เจ็บจนพัง! 10 แข้งอนาคตดับ เจออาการเจ็บลักพาตัว

 

เส้นทางการค้าแข้งของมาริโอ เกิทเซ่ กับโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ กำลังจะจบลงหลังเจ้าตัวเลือกที่จะไม่ต่อสัญญากับทีม ซึ่งสิ่งที่ทำลายอาชีพนักเตะที่เป็นเหมือนฮีโร่ของทีมชาติเยอรมัน ในการซัดประตูชัยเอาชนะ อาร์เจนติน่าไปในศึกฟุตบอลโลก 2014 นัดชิงพาทีมคว้าแชมป์ไปได้ 

 

เส้นทางอาชีพของเจ้าตัวดูสวยหรู แต่ก็ต้องมาเจออาการบาดเจ็บเล่นงานในฤดูกาลถัดมาเล่นงาน บวกกับปัญหาสุขภาพที่เกี่ยวกับระบบการเผาผลาญอาหาร จนทำให้เขาต้องพักยาวและทำลายอาชีพค้าแข้งของเขาจากจอมทัพอนาคตไกลมาสู่นักเตะที่เกือบต้องแขวนสตั๊ดทั้งที่อายุยังน้อย วันนี้ทางUFA ARENA จะพาไปดูบรรดานักเตะที่โดนปัญหาอาการบาดเจ็บทำลายอาชีพค้าแข้งไปอย่างน่าเสียดาย

 

มาร์โก้ รอยส์

 

กองกลางตัวรุกของเสือเหลืองสร้างชื่อโด่งดังในฐานะดาวรุ่งที่น่าจับตามองที่สุดตลอดหลายปีมานี้ แต่อาการบาดเจ็บที่ตามเล่นงานเขามาตลอดอาชีพขนาดที่นับไม่ถ้วน ซึ่งก็เป็นอาการเจ็บเรื้อรัง เล็กๆน้อยๆ แต่ก็ส่งผลให้ฟอร์มของเขาไม่ต่อเนื่อง แถมในศึกฟุตบอลโลก 2014 เจ้าตัวก็โดนอาการบาดเจ็บเล่นงานจนไม่สามารถไปร่วมแข่งได้ ถัดมาในฟุตบอลโลกปี 2018 ทีมชาติเยอรมันก็ดันมาตกรอบไปไวอย่างไม่น่าเชื่ออีก จนเรียกได้ว่าอาการบาดเจ็บทำให้เขาดวงกุดกับฟุตบอลในระดับทีมชาติก็ไม่ผิด แม้ในระดับสโมสรเขาจะเป็นกำลังหลักให้กับ ดอร์ทมุนด์ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าอาการบาดเจ็บก็ทำให้เขาไม่ได้ช่วยทีมมากเท่าที่ควรจะเป็น

 

เลดลีย์ คิง 

 

ปราการหลังตัวเก่งที่เข้าขั้นตำนานสโมสรไก่เดือยทอง และเป็นนักเตะวันแมนคลับอีกคนนึงในช่วงยุค 2000 แต่ด้วยอาการบาดเจ็บที่ตามรังควานเขาตลอดอาชีพ โดยเฉพาะในฤดูกาล 2007/08 ที่อาการเจ็บเล่นงานเขาจนหายหน้าไปเกือบทั้งซีซั่น อย่างไรก็ตามแม้จะไม่ได้ส่งผลกับฟอร์มในระดับสโมสรของเขา แต่ในระดับทีมชาติ ถือว่ามันเป็นอุปสรรคสำคัญของเขาทั้งที่ฝีเท้าของเขาดีเกินพอที่จะเล่นให้กับทัพสิงโตคำรามแต่เขากลับได้โอกาสลงสนามไปแค่ 21นัดเท่านั้น

 

โอเว่น ฮาร์กรีฟส์

Owen Hargreaves Believes Liverpool Are Now Better Than Former Club ...

