อูไน เอเมรี่ ยังเป็นเซียนบอลยูโรป้าลีก หลังพา บียาร์เรอัล คว้าแชมป์สมัยแรก ด้วยการเอาชนะจุดโทษ ผีแดง
ฟุตบอลยูฟ่า ยูโรป้าลีก นัดชิงชนะเลิศ ที่สนาม สตาดิโอน เอเนอร์ก้า กดังส์ค ประเทศโปแลนด์ เมื่อวันพุธที่ 26 พฤษภาคม 2564 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อดีตแชมป์รายการนี้เมื่อปี 2017 ที่รอบรองชนะเลิศเอาชนะ โรม่า มาด้วยประตูรวม 8-5 ลงสนามพบ บียาร์เรอัล ตัวแทนจากลา ลีกา สเปน ที่พลิกชนะ อาร์เซนอล ด้วยประตูรวม 2-1
เกมนี้ โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ กุนซือ “ผีแดง” อดใช้งาน แฮร์รี่ แม็คไกวร์ กองหลังกัปตันทีมที่เรียกความฟิตกลับมาซ้อมไม่ทัน ทำให้เกมรับต้องให้ เอริค ไบยี่ จับคู่กับ วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ โดยแนวรุกมี บรูโน่ แฟร์นานเดส กับ เอดินสัน คาวานี่ เป็นทีเด็ด ด้าน อูไน เอเมรี่ เทรนเนอร์ “เรือดำน้ำสีเหลือง” ได้ เอเตียน กาปู พ้นโทษแบนกลับมาเป็นคู่กองกลางกับ ดานี่ ปาเรโฆ และมี เคราร์ด โมเรโน่ เป็นทูท็อปกับ คาร์ลอส บัคก้า
เกมครึ่งแรกทั้งสองทีมสู้กันสูสีแต่นาที 29 เป็น บียาร์เรอัล ที่ได้เฮก่อน ปาเรโฆ่ เปิดลูกฟรีคิกทางด้านซ้ายไปให้ เคราร์ด โมเรโน่ สอดมายิงที่เสาไกลเข้าประตูไปให้ “เรือดำน้ำสีเหลือง” ขึ้นนำ 1-0 แต่ครึ่งหลัง แมนฯ ยูไนเต็ด มาตามตีเสมอจนได้ในนาที 55 จากลูกเตะมุมกองหลัง บียาร์เรอัล สกัดไม่ขาด แรชฟอร์ด ยิงยัดไปโดน เปโดรซ่า กระดอนมาชน แม็คโทมิเนย์ กลายเป็นดีตั้งให้ คาวานี่ ได้ปรี่มายิงจ่อๆ เข้าประตูไป ทำจบ 90 นาทีเสมอกัน 1-1 ต้องต่อเวลาพิเศษอีก 30 นาที
ช่วงต่อเวลาพิเศษก็ยังไม่มีทีมใดทำประตูได้ทำให้ครบ 120 นาทีเสมอกัน 1-1 ต้องตัดสินผู้ชนะด้วยการยิงจุดโทษซึ่งเกมนี้ยิงกันแม่นจัดลากยาวถึง 11 คนและเป็น ดาบิด เด เกอา ที่พลาดคนเดียวทำให้ บียาร์เรอัล เบียดชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด ไปแบบตื่นเต้นด้วยสกอร์รวม 12-11 คว้าแชมป์ืยูโรป้าลีกเป็นสมัยแรกของสโมสร และ อูไน เอเมรี่ ได้ถ้วยนี้เป็นหนที่ 4 จากการเข้าชิง 5 ครั้ง
