เดือดจริง! ดาวดัง ‘มาเลย์’ ชี้เกมกับ ‘อินโด’ เหมือนอยู่กลางสงคราม

ซาฟาวี ราซิด ดาวเตะทีมชาติมาเลเซีย ออกมาเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเกมกับ ทมีชาติอินโดนิเซีย มันทำให้เขารู้สึกเหมือนอยู่ในสงครามเลยทีเดียว

 

ทีมชาติมาเลเซีย เพิ่งลงสนามเกมนัดสำคัญในศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย ด้วยการบุกไปชนะ ทีมชาติอินโดนิเซีย ได้ถึงสนาม เกลอรา บังการ์โน สเตเดี้ยม 2 – 3 จาก ประตูชัยในนาทีสุดท้ายของ โมฮามาดู สุมาเร่ห์

 

โดยในเกมนี้มีเหตุการณ์ความวุ่นวายเกิดขึ้นตั้งแต่ก่อนเริ่มเกม หลังแฟนบอล “อินเหนา” พยายามที่จะปาสิ่งสิงของใส่แฟนบอลมาเลย์ ตั้งแต่ช่วงก่อนเข้าสนาม กระทั่งระหว่างเกมนาทีที่ 75 เหตุการณ์เริ่มรุนแรวมากขึ้น เมื่อแฟนบอลเจ้าถิ่นได้ปีนลงจากอัศจรรย์ที่นั้งคนดู และมุ่งตรงเข้าไปปะทะกับแฟนบอลทีมเยือนที่นั้งอยู่บริเวณใกล้ๆ จนทำให้เกมต้องหยุดชะงักไปนานหลายนาที ท้ายที่สุดหลังจบเกมเจ้าหน้าที่ตำรวจของอินโดนิเซีย ได้ตัดสินใจส่งรถหุ้มเกาะมารับบรรดานักเตะ และสต๊าฟโค้ชของทีม “เสือเหลือง” กลับที่พักโรงแรม เพื่อปกป้องกันความปลอดภัยจากแฟนบอลเจ้าบ้านที่ก่อความวุ่นวายอยู่บริเวณรอบสนาม

 

 

ล่าสุดทางฝั่งของ ซาฟาวี ราซิด แข้งตัวเก่งของทางฝั่งทีมชาติมาเลเซีย ได้ออกมาพูดถึงบรรยากาสความกดดันที่เขาชี้ว่ามันเป็นประสบการณ์ที่เขาเองก็ไม่เคยเจอมาก่อนในระหว่างลงเล่นต่อหน้าแฟนบอลอินโดนิเซีย ราว 54,000 คน ที่สนาม เกลอรา บังการ์โน สเตเดี้ยม พร้อมกับเผยว่า เขารู้สึกเหมือนกับอยู่ท่ามกลางเขตของสงครามเลยทีเดียว กับเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น

 

“เราปฎิเสธไม่ได้เลยว่าเรากดดัน และเสียความมั่นใจอย่างมากในครึ่งแรก แต่ตอนที่เรากลับเข้าไปในห้องแต่งตัวโค้ชพยายามที่จะกระตุ้นพวกเราให้กลับมาสู้อีกครั้ง” ซาฟาวี ราซิด เผย

 

“บรรยากาศในช่วงครึ่งหลังมันต่างกันมาก และมันยากสำหรับเราในการปรับตัวด้วย แต่พวกเราสามารถรับมือกับมันได้ดีมาตั้งแต่ช่วงท้ายครึ่งแรก ซึ่งครึ่งหลังมันก็ช่วยได้มาก”

 

“ผมรู้สึกเหมือนอยู่ในสงครามเลยละ”

 

“ที่ผ่านมาผมยังไม่เคยเห็นแฟนบอลปีนลงสนามมาก่อน และวิ่งเขาใส่อีกฝั่งอย่างดุเดือด”

 

“มันเป็นประการณ์ใหม่ของผมในการเล่นฟุตบอลเลยนะ”