 

กลางรับผู้สามรถถอยไปเล่นถึงตำแหน่งกองหลังตัวกลางได้ถือเป็นนักเตะที่น่าจับตามองที่สุดในช่วงต้นยุค 2000 ที่เขาสร้างชื่อมากับ บาเยิร์น มิวนิค จนไปเข้าตาเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ก่อนถูกดึงตัวมาที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่ด้วยอาการบาดเจ็บที่หัวเข่าทั้งสองข้าง ที่เรื้อรังเรื่อยมาจนกระทั้ง ต้นฤดูกาล 2008/09 เจ้าตัวก็ได้รับอาการบาดเจ็บจนต้องพักยาวก่อนจะมาโผล่อีกทีช่วงปลายฤดูกาล 2009/10 แต่ก็ลงมาในนาทีสุดท้ายของเกมจนแทบเหมือนไม่ได้ลงสนาม และหายหน้าหายตาไปอีก

 

จนกระทั่งในเกมกับ วูล์ฟแฮมป์ตัน ที่เขากลับมาลงสนามเป็นตัวจริงอีกครั้งในรอบ 2ปี แต่ก็อยู่ในสนามได้แค่ 5นาทีเท่านั้นก็เกิดอาการเจ็บขึ้นมาอีกสุดท้ายก็ต้องเปลี่ยนตัวออก ทำเอาป๋าเฟอร์กี้ถึงกับอึ้งไปเลยกับเหตุการณ์ครั้งนี้ ก่อนที่เขาจะถูกปล่อยฟรีไปให้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ในเวลาต่อมา แต่ก็ไม่ได้มีฟอร์มโดดเด่นอะไร ซึ่งอาการเจ็บที่เข่าของเขา ทำเอาผู้เชี่ยวชาญเรื่องหัวเข่า ออกมายอมรับว่านี้เป็นอาการเจ็บบริเวณหัวเข่าที่ย่ำแย่ที่สุดในรอบ 35ปี ของการทำงานของเขาเลยทีเดียว

 

ซานติ กาซอร์ลา

 

เป็นระยะเวลากว่า2ปีเต็มๆที่ดาวเตะชาวสเปนรายนี้ต้องพักรักษาอาการบาดเจ็บเอ็นร้อยหวายฉีก จนต้องเข้ารับการผ่าตัดกว่า 10ครั้ง และเกือบต้องตัดขาทิ้งทั้งที่ก่อนหน้านี้เขาโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมกับอาร์เซน่อลจนเป็นที่มาของฉายาพ่อมด แต่หลังจากที่หายหน้าหายตาไปนานเมื่อปี 2018 เขาหมดสัญญากับทัพปืนโต และได้โยกไปอยู่กับ บียาร์เรอัล ในลาลีก้าสเปนด้วยวัย 34ปี กับการได้กลับมาลงสนามอีกครั้ง แถมยังได้กลับมาติดทีมชาติสเปนในรอบ 4ปีอีกด้วย แน่นอนว่าถ้าเขาไม่มีอาการเจ็บมารบกวน เส้นทางอาชีพของเขากับอาร์เซน่อล คงจะดีกว่านี้อย่างเห็นได้ชัด

 

ฟิล โจนส์

 

หลายคนอาจจดจำเขาในฐานะนักเตะจอมเฟอะฟะ ผู้มีหน้าอันตลกที่เอามาล้อเลียนกันเป็นประจำ แต่ก่อนหน้านี้เขาได้รับการยกย่องให้เป็นนักเตะดาวรุ่งที่น่าจับตามองมากที่สุดในเกาะอังกฤษ และหลายฝ่ายก็มองเขาเป็นนักเตะที่จะกลายเป็นอนาคตของทั้งปีศาจแดง และ สิงโตคำราม แต่ด้วยอาการบาดเจ็บ ทำให้ทุกครั้งที่เขากำลังจะโชว์ฟอร์มได้ดีเขาก็ต้องกลับไปพักรักษาตัวอีก ทำให้ในปัจจุบัน จากที่จะเป็นกองหลังอนาคตไกล กลับกลายเป็นเพียงแค่ตัวตลกในสายตาแฟนบอล

 

อาบู ดิยาบี้

The sad demise of Arsenal's Abou Diaby, once heir apparent to ...

