แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เสร็จสิ้นภารกิจในตลาดซื้อขายช่วงซัมเมอร์นี้ด้วยการคว้านักเตะใหม่เข้ามาเพิ่ม 5 ราย และปฏิเสธไม่ได้เลยว่าดีลที่สร้างกระแสทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์ในหมู่แฟนบอลปีศาจแดงมากที่สุดคือการมาถึงของเครื่องจักรสังหารอย่าง เอดินสัน คาวานี่
ดาวยิงวัย 33 ปี เพิ่งหมดสัญญากับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง หลังสิ้นสุดฤดูกาลที่ผ่านมา ก่อนที่จะตัดสินใจลงเอยบนถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ดด้วยสัญญา 1 ปี บวกออปชั่นขยายสัญญา 1 ปี
ตลอดอาชีพการค้าแข้งกับ ดานูบิโอ , ปาแลร์โม่ , นาโปลี และ เปแอสเช หัวหอกทีมชาติอุรุกวัย ซัดไป 353 ประตู จากการลงสนาม 586 นัด ขณะที่ในช่วง 10 ปีหลังสุด เจ้าตัวกดไปถึง 304 ประตู จากการลงสนาม 439 นัด
จากประสบการณ์อันโชกโชนบนเวทียุโรป ทำให้ คาวานี่ ได้ต่อสู้กับทีมจากพรีเมียร์ลีกหลายครั้ง และเนื่องในโอกาสที่เขากำลังจะย้ายมาล่าตาข่ายในพรีเมียร์ลีก วันนี้เรามาดูกันดีกว่าว่าดาวเตะเจ้าของฉายา “เอล มาทาดอร์” มีสถิติเป็นอย่างไรบ้างเมื่อดวลกับบรรดาขาใหญ่ในลีกผู้ดี
* คาวานี่ ยังไม่เคยเจอกับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์
เชลซี
เชลซี คือคู่แข่งจากอังกฤษที่ คาวานี่ มีโอกาสได้เผชิญหน้ามากที่สุด โดยเจ้าตัวปะทะกับสิงโตน้ำเงินครามทั้งสิ้น 8 ครั้ง และทั้งหมดเป็นการแข่งขันในแชมเปียนส์ ลีก ซึ่ง 2 นัดแรกเกิดขึ้นในสมัยที่ยังค้าแข้งกับ นาโปลี ขณะที่ 6 นัดที่เหลือคือตอนที่เล่นให้กับกับ เปแอสเช
กองหน้าชาวอุรุกวัย แผลงฤทธิ์ใส่ เชลซี ได้ตั้งแต่เกมแรกที่เจอกัน ด้วยการทำไป 1 ประตู 2 แอสซิสต์ ทว่าหลังจากนั้น เขายิงสิงห์บลูส์ไม่ได้เลยใน 3 เกมต่อมาที่พบกัน จนกระทั่งมาซัดได้อีก 2 ลูกในฤดูกาล 2014-15 และ 2015-16
เจอกันทั้งหมด 8 นัด (ชนะ 4 , เสมอ 2 , แพ้ 2)
ผลงาน : 3 ประตู , 2 แอสซิสต์
ยิงประตูเฉลี่ยต่อนาที : 202.6
ยิงประตูหรือทำแอสซิสต์เฉลี่ยต่อนาที : 121.6
ลิเวอร์พูล
คาวานี่ โคจรมาเจอกับ ลิเวอร์พูล ทั้งหมด 4 ครั้ง แบ่งเป็นแชมเปียนส์ ลีก 2 นัดในสมัยที่อยู่กับ เปแอสเช และยูโรปา ลีก 2 นัดในสมัยที่อยู่กับ นาโปลี ซึ่งเจ้าตัวถือว่าไม่ค่อยถูกโฉลกกับคู่แข่งรายนี้สักเท่าไหร่ เนื่องจากไม่สามารถส่งบอลไปนอนก้นตาข่ายของหงส์แดงได้เลยสักลูก
เจอกันทั้งหมด 4 นัด (ชนะ 1 , เสมอ 1 , แพ้ 2)
ผลงาน : 0 ประตู , 2 แอสซิสต์
ยิงประตูเฉลี่ยต่อนาที : –
ยิงประตูหรือทำแอสซิสต์เฉลี่ยต่อนาที : 162.5
แมนเชสเตอร์ ซิตี้
คาวานี่ ลุยกับ แมนฯ ซิตี้ ไปทั้งสิ้น 4 ครั้ง ซึ่งทั้งหมดเป็นการพบกันในแชมเปียนส์ ลีก โดยเป็นช่วงเวลาที่เล่นให้กับ นาโปลี 2 นัด และเล่นให้กับ เปแอสเช 2 นัด ทั้งนี้ แม้ เอล มาทาดอร์ จะกดไปถึง 3 ประตูภายใต้ยูนิฟอร์มอัซซูร่า แต่เขากลับไม่สามารถยิงประตูหรือทำแอสซิสต์ได้เลยหลังจากที่ย้ายมาสวมเสื้อเลส์ ปาริเซียงส์
เจอกันทั้งหมด 4 นัด (ชนะ 1 , เสมอ 2 , แพ้ 1)
ผลงาน : 3 ประตู , 0 แอสซิสต์
ยิงประตูเฉลี่ยต่อนาที : 115.66
ยิงประตูหรือทำแอสซิสต์เฉลี่ยต่อนาที : 115.66
อาร์เซน่อล
2016-17 คือซีซั่นเดียวที่ คาวานี่ มีโอกาสได้บู๊กับ อาร์เซน่อล หลังจาก ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ถูกจับให้มาอยู่กลุ่มเดียวกับเดอะ กันเนอร์ส โดยการแข่งขันระหว่างทั้งสองทีมจบลงด้วยผลเสมอทั้ง 2 นัด พร้อมกับการที่อดีตเด็กปั้นโรซาเนโร่พาชื่อของตัวเองขึ้นไปอยู่บนสกอร์บอร์ดได้ทั้งที่ปาร์ค เดอ แปรงส์ และเอมิเรตส์ สเตเดียม
เจอกันทั้งหมด 2 นัด (เสมอ 2)
ผลงาน : 2 ประตู , 0 แอสซิสต์
ยิงประตูเฉลี่ยต่อนาที : 90 นาที
ยิงประตูหรือทำแอสซิสต์เฉลี่ยต่อนาที : 90 นาที
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
อันที่จริง แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่ต้องเข้ามาอยู่ในลิสต์นี้ก็ได้ด้วยซ้ำ เมื่อ คาวานี่ เคยเผชิญหน้ากับสโมสรที่จะกลายเป็นต้นสังกัดในอนาคตเพียงแค่นาทีเดียวเท่านั้น!
การเจอกันครั้งดังกล่าว เกิดขึ้นในฤดูกาล 2018-19 กับค่ำคืนปาฏิหาริย์ของแฟนบอลปีศาจแดงที่กรุงปารีส เมื่อพลพรรคอสูรในสภาพที่ขาดนักเตะชุดใหญ่ไปถึง 10 ราย สามารถบุกไปคว้าชัยเหนือ เปแอสเช ได้ 3-1 พลิกสถานการณ์จากที่พ่ายมาในบ้านก่อน 0-2 ผ่านเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศได้สำเร็จ
เจอกันทั้งหมด 1 นัด (แพ้ 1)
ผลงาน : 0 ประตู , 0 แอสซิสต์
ยิงประตูเฉลี่ยต่อนาที : –
ยิงประตูหรือทำแอสซิสต์เฉลี่ยต่อนาที : –