เตรียมพร้อมก่อนชิงชัย : แนะนำเรื่องควรรู้เกี่ยวกับ แฟนตาซี พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2020-21

 

เมื่อไหร่ก็ตามที่โปรแกรมการแข่งขันพรีเมียร์ลีกของฤดูกาลในปีนั้นๆได้ประกาศออกมาอย่างเป็นทางการ นั่นหมายความว่าได้เวลาที่คอบอลจะทำการจัดทีมของตัวเองใน แฟนตาซี พรีเมียรลีก กันแล้ว

 

และในฤดูกาล 2020-21 ที่กำลังจะเปิดฉากกันในวันที่ 12 กันยายนนี้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าผู้จัดการทีม FPL ตัวยงหลายคนกำลังปรับเปลี่ยนและจัดทีมของตัวเองกันไปบ้างแล้ว รวมถึงวางกลยุทธ์ต่างๆในช่วงแรกของฤดูกาลใหม่นี้

 

อย่างไรก็ดี ไม่ว่าความทะเยอทะยานของคุณคือการทำแต้มเหนือใครจนคว้าแชมป์ประจำปีไปครอง หรือเพียงต้องการแค่เอาชนะเพื่อน,พี่ๆน้อง ในการแข่งขันแบบมินิลีก ทาง UFA ARENA พร้อมจะช่วยเหลือและคำแนะนำใน FPL ฤดูกาล 2020-21ไม่ว่าจะเป็นนักเตะที่มีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่ง, ราคาผู้เล่น, นัดเปิดสนาม และทิปเล็กๆน้อยๆในการเลือกนักเตะ ผ่านบทความชิ้นนี้กัน

 

 

ผู้เล่นที่ถูกเปลี่ยนตำแหน่ง

 

 

นี่คือสรุปโดยย่อของผู้เล่นตัวหลักๆที่มีการปรับเปลี่ยนตำแหน่งใน FPL จากที่เคยระบุไว้ในฤดูกาล 2019-20 ประกอบไปด้วย

 

จอห์น ลุนด์สตรัม (เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด, 5.5 ล้านปอนด์) เปลี่ยนจากกองหลังเป็นกองกลาง

เอริค ดายเออร์ (สเปอร์ส, 5.0 ล้านปอนด์) เปลี่ยนจากกองกลางเป็นกองหลัง

ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง (อาร์เซน่อล, 12 ล้านปอนด์) เปลี่ยนจากกองหน้าเป็นกองกลาง

มาร์คัส แรชฟอร์ด (แมนยูไนเต็ด, 9.5 ล้านปอนด์) เปลี่ยนจากกองหน้าเป็นกองกลาง

เมสัน กรีนวู้ด (แมนยูไนเต็ด, 7.5 ล้านปอนด์) เปลี่ยนจากกองหน้าเป็นกองกลาง

ดีเอโก้ โชต้า (วูล์ฟ, 6.5 ล้านปอนด์) เปลี่ยนจากกองหน้าเป็นกองกลาง

อองโทนี่ มาร์กซิยาล (แมนยูไนเต็ด, 9 ล้านปอนด์) เปลี่ยนจากกองหน้าเป็นกองกลาง

ริชาร์ลิสัน (เอฟเวอร์ตัน, 8 ล้านปอนด์) เปลี่ยนจากกองกลางเป็นกองหน้า

มิคาอิล อันโตนิโอ(เวสต์แฮม, 6.5 ล้านปอนด์) เปลี่ยนจากกองกลางเป็นกองหน้า

 

 

แข้งคุ้มค่าราคาน่าซื้อ

 

ในส่วนนี้เราจะวิเคราะห์ว่าผู้เล่นรายใดมีราคาต่ำกว่าที่คาดไว้ เพราะทุกคนนั่นชอบการต่อรองและการคว้าแต้มให้ได้มากที่สุดในทุกๆสัปดาห์เป็นสิ่งสำคัญหากคุณต้องการประสบความสำเร็จใน FPL

 

ยิ่งไปกว่านั้นราคาของผู้เล่นจะผันผวนตลอดทั้งฤดูกาล โดยขึ้นอยู่กับ ฟอร์มของนักเตะ และจำนวนที่ผู้จัดการ FPL ดึงเข้าหรือปล่อยออกจากทีม ดังนั้นการเลือกไปที่นักเตะฝีเท้าดีที่ราคาไม่แพง จะช่วยให้คุณเพิ่มแต้มและมูลค่าของทีมในฤดูกาลนี้ด้วย