 

กองกลางเจ้าของฉายานิววิเอร่า ที่สร้างชื่อจนเป็นที่จับตามองทั่วโลกลูกหนัง แต่ด้วยอาการบาดเจ็บที่ตามหลอกหลอนเขาตลอดอาชีพค้าแข้งทำให้เส้นทางไปได้ไม่สุดทั้งที่ได้ไปอยู่กับทีมแกร่งอย่างอาร์เซน่อล แต่ก็ประสบปัญหาอาการบาดเจ็บเป็นเงาตามตัว ก่อนที่จะย้ายไปซบมาร์กเซยในเวลาต่อมา แต่เขาก็ไม่เคยงัดฟอร์มเก่งออกมาให้สมกับที่ถูกคาดหวังให้เป็นนิววิเอร่าเลย สรุปแล้วเขาลงสนามไป 208นัด ยิงแต่ 22ประตู 16 แอสซิสต์รวมทุกรายการ นั่นหมายความว่าเขายิงประตูน้อยกว่าที่เขาบาดเจ็บไปอีก เพราะเขาเข้าโรงหมอไปพบแพทย์มากถึง 36ครั้งเลยทีเดียว

 

แจ็ค วิลเชียร์

 

เด็กปั้นอนาคตไกลจากอาร์เซน่อลอีกหนึ่งรายที่ อาร์เซน เวนเกอร์ หมายมั่นปั้นมือที่จะดันแข้งรายนี้ให้เป็นจอมทัพของทีมร่วมกับเพื่อนรุ่นเดียวกันอย่าง อารอน แรมซี่ย์ แต่เส้นทางอาชีพของทั้งคู่กลับสวนทางกัน ฝั่งแรมซี่ย์ถึงจะมีอาการบาดเจ็บรบกวนแต่เจ้าตัวก็ยังคงมีฟอร์มที่ดีอยู่เรื่อยๆ แต่ทางวิลเชียร์ที่ดูจะเข้าโรงหมอบ่อย และนานกว่ากลับมีฟอร์มที่ออกทะเลมากไปตลอดทุกครั้งที่กลับมาลงสนาม จนทำให้ในปัจจุบันเขาต้องย้ายไปอยู่กับ บอร์นมัธ แต่ก็ไม่ได้มีฟอร์มที่ดีขึ้นเลยสักนิด แถมอาการบาดเจ็บก็ยังคงตามติดเขาไปที่ทีมใหม่ด้วยจนทำผลงานไม่เป็นชิ้นเป็นอัน

 

ดาเนียล สเตอร์ริดจ์

 

อีกหนึ่งกองหน้าที่มีความเฉียบคมในการจบสกอร์ รวมถึงความเร็วในการเคลื่อนที่ ยิ่งเมื่อได้จับคู่กับ หลุยซ์ ซัวเรซ ที่ลิเวอร์พูล ยิ่งทำให้ฟอร์มของเขาแรงจนได้ชื่อว่าเป็นคู่หู SAS ก่อนที่ภายหลังจะมี ราฮิม สเตอร์ริ่ง มาเพิ่มเป็น SSS ส่งให้ทัพหงส์แดงกลายเป็นทีมที่มีเกมรุกดุดันสุดๆในช่วงเวลานั้น แต่ด้วยอาการบาดเจ็บที่ตามรบกวน ทำให้สเตอร์ริดจ์ ไปไม่ถึงฝันเหมือนคู่หูอย่าง ซัวเรซ และรุ่นน้องอย่าง สเตอร์ริ่ง เพราะหลังจากที่เขาหายจากอาการบาดเจ็บ ความคมที่เคยมีก็เหมือนกับทิ้งไว้ที่โรงพยาบาล ก่อนโดนปล่อยตัวไปให้กับ เวสต์บรอมยืมตัวก็ไม่อาจเเรียกคืนเขาคนเดิมกลับมา จนในที่สุดก็เป็น แทร็บซอนสปอร์ที่มาดึงตัวไปใช้งาน แต่ก็อยู่กับทีมได้แค่ 6เดือนเท่านั้น ก็โดนยกเลิกสัญญา แถมยังโดนเอฟเอสั่งแบนจากวงการฟุตบอล เนื่องจากไปยุ่งเกี่ยวกับการพนันเป็นระยะเวลากว่า 4เดือน 

