เตรียมความพร้อมก่อนเกมสำคัญ! 7 เรื่องต้องรู้ช้างศึกลุยคัดบอลโลก

 

ทีมชาติไทย มีโปรแกรมสำคัญที่จะลงเล่นในศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย ซึ่งด้วยสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้การแข่งในกลุ่ม จี จำเป็นต้องลงเตะเกมที่เหลือโดยมี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ รับบทเป็นเจ้าภาพ

 

การเดินทางไปยัง ยูเออี ของทัพ “ช้างศึก” เป้าหมายสูงสุดคือการผ่านเข้าไปเล่นฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก รอบสุดท้าย ให้ได้ ทว่าปัจจัยหลายอย่างอาจไม่ง่ายสำหรับลูกทีม อากิระ นิชิโนะ โดยเฉพาะสถานการณ์ตารางคะแนนซึ่งยังคงเป็นรองคู่ปรับสำคัญอย่าง เวียดนาม รวมถึงโปรแกรมที่เหลืออยู่ล้วนเป็นแมตช์ยากทั้งสิ้น

 

โดยวันนี้ Ufaarena ขอนำเสนอ 7 เรื่องต้องรู้ก่อนทัพ “ช้างศึก” ลุยฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก เพื่อเป็นการอุ่นเครื่องเตรียมความพร้อมก่อนศึกใหญ่ครั้งสุดท้าของทีมชาติไทย จะเริ่มต้นช่วงกลางปีนี้

 

 

ลงแข่งสนามกลาง

 

จากสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ซึ่งเกิดขึ้นทั่วโลก โดยเฉพาะทวีปเอเชีย ส่งผลให้การแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก ถูกเลื่อนการแข่งขันออกมาตั้งแต่เมื่อปีที่แล้ว ก่อนวางโปรแกรมใหมเตรียมลงฟาดแข้งช่วงกลางปีนี้

 

อย่างไรก็ตามเนื่องด้วยมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 รวมถึงสถานการณ์ของแต่ละประเทศแตกต่างกันออกไป ส่งผลให้สหพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย ตัดสินใจจัดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย แบบมีเจ้าภาพประจำกลุ่ม สำหรับทีมชาติไทย จะต้องบินไปเล่นที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

 

แน่นอนว่าการออกไปเล่นยังสนามกลาง แม้เป็นผลดีสำหรับการป้องกันโควิด-19 ทว่าทัพ “ช้างศึก” คงต้องเจองานหนักกับการลงเล่นต่างถิ่น รวมถึงการไม่มีแฟนบอลค่อยส่งเสียงเชียร์ ซึ่งนี่ถือเป็นปัจจัยสำคัญช่วยให้ลูกทีม อากิระ นิชิโนะ โชว์ผลงานดีตลอดหลายนัดที่ผ่านมา สำหรับโปรแกรม 3 นัดส่งท้าย ของทีมชาติไทย ซึ่งต้องลงเตะที่ยูเออี จะพบกับ อินโดนีเซีย, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และ มาเลเซีย

 

 

ทีมชาติไทย เตะตะวันออกกลางผลงานไม่ดี

 

เป็นเรื่องที่น่ากังวลใจไม่น้อยเหมือนกันสำหรับผลงานของทีมชาติไทย สำหรับการเดินทางไปเล่นยังตะวันออกกลาง โดยจากสถิติตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ทัพ “ช้างศึก” บุกเยือนทีมอาหรับ 12 เกม ชนะ 1 นัด เสมอ 2 นัด และแพ้ 9 นัด

 

โดยครั้งล่าสุดที่ “ช้างศึก” เอาชนะคู่แข่งในดินแดนอาหรับ คือนัดเฉือน บาห์เรน 1 – 0 ศึก เอเอฟซี เอเชียน คัพ 2019 ที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เป็นเจ้าภาพ ส่วนผลงานย่ำแย่สุดหนีไม่พ้นแมตช์แพ้ เลบานอน 5 – 2 เกม เอเอฟซี เอเชียน คัพ 2015 รอบคัดเลือก เมื่อปี 2014

 

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสภาพอาการ หรือสภาพแวดล้อมต่างๆ แน่นอนว่าจะส่งผลกระทบกับลูกทีม อากิระ นิชิโนะ แน่นอน เพราะฉะนั้นดูแล้ว 3 เกมที่เหลือ ซึ่งต้องลงเล่นที่ ยูเออี คงไม่ง่ายสำหรับทีมชาติไทย แน่นอน

 

 

เงื่อนไขการเข้ารอบ

 

จากการบุกแพ้ มาเลเซีย 2 – 1 รวมถึงเสมอ เวียดนาม 0 – 0 ส่งผลให้ทัพ “ช้างศึก” ตกอยู่สถานการณ์สำหรับการผ่านเข้าสู่รอบต่อไป โดยเฉพาะการตามหลังจ่าฝูง “ดาวทอง” 3 แต้ม กับโปรแกรมซึ่งเหลืองอีกแค่เพียง 3 เกม ซึ่งต้องพบกับทั้ง อินโดนีเซีย, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และ มาเลเซีย

 