 

เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ | ลิเวอร์พูล (7.5 ล้านปอนด์)

 

 

ขอเริ่มกันที่ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ผู้คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกกับ ลิเวอร์พูล ในฤดูกาลก่อน และเป็นกองหลังที่มีคะแนนมากที่สุดใน FPL ซีซั่นก่อน และแม้ว่าเขาจะเป็นกองหลังที่มีราคาแพงที่สุดในตอนนี้ แต่ถ้าดูจากตัวเลขในฤดูกาลที่แล้ว ราคา 7.5 ล้านปอนด์ ก็อาจไม่มากมายอะไรเลย

 

แบ็คขวาชาวอังกฤษ ทำคะแนนไป 210 แต้มใน FPL ซีซั่นก่อน เขารับเหมาทั้งการเตะฟรีคิกและเตะมุม ทำให้เขามีโอกาสแอสซิสต์ หรือทำประตูได้มากกว่าแนวรับทั่วไป

 

 

รูเบน วินาเกร | วูล์ฟแฮมป์ตัน (4.5 ล้านปอนด์)

 

 

ยังวนเวียนอยู่กับกองหลัง แต่ลองหันไปดูที่แข้งราคาถูกกันหน่อย นั่นก็คือ รูเบน วินาเกร ที่น่าจับมองมากๆกับ วูล์ฟแฮมป์ตัน หลัง จอนนี่ (5.5 ล้านปอนด์) วิงแบ็คซ้ายตัวหลักบาดเจ็บช่วงท้ายฤดูกาลก่อน นั่นหมายความว่า แข้งชาวโปรตุเกส อาจได้เป็นตัวจริงในช่วง 2-3 สัปดาห์แรกของฤดูกาลใหม่

 

วินาเกร นั่นมีราคาที่ไม่แพงเลย เมื่อเทียบกับกองหลังทีมหมาป่าคนอื่นๆ และการเล่นในตำแหน่งวิงแบ็ค ยังทำให้เขามีส่วนร่วมกับเกมรุกด้วย เนื่องจากทีมมักจะใช้แผน 3-5-2 หรือ 3-4-3 เป็นส่วนใหญ่ 

 

 

ฟิล โฟเด้น | แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (ุ6.5 ล้านปอนด์)

 

 

ถือเป็นข่าวเศร้าสำหรับแฟนบอลแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เมื่อ พวกเขาจะไม่นักเตะที่ชื่อ ดาวิด ซิลบา อยู่ทีมต่อไป แต่ในขณะเดียวกันการลาทีมของเพลย์เมกเกอร์ชาวสแปนิช ก็เปิดโอกาสให้ ฟิล โฟเด้น ลงสนามเป็นตัวจริงด้วยเช่นกัน

 

ค่าตัวเพียง 6.5 ล้านปอนด์ ถือว่าถูกมากเมื่อเทียบกับตัวรุกคนอื่นๆของ เรือใบสีฟ้า แต่การที่ โฟเด้น สามารถเล่นได้ทั้งกองกลาง, ตัวริมเส้น หรือ แม้กระทั่ง ฟอลส์ ไนน์ อาจทำให้เขามีโอกาสสร้างสรรค์เกมได้มากขึ้น แม้จะสุ่มเสี่ยงไม่น้อยว่าจะถูก เป๊ป กวาร์ดิโอล่า หมุนเวียนเป็นตัวสำรองในบางเกมก็ตาม

 

 

เซร์คิโอ้ อเกวโร่ | แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (ุ10.5 ล้านปอนด์)

 

 

ราคา 10.5 ล้านปอนด์ ถือเป็นตัวเลขที่ค่อนข้างสูงในการสร้างทีม แต่นี่คือราคาที่ถูกที่สุดของ เซร์คิโอ อเกวโร่ นับตั้งแต่เขาอยู่ใน FPL แล้ว และเป็น 1 ใน 3 กองหน้าของฤดูกาลนี้ที่มีราคาแตะ 10 ล้านปอนด์ นอกเหนือจาก แฮร์รี่ เคน (10.5 ล้านปอนด์) และ เจมี่ วาร์ดี้ (10 ล้านปอนด์)

