คานิโอ้ ในทีม เซียน่า เเละได้รับความชื่นชมมากมาย หลังจากนั้นในปี 2007 คอนเต้ เข้าไปคุมทีม บารี่ เเละได้รับการจับตามองเพราะทำทีมเล็กๆที่จะตกชั้นพัฒนาเรื่อยๆ จนได้อันดับ 11 ในลีก เเละได้เลื่อนชั้นสู่ เซเรีย อา
ปี 2011 คอนเต้ มีโอกาสได้คุมทีมเก่าอย่าง ยูเวนตุส ในขณะที่ทีมกำลังเผชิญปัญหาอย่างหนัก ทีมดังแห่งตูริน จบอันดับ 7 เป็นปีที่สองติดต่อกัน คอนเต้ เข้ามาทำให้ ยูเวนตุส กลับมาเป็น ยูเวนตุส อีครั้ง เขาใช้เวลาเเค่ปีเดียวพาทีมกลับมาคว้าเเชมป์ลีกได้อย่างยิ่งใหญ่ ด้วยระบบทีม มีนักเตะ 20 คนที่ยิงประตูได้ เเสดงให้เห็นว่าเป็นทีมระบบของเเท้
คอนเต้ คุม ยูเวนตุส 4 ปี พาทีมคว้าเเชมป์ ลีก ได้ถึง 3 สมัย นับเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยม ก่อนจะตัดสินใจย้ายไปอยู่กับเชลซี เเละก็ทำทีมได้เเชมป์ตั้งเเต่ปีเเรก เเต่ก็โดนปลดในปีต่อมา เพราะผลงานเเย่
7. ฟรานซ์ เบ็คเคนบาวร์ (บาร์เซโลน่า)
ฟรานซ์ เบ็คเคนบาวร์ เกิดในช่วงก่อนสงครามโลก ที่เยอรมันปกครองด้วยระบบกษัตริย์ หรือ “จักรพรรดิ์” ในภาษาเยอรมันเรียกว่า “แดร์ ไกเซอร์” หรือ “ดิ เอ็มเพอเรอร์” ในภาษาอังกฤษ เบ็คเคนบาวร์ เป็นสุดยอดนักเตะในทศวรรษ 70 ที่เพียงพร้อมไปด้วย ฝีเท้า, ทักษะ, หน้าตา หรือรูปร่าง จนได้รับฉายาว่า “ไกเซอร์ฟรานซ์” เขาพา บาเยิร์น ประสบความสำเร็จมากมาย ตลอดระยะเวลา 13 ปี พาทีมคว้าเเชมป์ ลีก 4 สมัย, บอลถ้วยอีก 4 สมัย เเละยูฟ่าเเชมเปี้ยนส์ ลีก อีก 3 สมัย รวมถึงการพาทีมชาติเยอรมันคว้าเเชมป์โลกปี 1974 ด้วย
หลังจากเลิกเล่นฟุตบอลอาชีพเขาก็ผันตัวมาเป็นกุนซือสร้างชื่อสุดๆคือการพา เยอรมัน คว้าเเชมป์ฟุตบอลโลก ปี 1990 ทำให้เขากลายเป็น มนุษย์คนที่สองจากสามคนที่ได้ชูถ้วยฟุตบอลโลกทั้งในฐานะผู้เล่นและโค้ช(อีก 2 คนคือ มาริโอ ซากัลโล ของบราซิลกับดิดิเยร์ เดชองส์ ของฝรั่งเศส) นอกจากนี้เขายังพาบาเยิร์นและโอลิมปิค มาร์กเซย คว้าแชมป์ลีกได้อีกอย่างละ 1 ครั้งด้วย
8. โยฮัน ครัฟฟ์ (บาเยิร์น, เยอรมัน)
ครัฟฟ์ คือ 1 คนที่ สร้างปรากฏการณ์ทั้งในฐานะนักฟุตบอลและผู้จัดการทีม ชีวิตของเขาอุทิศแด่วงการฟุตบอล จากชีวิตการค้าแข้งในช่วงแรกที่สโมสรอาเเจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม พาทีมคว้าเเชมป์ลีก 8 สมัย สมัยรวมถึงเเชมป์ ยูโรเปียนคัพ (ยูฟ่า เเชมเปี้ยนส์ ลีก) อีก 3 สมัย ก่อนจะย้ายไปร่วมทีม บาร์เซโลน่า
หลังจากหันหลังในวงการนักฟุตบอลอาชีพ ครัฟฟ์ ก็ก้าวขึ้นมาเป็นกุนซืออย่างเต็มตัว เส้นทางคล้ายๆสมัยเป็นนักบอล คือเริ่มจาก อาเเจ็กซ์ ก่อนจะมาคุม บาร์เซโลน่า สร้างทีมที่เรียกได้ว่าบุกกระหน่ำบู้กระจาย สร้างชื่อ พาทีมคว้า คว้า 10 โทรฟีที่มีทั้งลา ลีกา สี่สมัย และ ยูโรเปียนคัพอีกสมัย ครัฟฟ์ยังเป็นเสมือนบิดาของฟุตบอลสมัยใหม่ เป็นแรงบันดาลใจให้บรรดาศิษย์บาร์ซามากมาย ไม่ว่าจะเป็นเป๊ป กวาร์ดิโอลา หรือ โชเซ มูรินโญ