 

เอดูอาร์โด้ ดา ซิลวา

 

ในช่วงปี 2007 กองหน้าชาวบราซิล ถูกดึงตัวเข้ามาจากดินาโม ซาเกร็บ และถูกคาดหวังให้เป็นตัวแทนของ เธียร์รี่ อองรี ที่ย้ายออกไปอยู่กับ บาร์เซโลน่า แม้จะไม่ได้ยึดตำแหน่งตัวจริงในทันทีที่เข้ามา แต่เมื่อได้รับโอกาสเขาก็ทำผลงานได้ดี อย่างในนัดแรกเขาก็แอสซิสต์ได้ 1ประตู ซึ่งหลังจากได้ลงสนามต่อเนื่องเขาก็จัดการตอบแทนความไว้ใจของ อาร์เซน เวนเกอร์ด้วยการยิง 4ประตู 6แอสซิสต์ จาก 17เกมลีก แต่ในเกมที่ 17ของเขาที่เจอกับ เบอร์มิ่งแฮม เขาถูกเข้าสกัดหนักจนขาหักจนต้องพักยาว กว่าจะได้กลับมาลงสนามก็ข้ามไปฤดูกาล 2009/10 แถมเหตุการณ์ในครั้งนี้ก็ทำให้เขาไม่สามารถโชว์ฟอร์มเก่งได้อย่างเคย จากการลงสนาม 24นัด ยิง 2ประตู 7แอสซิสต์ ในพรีเมียร์ลีก สุดท้ายก็โดนปล่อยตัวไปให้กับ ชัคตาร์โดเนส์ทในฤดูกาลถัดมา และไม่เคยได้ขึ้นมาเล่นในลีกใหญ่อีกเลย

 

ฌิบริล ซิสเซ่

 

นักเตะเจ้าของฉายา นิวอองรีที่ภาพจำของเขาไม่ใช่เรื่องการทำประตู แต่เป็นภาพขาหักสุดสยองถึงสองครั้งสองครา ซึ่งส่งผลต่ออาชีพค้าแข้งที่กำลังเป็นไปได้สวยต้องจบลง ครั้งแรกเกิดในช่วงที่เขาเพิ่งย้ายมาอยู่กับลิเวอร์พูลใหม่ๆ ในเกมที่เจอกับ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส เขาโดน เจมส์ แม็คอีฟลีย์ หวดจนขาหัก 2ท่อน ทั้งที่เพิ่งลงเล่นไปแค่ 11เกมในลีกเท่านั้น หลังจากพักรักษาตัวจนหายดี เขาก็กลับมาลงสนามให้ทัพหงส์แดงอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยได้อีกครั้งในฤดูกาล 2005/06 แต่ในศึกฟุตบอลโลกที่เขาติดทีมชาติฝรั่งเศสไปด้วย เขาก็ต้องมาเจออาการบาดเจ็บซ้ำสอง และเป็นการขาหักสองท่อนเหมือนคราวที่แล้ว จากการโดนนักเตะทีมชาติจีนเข้าสกัด และแม้ว่าคราวนี้จะไม่ได้ทำให้เขาหายหน้าหายตาไปนานเท่าคราวก่อน แต่ก็ทำให้เส้นทางอาชีพของเขากับลิเวอร์พูล จบลงและโดนปล่อยไปให้กับมาร์กเซย แต่ก็ไม่เคยเข้าใกล้คำว่า นิวอองรี ได้อีกเลยหลังจากนั้น