 

ดาวยิงชาวอาร์เจนไตน์ ทำผลงานได้ดีในฤดูกาลที่ผ่านมา แต่อาการบาดเจ็บช่วงท้ายซีซั่นก่อน ทำให้เขาพลาดโอกาสคว้าแต้มพอสมควร แต่ถึงอย่างนั้น ผลงานที่ผ่านๆมาก็บ่งบอกว่า อเกวโร่ ยังเป็นตัวอันตรายสำหรับกองหลังในพรีเมียร์ลีกเสมอ

 

 

แข้งแพงเกินจริงที่ควรเลี่ยง

 

เมื่อมีแข้งฝีเท้าดีราคาคุ้มค่า ก็ย่อมมีนักเตะที่ฝีเท้าไม่ค่อยสมค่าตัวเท่าไหร่ในโลก FPL และนี่คือนักเตะที่เรามองว่าควรเลี่ยงใช้งานในฤดูกาลนี้

 

นิค โป๊ป | เบิร์นลี่ย์ (5.5 ล้านปอนด์)

 

 

เบิร์นลี่ย์ในยุคของ ฌอน ไดซ์ ได้รับการยกย่องว่ามีเกมรับที่เหนี่ยวแน่น และมักจะเก็บคลีนชีทได้เสมอยามเจอกับทีมนอกเหนือจาก ท็อปซิกซ์ แต่การที่ นิค โป๊ป มีค่าตัวที่สูงขึ้นอาจเป็นอะไรที่สุ่มเสี่ยงเช่นกัน

 

นายทวารชาวอังกฤษมีค่าตัวถึง 5.5 ล้านปอนด์ และกลายเป็นผู้รักษาประตูที่มีค่าตัวแพงที่สุดในฤดูกาลนี้เป็นอันดับ 3 รองจาก อลิสซอน และ เอแดร์ซอน 2 นายด่านชาวบราซิลเลี่ยนที่มีราคา 6 ล้านปอนด์เท่ากัน ซึ่งเงินจำนวนนี้อาจนำไปใช้ในตำแหน่งอื่นน่าจะโอเคกว่า

 

 

มาร์กอส อลอนโซ่ | เชลซี (6 ล้านปอนด์) 

 

 

มาร์กอส อลอนโซ่ ถือเป็นแข้งตัวโปรดใน FPL เมื่อหลายปีก่อนในยุดที่ อันโตนิโอ คอนเต้ พาเชลซีคว้าแชมป์ลีกปี 2017 แต่ช่วงๆดีเหล่านั้นของ อลอนโซ่ ได้หายไปแล้ว เมื่อ เชลซี คว้าแบ็คซ้ายหน้าใหม่มาร่วมทีม

 

เบน ชิลเวลล์ (5.5 ล้านปอนด์) น่าจะเป็นคนที่มาแทนที่ อลอนโซ่ ในฤดูกาลต่อไป และการที่เขามีราคาสูงกว่า แบ็คชาวอังกฤษ ทั้งๆที่ฟอร์มการเล่นก็ไม่ได้โดดเด่นอะไร ยิ่งทำให้ไม่เหมาะกับการเลือกมาร่วมทีม FPL เลย

 

 

ยูริ ตีเลอมันส์ | เลสเตอร์ (6.5 ล้านปอนด์)  

 

 

เลสเตอร์ อาจจะมีฤดูกาลยอดเยี่ยมในฤดูกาลที่ผ่านมาด้วยการจบอันดับ 5 ในลีก แต่ฟอร์มช่วงท้ายๆซีซั่นที่ตกลงอย่างชัดเจน สร้างความกังวลให้กับกุนซือใน FPL พอสมควร แต่ถ้าคุณยังสนใจเลือกแข้ง ‘เดอะ ฟ็อกซ์’ ไว้ในทีม ขอแนะนำให้เลือกใครก็ได้ที่ไม่ใช่ ยูริ ตีเลอมันส์

 

