เจค นิคเลส : หนุ่มน้อยผู้เคยกวนบาทา ‘เจอร์ราร์ด’

 

ย้อนกลับไปเมื่อ 14 ปี ก่อน ไม่มีใครคิดว่า กัปตันทีมลิเวอร์พูลอย่าง สตีเว่น เจอร์ราร์ด จะโดนเด็กมาสคอตทีมคู่แข่งแกล้งแบบเจ็บแสบไม่น้อย

 

เจ้าหนูคนนั้นมีชื่อว่า เจค นิคเลส แฟนบอลเชลซีวัย 5 ขวบ ที่ยื่นขอจับมือกับ กองกลางหงส์แดง ก่อนจะชักมือกลับ และทำท่าล้อเลียนแลบลิ้นปลิ้นตาใส่ ซึ่งเหตุการณ์นี้ได้ถ่ายทอดผ่านโทรทัศน์และกลายเป็นมีมล้อเลียนเจอร์ราร์ด จนถึงตอนนี้

 

UFA ARENA จะพาแฟนบอลทุกท่านย้อนไปชมช่วงเวลาสุดขบขันและน่าหมั่นไส้ของแฟนเชลซีตัวน้อยเมื่อปี 2006 รวมถึงช่วงชีวิตในปัจจุบันว่าเป็นเช่นไรบ้าง

 

 

กำเนิดมาสคอตตัวแสบ

 

 

เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ ปี 2006 แฟนบอลทั่วโลกจับจ้องไปที่เกมพรีเมียร์ลีกที่ เชลซี แชมป์เก่า เปิด สแตมฟอร์ด บริดจ์ ต้อนรับการมาเยือนของ ลิเวอร์พูล ซึ่งทีมของโชเซ่ มูรินโญ่ ก็คว้าชัยไปได้ตามคาด 2-0 จาก ลูกยิงของ วิลเลี่ยม กัลลาส และ เฮอร์นาน เครสโป 

 

ชัยชนะนัดดังกล่าวทำให้ สิงห์บลู ทำแต้มหนีห่างทีมอันดับ 2 อย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถึง 15 แต้มในเวลานั้น แต่ทว่าสิ่งที่แฟนบอลจดจำกับเป็นจังหวะก่อนการแข่งขันที่ เด็กหน้าทะเล้นหัวน้ำเงิน ที่ล้อเลียนหนึ่งในนักเตะเบอร์ต้นๆของโลกมากกว่า

 

เหตุการณ์นี้เริ่มต้นขึ้นในขณะที่นักเตะกำลังรอที่อุโมงค์สนาม โดย จอห์น เทอร์รี่ กัปตันทีมเจ้าบ้าน ได้เดินนำมาก่อนใคร ก่อนที่ สตีเวน เจอร์ราร์ด จะพาพลพรรคหงส์แดงตามมาไม่นานนัก

 

 

จากนั้น เจค นิคเลส หนุ่มน้อยที่เป็นมาสคอตของเชลซี ก็พยายามยื่นมือไปขอจับมือกับ  สตีวี จี แต่ในจังหวะต่อจากนั้น เขาก็ปล่อยให้ กัปตันหงส์แดง ยื่นมือเก้อกลางอากาศ และทำท่าแลบลิ้นปลิ้นตาใส่ 

 

ซึ่งอดีตกองกลางทีมชาติอังกฤษ ก็ไม่ได้ถือโทษโกรธเคืองเด็กคนนั้นแต่อย่างใด พร้อมกับยิ้มตอบและหัวเราะกลับไป ขณะที่แข้งเชลซีที่เห็นเหตุการณ์นั้นก็อดหัวเราะไม่ได้ 

 

ในปี 2009 หนังสืออัตชีวประวัติ ของ เจอร์ราร์ด ชื่อว่า ‘’My Captains Book’’ ได้เผยถึงตอนนั้นว่าถ้าจังหวะนั้นเป็นผู้ใหญ่ เขาคงอยากจะบีบคอไปแล้ว 

 

 

คนต้นคิด

 

 

 แต่จริงๆแล้วคนต้นคิดเรื่องนี้กลับไม่ใช่ตัวของ นิคเลส แต่อย่างใด กลับเป็นพ่อของเขาที่เป็นคนริเริ่มต่างหาก

 

“หนึ่งสัปดาห์ก่อน พ่อผมรู้ว่าผมจะได้เป็นมาสคอต เขาบอกให้ผมทำเพื่อของขวัญวันเกิด บอกว่าผมต้องโดดเด่น” นิคเลส กล่าวกับ BBC

 

“อันดับแรกเลย พวกเขาย้อมสีบนหัวผมเป็นสีน้ำเงิน มันไม่ใช่ความคิดของผมเลย จากนั้นเแผนจับมือก็เกิดขึ้น ซึ่งเป็นความคิดของเขา”

 

