แม้ ลิเวอร์พูล จะเป็นทีมเบอร์ต้น ๆ ในพรีเมียร์ลีก แต่พวกเขาก็ยินดีที่จะเสริมทัพด้วยนักเตะจากลีกระดับล่างของอังกฤษเช่นกันในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
อย่างรายล่าสุด เบน เดวี่ส์ กองหลังจาก เปรสตัน ที่พวกเขาาคว้ามาร่วมทีมในวันสุดท้ายของตลาดนักเตะเดือนมกราคมปี 2021 เพื่อแก้ไขปัญหาผู้เล่นแนวรับที่ขาดแคลนที่ทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ กำลังเผชิญอยู่ในฤดูกาลปัจจุบัน
ด้วยเหตุนี้ UFA ARENA จึงขอย้อนไปพบกับ 6 แข้งก่อนหน้าเดวี่ส์ที่ หงส์แดง คว้ามาร่วมทีมจากลีกแชมเปี้ยนส์ชิพ นับตั้งแต่ปี 2010 เป็นต้นมา
ปล. นับแข้งเยาวชนที่เคยเล่นให้กับทีมชุดใหญ่ของต้นสังกัดเก่า แต่ไม่นับนักเตะที่คว้ามาหลังตกชั้นจากพรีเมียร์ลีก เช่น แอนดี้ โรเบิร์ตสัน หรือ จอร์จินิโอ้ ไวนัลจ์ดุม
จอนโจ้ เชลวี่ย์
จอนโจ้ เชลวี่ย์ เป็น 1 ใน 8 นักเตะที่ รอย ฮอดจ์สัน คว้ามาร่วมทีมสมัยที่เขาคุมลิเวอร์พูลในปี 2010 โดยย้ายมาจาก ชาร์ลตัน แอธเลติก ด้วยค่าตัวเพียง 1.7 ล้านปอนด์
กองกลางหัวใจ ส่อแววลางไม่ดีตั้งแต่เกมแรกที่ประเดิมกับหงส์แดงแล้ว เมื่อถูกเปลี่ยนลงเล่นในช่วงต่อเวลาพิเศษ ก่อนทีมจะแพ้ นอร์ทแฮมป์ตัน ทาวน์ ไปแบบชวนช็อคในลีกคัพ และไม่สามารถแจ้งเกิดได้อย่างเต็มตัว แม้จะลงเล่นอยู่บ่อยครั้งในช่วง 3 ปีที่ แอนฟิลด์
“บางที ผมไม่ควรย้ายออกจาก ลิเวอร์พูล เลย” เชลวี่ย์ กล่าวกับ The Chronicle สื่ออังกฤษในปี 2019 หลังย้ายไปเล่นให้ สวอนซี และ นิวคาสเซิล ตามลำดับ
“ผมมีตัวเลือกที่อยู่ต่อได้ แต่ผมรู้สึกว่าผมต้องไปเหมือนตอนที่ฉันอายุเท่านั้นที่อยากลงเล่นในการแข่งขัน ซึ่งตอนนั้นคุณได้เล่น 1 เกมในสัปดาห์ เมื่อแข้งตัวหลักกลับมา คุณก็จะไม่ถูกเลือกในสัปดาห์ต่อไป”
แบรด โจนส์
นักเตะส่วนใหญ่ที่ ลิเวอร์พูล เซ็นจากลีกรองแดนผู้ดีในช่วง 10 ปีหลัง คือตำแหน่งผู้รักษาประตู ซึ่ง แบรด โจนส์ ก็เป็นรายแรกจาก 3 คนในลิสต์นี้ โดยย้ายจาก มิดเดิ้ลสโบรห์ ด้วยค่าตัว 2.3 ล้านปอนด์ เพื่อเป็นอะไหล่มือสองให้กับ เปเป้ เรน่า
เขาได้ประเดิมเฝ้าเสานัดแรกในเกมที่พลิกล็อคพ่าย นอร์ธแฮมป์ตัน ทาวน์ ในลีกคัพ ปี 2010 แต่ต่อมาจะกลายเป็นฮีโร่เซฟชุดโทษให้ทีมเอาชนะ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ในศึกเอฟเอ คัพ จนลงเล่นในรอบตัดเชือกพบ เอฟเวอร์ตัน ด้วย และเป็นนักเตะ ‘หงส์แดง’ คนเดียวที่ได้ลงเล่น 4 นัดในสโมสรใน 4 รายการแข่งที่ต่างกัน
นายด่านชาวออสเตรเลีย ถูกปล่อยออกจากทีมในปี 2015 หลังลงเล่นไปทั้งหมด 27 นัดในทุกรายการ และตระเวนเฝ้าเสาไปทั่วโลกทั้ง แบรดฟอร์ด, ไนจ์เมเก้น กับ เฟเยนูร์ด ในฮออแลนด์ และ ปัจจุบัน ก็ยังเล่นฟุตบอลอาชีพอยู่กับ อัล นาเซอร์ ในลีกซาอุดิอาราเบีย
จอร์แดน ไอบ์
ไอบ์ กลายเป็นที่รู้จักในหมู่แฟนบอลอังกฤษพอสมควร หลังทำสถิติเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดของ วีดอมบ์ วันเดอร์เรอร์ส ที่ได้ลงเล่นให้สโมสรด้วยวัยเพียง 15 ปี ก่อนจะย้ายไป ลิเวอร์พูล หลังจากนั้น ขณะที่มีอายุได้ 16 ปี เมื่อปี 2011