ในฤดูกาล 2019-20 แข้งชาวเบลเยี่ยม ลงเล่นในบทบาทกองกลางตัวทำเกมจากแนวลึก ข้างๆกับ วิลเฟร็ด เอ็นดีดี้ (5 ล้านปอนด์) ซึ่งไม่ใช่ตำแหน่งที่ทำแต้มได้มากนัก เพราะฉะนั้นการหันไปเลือกกองกลางที่เล่นเกมรุกน่าจะเหมาะกว่าเยอะเลยล่ะ

 

 

แดนนี่ อิงส์ | เซาแธมป์ตัน (8.5 ล้านปอนด์)

 

 

แดนนี่ อิงส์ คือหนึ่งในแข้งที่สร้างความประหลาดใจอย่างมากในฤดูกาลที่แล้ว ด้วยการกด 22 ประตูให้กับ นักบุญในลีก ไม่แปลกที่ราคาของเขาจะเพิ่มขึ้นในฤดูกาลใหม่ แต่อย่างน้อยเราก็เตือนอย่าเพิ่งเลือกมาร่วมทีมหรือส่งเป็นตัวจริงใน 3 สัปดาห์แรก เพราะเซาแธมป์ตัน จะต้องพบกับทีมทีขึ้นชื่อเรื่องเกมรับอย่าง พาเลซ, สเปอร์ส และ เบิร์นลี่ย์ หลังจากนั้นค่อยว่ากันอีกที

 

แต่ถ้าใครอยากลองวัดดวงและหวังว่า อิงส์ จะสร้างเซอร์ไพรส์เมื่อฤดูกาลก่อน ก็ทำได้เช่นกัน เพียงแต่อย่าลืมว่าเราเตือนแล้วนะ

 

 

โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน่ | ลิเวอร์พูล (9.5 ล้านปอนด์)    

 

 

ในลิเวอร์พูลมีผู้เล่นที่น่าสนใจมากมายให้เลือกสรร แต่สำหรับ โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน่ นั่นดูขายไม่ได้เท่าไหร่ เมื่อไปเทียบกับ 2 แนวรุกเพื่อนร่วมทีมอย่าง โม ซาลาห์ และ ซาดิโอ มาเน่ (12 ล้านปอนด์เท่ากัน) หรือ แม้กระทั่ง เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ที่เล่นเป็นกองหลัง

 

ดาวเตะชาวบราซิลเลี่ยน ยิงหรือแอสซิสต์ไม่ถึงเลข 2 หลักในฤดูกาลก่อน และทำไปเพียง 155 แต้มเท่านั้น เมื่อบวกกับราคา 9.5 ล้านปอนด์ อาจทำให้หลายคนตัดสินใจไม่เลือก ‘บ็อบบี้’ มาร่วมทีม FPL ของพวกเขา แม้รูปแบบการเล่นของเขาจะมีประโยชน์ต่อทีมมากในฟุตบอลของจริงก็ตาม

 

 

ทีมที่มีโปรแกรมเปิดสนามดีและแย่

 

 

ต่อไปนี้เป็นข้อมูลสั้นๆ เกี่ยวกับการเปิดสนาม 3 นัดแรกในฤดูกาลใหม่ ซึ่งมีผลต่อการเลือกนักเตะไม่น้อย และอย่าลืมว่ามีเกม 2 คู่ในสัปดาห์เปิดสนามที่เลื่อนการแข่งขันออกไป นั่นก็คือ เกม แอสตัน วิลล่า พบ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ เบิร์นลี่ย์ พบ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เนื่องจาก 2 ทีมจากแมนเชสเตอร์ มีเวลาพักไม่เพียงพอหลังติดภารกิจฟุตบอลยุโรปฤดูกาลก่อน

 

ทีมที่มีโปรแกรมดี

อาร์เซน่อล : ฟูแล่ม (เยือน), เวสต์แฮม (เหย้า), ลิเวอร์พูล (เยือน)

แมนยูไนเต็ด : เบิร์นลี่ย์ (เยือน), คริสตัล พาเลซ (เหย้า), ไบรท์ตัน (เยือน)

นิวคาสเซิล : เวสต์แฮม (เยือน), ไบรท์ตัน (เหย้า), สเปอร์ส (เยือน)

เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด : วูล์ฟ (เหย้า), แอสตัน วิลล่า (เยือน), ลีดส์ ยูไนเต็ด (เหย้า)