แต่นอนเป้าหมายแรกของลูกทีมเฮดโค้ชชาวญี่ปุ่น คือการเก็บชัยชนะให้ได้ครบทุกเกม โดยเฉพาะการพบกับ มาเลเซีย และ อินโดนีเซีย หากทีมชาติไทย ไม่สามารถคว้าสามแต้มจากการเจอกับทั้งสองทีมได้ ต้องบอกเลยว่าโอกาสผ่านเข้าสู่รอบต่อไปแทบหมดลงทันที

 

ขณะเดียวกันนอกจากต้องพยายามเก็บชัยชนะทุกเกมแล้ว ยังต้องแช่งจ่าฝูงอย่าง เวียดนาม ซึ่งเหลือแมตช์พบกับ อินโดนีเซีย, มาเลเซีย และ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ให้พลาดอย่างน้อย 1 เกม เพื่อเปิดโอกาสลุ้นเข้ารอบต่อไปของทีมชาติไทย

 

 

ยังเหลืองานหนักเจอเจ้าภาพ ยูเออี

 

หากมองถึงโปรแกรมนัดที่เหลือของทีมชาติไทย หนึ่งในเกมหนักสุดคงหนีไม่พ้นแมตช์พบกับเจ้าภาพสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เกมรองสุดท้าย ซึ่งมีความสำคัญกับทั้งสองทีมมากแน่นอน โดยเฉพาะเจ้าถิ่นที่ต้องการล้างแค้น “ช้างศึก” หลังแพ้มาเกมแรก 2 – 1

 

เชื่อเลยว่านัดดังกล่าวเจ้าถิ่น ยูเออี มุ่งมั่นเป็นพิเศษแน่นอน เพราะสามคะแนนอาจหมายถึงการผ่านเข้าสู่รอบต่อไป ขณะเดียวกันหากมองจากผลงานย้อนหลังของทั้งสองฝ่าย เจ้าถิ่นดูเหนือกว่าพอสมควร โดยสถิติพบกันทั้งหมด 14 นัด ยอดทีมแห่งตะวันออกกลาง ชนะ 7 นัด ส่วนทีมชาติไทย ชนะ 3 นัด และเสมอกัน 4 นัด นอกจากนั้นเรายังไม่เคยบุกชนะสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว

 

เพราะฉะนั้นการหวังเอาชนะเจ้าถิ่นอย่าง ยูเออี คงไม่ใช่งานง่ายสำหรับทีมชาติไทย แต่หากทีมของ นิชิโนะ ต้องการเปิดโอกาสเข้าสู่รอบ 12 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย ให้ได้ สามแต้มอาจเป็นแค่เพียงตัวเลือกเดียวของพวกเขาแค่เพียงเท่านั้น

 

 

สภาพร่างกายมีผลแน่

 

ต้องยอมรับว่าจากสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ส่งผลให้การแข่งขันศึก โตโยต้า ไทยลีก หยุดพักเบรกไปนานกว่า 6 เดือน ส่งผลให้โปรแกรมการแข่งขันช่วงท้ายซีซั่น 2020/2021 จำเป็นต้องลงสนามอย่างต่อเนื่องสัปดาห์ต่อสัปดาห์

 

นอกจากนั้นบางสโมสรยังมีคิวลงเล่นในศึก เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่เดือนเมษายน เป็นต้นไป เพราะฉะนั้นปัญหาเรื่องสภาพร่างกายของเหล่าผู้เล่นทัพ “ช้างศึก” อาจมีปัญหาพอสมควร เนื่องจากนักเตะหลายคนกำศึกหนักมาตลอดทั้งฤดูกาล

 

แน่นอนว่าโปรแกรมอีกสามเกมที่เหลือของศึกบอลโลก รอบคัดเลือก ซึ่งต้องลงสนาม 3 เกม ภายในระยะเวลา 12 วัน หากทีม อากิระ นิชิโนะ เตรียมความพร้อมเกี่ยวกับความฟิตและสภาพร่างกายไม่ดีพอ ดูแล้วอาจเป็นงานยากสำหรับทีมชาติไทย กับการหวังผ่านเข้าสู่รอบต่อไปก็เป็นได้

 

โอกาสนักเตะหน้าใหม่ติดทีมชาติ

 

ต้องยอมรับว่าตลอดหลายเดือนที่ผ่านมาในศึก โตโยต้า ไทยลีก มีผู้เล่นหน้าใหม่แจ้งเกิดขึ้นมาหลายคน ไม่ว่าจะเป็น เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์, ปฐมพล เจริญรัตนาภิรมย์, สันติภาพ จันทร์หอม หรือแม้กระทั่ง ณัฐวุฒิ สุขสุ่ม ศูนย์หน้าชาวไทย ซึ่งยิงมากสุดในลีก ณ เวลานี้

 

แน่นอนว่าหลังห่างหายไปนานกับเกมทีมชาติ ไม่แน่ว่าทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก อาจมีแข้งหน้าใหม่หลายคนถูกเรียกเข้ามาติดทีม หลังก่อนหน้านี้ อากิระ นิชิโนะ เคยเรียกผู้เล่นใหม่หลายคนเข้ามาร่วมซ้อม และลงเกมอุ่นเครื่องกับทีมบ้างแล้ว ผสมผสานระหว่างนักเตะผลงานดีกับสโมสร รวมถึงเหล่าดาวรุ่งจากทีมชุด U23