หลังจากทำผลงานได้โดดเด่นเกินวัยกับทีมชุดใหญ่ ทำให้ เดอะ ค็อป หลายคนคาดหวังไม่น้อยว่า ปีกดาวรุ่งรายนี้จะตามรอย ราฮีม สเตอร์ลิ่ง เป็นตัวหลักให้ ‘หงส์แดง’ แต่ท้ายที่สุดเขาก็ถูกขายขาดให้กับ บอร์นมัธ ในปี 2016
แม้จะเป็นนักเตะที่มีค่าตัวแพงที่สุดของ ‘เดอะ เชอร์รี่ส์’ แต่ผลงานโดยรวมในถิ่น วิทาลิตี้ สเตเดี้ยม ต้องบอกว่าน่าผิดหวัง โดยในฤดูกาลที่แล้ว เขาลงเล่นในพรีเมียร์ลีกเพียง 48 นาที ก่อนรีเทิร์นลีกรองอีกครั้งกับ ดาร์บี้ เคาน์ตี้ ที่ย้ายไปแบบไร้ค่าตัวในช่วงซัมเมอร์ปีก่อน
อดัม บ็อกดาน
ผู้รักษาประตูชาวฮังการี ย้ายมาเล่นในพรีเมียร์ลีกครั้งแรกกับ โบลตัน วันเดอร์เรอร์ส ในปี 2007 แต่กว่าลงเล่นในลีกหนแรกจริงก็ปาเข้าไปอีก 3 ปีต่อมา แถมพอเริ่มทำผลงานได้ดีจนเป็นมือหนึ่ง ‘เดอะ ทร็อตเตอร์ส’ ก็ดันมาตกชั้นอีกในปี 2012
แต่อีก 3 ปีต่อมา บ็อกดาน กลับได้ย้ายมาร่วมทีม ลิเวอร์พูล แบบไร้ค่าตัว หลังหมดสัญญากับ โบลตัน พร้อมประเดิมนัดแรกได้อย่างสวยงามด้วยการเซฟ 3 จุดโทษให้ทีมเอาชนะ คาร์ไลส์ ในลีกคัพ แต่ทว่าหลังจากนั้น เขาโชว์ความผิดพลาดหลายคน เช่น จังหวะที่รับบอลพลาดจนเสียประตูในเกมลีกที่พ่ายวัตฟอร์ด 3-0 หรือโดน เอกเซเตอร์ ยิงประตูจากลูกเตะมุมในเกมเอฟเอ คัพ ซึ่งเสมอกันไป 2-2
ไม่แปลกที่ ‘หงส์แดง’ เลือกปล่อยให้ทีมอื่นยืมตัว บ็อกดาน ไปใช้งาน ทั้งกับ วีแกน และ ฮีเบอร์เนียน ในปี 2016 และ 2018 ตามลำดับ ก่อนที่ทีมแดนสก็อตจะคว้าไปร่วมทีมแบบฟรี ๆ หลังถูกทีมจากอังกฤษลอยแพหลังจบฤดูกาล 2018-19
โจ โกเมซ
โกเมซ น่าจะเป็นนักเตะรายเดียวในลิสต์นี้ที่พูดได้เต็มปากว่าประสบความสำเร็จกับ ลิเวอร์พูล หลังทำผลงานได้น่าประทับใจกับ ชาร์ลตัน จน ‘หงส์แดง’ ยอมจ่าย 3.5 ล้านปอนด์ เพื่อดึงไปร่วมทีมในปี 2015
นับตั้งแต่นั้น กองหลังหนุ่มก็ค่อย ๆ พัฒนาฝีเท้าตนเองจนขึ้นไปติดทีมชาติอังกฤษ และเป็นนักเตะคนสำคัญในทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ที่ช่วยให้สโมสรคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกในปี 2019 และแชมป์พรีเมียร์ลีก ในปี 2020
คล็อปป์ เคยกล่าวถึง กองหลังวัย 23 ปี ได้ว่าอย่างน่าสนใจว่า “เขาเป็นเด็กหน่มที่มีทักษะสุดยอด เขาทั้ง 2 โจ และ เวิร์จ (ฟาน ไดจ์ค) พวกเขาเหมือนกันหลายอย่างเลย และพวกเขาสามาถเล่นด้วยกันได้อย่างยอดเยี่ยมอีกด้วย”
แอนดี้ โลเนอร์แกน
แอนดี้ โลเนอร์แกน เป็นนายทวารจอมพเนจรที่ย้ายไปเล่นให้กับ 14 สโมสรตลอด 21 ปีที่ผ่านมา ซึ่งส่วนใหญ่จะวนเวียนในลีกรองของอังกฤษ ทั้ง เปรสตัน, ลีดส์ ยูไนเต็ด, โบลตัน หรือ วูล์ฟแฮมปตัน
แต่คงต้องบอกว่า นายด่านเลือดผู้ดี มีโชคสุด ๆ เมื่อได้ย้ายไปเล่นให้ ลิเวอร์พูล ในฤดูกาล 2019-20 เนื่องจากทีมขาดแคลนผู้รักษาประตู แม้จะไม่ได้ลงเล่นแม้แต่เกมเดียว แต่ มือกาววัย 37 ปี ก็คว้าแชมป์ ยูฟ่า ซุปเปอร์ คัพ และ แชมป์สโมสรโลกในปี 2019 รวมกับ ‘หงส์แดง’ ก่อนจะถูกปล่อยตัวออกจากทีมหลังจบฤดูกาล 2019-20