 

ทีมที่มีโปรแกรมแย่

ไบรท์ตัน : เชลซี (เยือน), แมนยูไนเต็ด (เหย้า), เอฟเวอร์ตัน (เยือน)

คริสตัล พาเลซ : เซาแธมป์ตัน (เหย้า), แมนยูไนเต็ด (เยือน), เอฟเวอร์ตัน (เหย้า)

ลิเวอร์พูล : ลีดส์ ยูไนเต็ด (เหย้า), เชลซี (เยือน), อาร์เซน่อล (เหย้า)

เวสต์บรอม : เลสเตอร์ (เหย้า), เอฟเวอร์ตัน (เยือน), เชลซี (เหย้า)

 

 

แข้งแนะนำที่ควรมีติดทีมในช่วงแรก

 

ในส่วนนี้จะเป็นการแนะนำนักเตะที่เราคิดว่าควรมีติดทีม FPL เอาไว้ พร้อมกับแนะนำเล็กๆน้อยๆว่าทำไมถึงควรเลือกแข้งคนนี้ในช่วง 2-3 นัดแรกของฤดูกาล 2020-21

 

 

ปิแอร์ เอมอริค โอบาเมยอง | อาร์เซน่อล (12 ล้านปอนด์)

 

 

โอบาเมยอง ถูกขยับมาเป็นกองกลางใน FPL ฤดูกาลนี้ นั่นหมายความว่า เขาจะได้รับแต้มมากขึ้นในการทำประตู หรือเมื่อไหร่ก็ตามที่ อาร์เซน่อล เก็บคลีนชีทได้ และการเปิดสนามเจอกับทีมน้องใหม่อย่าง ฟูแล่ม กับ เวสต์แฮม อาจเป็นช่วงที่ แข้งชาวกาบองโกยแต้มได้มากพอสมควร

 

 

แฮร์รี่ แม็คไกวร์ | แมนยูไนเต็ด (5.5 ล้านปอนด์)

 

 

แม้จะมีเรื่องตลกให้ล้อเลียนไม่หยุดเกี่ยวกับ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ ในฤดูกาลก่อน แต่หากดูดีๆ เขาก็มีส่วนช่วยให้เกมรับของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ดูดีขึ้น และเก็บคลีนชีทได้มากที่สุดเป็นอันดับ 3 ของลีก เพราะฉะนั้นการเปิดหัวกับ ไบรท์ตัน และ พาเลซ (ไม่นับ เบิร์นลี่ย์ที่เลื่อนแข่ง) ที่ไม่มีเกมบุกแข็งแกร่งเท่าไหร่ น่าจะทำให้ กองหลังชาวอังกฤษ เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย

 

 

อัลลัน แซงต์-แม็กซิแม็ง | นิวคาสเซิล (5.5 ล้านปอนด์)

 

 

หลังกลับมาลงสนามในช่วงล็อคดาวน์ อัลลัน แซงต์-แม็กซิแม็ง ราวกับกลายเป็นคนละคน เมื่อจู่โจมแนวรับด้วยความเร็วและความคล่องแคล่วในการเลี้ยงบอล เมื่อบวกกับราคาเพียง 5.5 ล้านปอนด์ และ คู่แข่งอย่าง เวสต์แฮม กับ ไบรท์ตัน ช่วง 2 เกม อาจโดนปีกชาวฝรั่งเศส เล่นงานจนหัวหมุนก็เป็นได้

 

 

ติโม แวร์เนอร์ | เชลซี (9.5 ล้านปอนด์)

 

 

นี่อาจเป็นการเลือกที่เสี่ยงใช้ได้ แต่การที่ แวร์เนอร์ อยู่กับ เชลซี ยุคแฟรงค์ แลมพาร์ด ที่มีสไตล์เน้นทำเกมบุก น่าจะดึงศักยภาพของหัวหอกชาวเยอรมันให้ทำประตูได้มากมายเช่นแสดงให้เห็นในบุนเดสลีก้า อีกทั้งส่ง แวร์เนอร์ ลงในทีม FPL ช่วง 2 นัดแรกที่ดวลกับ ไบรท์ตัน และ เวสต์บรอม ก็คงไม่ใช่เรื่องที่เสียหายอะไรนัก