เดิมที นิคเลส วัย 5 ขวบ ยืนยันว่ากับพ่อตนเองว่าจะไม่ทำเรื่องนี้เด็ดขาด แต่ด้วยสัญชาตญาณบางอย่างทำให้เขาทำเรื่องนั้นออกมาทันทีที่เห็น กัปตันหงส์แดง เดินมา

 

“ผมบอกว่า ไม่ ผมไม่ทำ ผมอาย แต่เมื่อผมเห็นเขา (เจอร์ราร์ด) ในอุโมงค์ มันเป็นเหมือนสัญชาตญาณ ผมแค่ตะโกนชื่อของเขา เพื่อนๆยังล้อเลียนเสียงของผมในตอนเด็กด้วย”

 

“เขาไม่ได้อายเลย เขาแค่ประหลาดใจ เพราะเขาคงคิดว่า ผมคงจับมือเขาแน่ๆ”

 

“พ่อของผม ไม่คิดว่าผมจะทำมันจริงๆ เขาบอกว่า ถ้าผมทำ เขาจะพาผมออกไปซื้อเกมเพลย์สเตชั่น 2 ถึง 5 เกม ในวันต่อมา และผมก็ได้เกมมาจริงๆ”

 

ภาพเหตุการณ์นั้นกลายเป็นที่พูดถึงมากของสื่อในอังกฤษ และด้วยความสนใจจากผู้คนมากมายทำให้ แฟนสิงห์บลู ต้องเลิกเรียนเร็วกว่ากำหนดในบ่ายวันต่อมา

 

“ในวันถัดมา โรงเรียน และ แม่ของผม ได้รับโทรศัพท์มากมายจากหนังสือพิมพ์เพื่อขอสัมภาษณ์” นิคเลสกล่าวเสริม “แม่มารับผมในครึ่งวัยเพื่อพากลับไปที่บ้าน มันดูบ้าบอพอตัวเลยล่ะ”

 

“พ่อแมที่โรงเรียนต้องการถ่ายรูปกับผม ผู้คนเชื่อจริงว่าเด็กคนนั้นคือผม”

 

 

ชีวิตในปัจจุบัน

 

 

ผ่านไป 14 ปี คลิปวีดีโอนั้นก็ยังเป็นที่พูดถึงของแฟนบอลยุคใหม่ๆ และดูเหมือนว่า อดีตกัปตันลิเวอร์พูล ก็ไม่ได้ขุ่นเคืองใจกับเหตุการณ์ในครั้งนั้นเลย

 

เจอร์ราร์ด ที่ปัจจุบัน ดำรงตำแหน่งกุนซือ กลาสโกว เรนเจอร์ส ก็กล่าวถึงเรื่องนั้นในหนังสืออัตชีวประวัติ และบอกว่านั้นเป็นครั้งเดียวที่เขายิ้มในอุโมงค์ก่อนจะเริมเกมในวันนั้น

 

ทางด้าน นิคเลส ก็ได้กล่าวถึงเรื่องนี้กับ BBC Radio 5 ว่า “แม่ของผมได้ซื้อหนังสือเล่มนั้น และมีภาพของผมทำท่านั้นอยู้ด้วย”

 

“ผมส่งตัวก็อปปี้ไปเพื่อขอลายเซ็น และ เขาก็เซ็นมาให้ผม”

 

นอกจากนี้ นิคเลส ก็ก้าวสู่การเป็นนักฟุตบอลอาชีพอย่างเต็มตัว หลังเล่นให้กับ นอร์ธ กรีนฟอร์ด ยูไนเต็ด ทีมจาก เซาธ์ มิดแลนด์ ลีก ในวัย 19 ปี ก็เผยว่ามีเพื่อนของเขาไม่กี่คนที่รู้เรื่องราวนี้ด้วย

 

“เพื่อนของผม บอกว่า เราคงต้องรำลึกความหลังหน่อยแล้ว” แฟนบอลเชลซีชื่อดังกล่าวเพิ่มเติม

 

“วีดีโอ กลายเป็นไวรัลในทุกๆปี ซึ่งในปีนี้ หนึ่งในเพื่อนของผม ได้แท็กคนอื่นๆมาดู และมันเป็นปีแรกที่ผมได้รับเครดิตในเรื่องนี้”

 

“เพื่อนของผมครึ่งนึงไม่รู้เลยว่าเป็นผม ผมไม่เคยพูดเรื่องนี้ออกไปจนกระทั่งอาทิตย์ที่ผ่านมา”

 

ณ ตอนนี้ นิคเลส ก็ยังเดินทางไปเชียร์เชลซี ทีมรักของตนอยู่เป็นประจำทั้งในเกมเหย้าและเกมเยือน และมีเป้าหมายในอนาคตว่าจะไต่เต้าไปเป็นนักเตะฟุตบอลอาชีพในระดับที่สูงกว่านี้ให้ได้

 

 

และหวังว่าเขาจะไม่โดน มาสคอตตัวจิ๋วแกล้งในอุโมงค์เหมือนที่เคยทำไว้เมื่อหลายปีก่อนล่ะ