ทนร่วมงานไม่ไหว : 5 แข้งดังขอแตกหักเบนิเตซ

เบนิเตซ

ราฟาเอล เบนิเตซ กลายเป็นอดีตกับ เอฟเวอร์ตัน เรียบร้อย หลังทำผลงานคุมทีมได้ย่ำแย่สุดด้วยพาทีมชนะแค่หนเดียวจาก 13 เกมหลังสุดในลีก

แม้ปัจจุบันจะไม่ประสบความสำเร็จพาทีมคว้าแชมป์ได้เหมือนช่วงที่สร้างชื่อกับ บาเลนเซีย หรือ โด่งดังกับ ลิเวอร์พูล แต่สิ่งหนึ่งที่อยู่คู่กับกุนซือชาวสแปนิชเรื่อยมาคือประวัติการไม่ลงรอยกับนักเตะของเขาเอง ไม่ว่าผู้เล่นคนนั้นจะเป็นคนสำคัญต่อทีมมากแค่ไหนก็ตาม

โดยล่าสุดมีรายงานว่า ราฟา เป็นคนบีบให้ ลูก้า ดีญ แบ็คซ้ายชาวฝรั่งเศส ต้องโบกมือลา ‘ท็อฟฟี่สีน้ำเงิน’ ย้ายซบ แอสตัน วิลล่า ก่อนที่เขาจะโดนปลดเพียง 3 วัน เนื่องจากความสัมพันธ์ที่ร้าวฉานมาพักใหญ่

นอกเหนือจาก ดีญ แล้ว ก็ยังมีดาวเตะชื่อดังหลายคนที่มีปัญหากับ ‘เอล บอส’ จนขอแตกหักเช่นกัน และ UFA ARENA จะพาไปพบกับ 5 แข้งที่ไม่ลงรอยกับ เบนิเตซ และบางรายก็ส่งผลต่ออาชีพการงานของเขาด้วย

 

ชาบี อลอนโซ่

How much is Rafa Benitez to blame for the departure of Xabi Alonso? | Who  Ate all the Pies

ตลอด 6 ปีในแอนฟิลด์ของ เบนิเตซ เต็มไปด้วยความทรงจำที่ยอดเยี่ยม และหนึ่งในสิ่งที่ เดอะ ค็อป จดจำได้ไม่รู้ลืมคือปาฏิหารย์ที่ อิสตันบูล ในปี 2004 อย่างไรก็ตาม ราฟา ก็ยังมีปัญหากับแข้ง ‘หงส์แดง’ อยู่เหมือนกันในช่วงเวลานั้น

ชาบี อลอนโซ่ เป็นนักเตะรายแรกๆที่ ‘เอล บอส’ เซ็นสัญญาเข้ามาในฐานะกุนซือ ลิเวอร์พูล โดยคว้ามาจาก เรอัล โซเซียดาด ด้วยค่าตัวราวๆ 10.5 ล้านปอนด์ เมื่อปี 2004

กองกลางทีมชาติสเปน มีส่วนสำคัญในทีมตั้งแต่ที่ย้ายมานปีนั้น เปรียบเป็นขุนพลคู่ใจของ ราฟา เลยก็ว่าได้ แต่ความสัมพันธ์ของพวกเขาก็ไม่มีทางกลับมาเหมือนเดิม เมื่อ อลอนโซ่ เลือกงานวันเกิดลูกชาย เหนือเกมแชมเปี้ยนส์ลีกรอบ 8 ทีมสุดท้ายในปี 2009

“มันเป็นเกมแชมเปี้ยนส์ลีกรอบ 8 ทีมสุดท้ายพบ อินเตอร์ เรากำลังมีปัญหากัน และผมบอก ราฟา ไปว่าผมคงไปไม่ได้ ผมคงไปเมื่อทุกอย่างปกติดี” อลอนโซ่ กล่าวกับ El Pais ในปี 2017

 “ผมบอกว่าผมคงขึ้นเครื่องและไปพบพวกเขาที่นั่น ซึ่งเขาไม่ยอมรับ ผมจึงต้องตัดสินใจ และผมก็เลือกอยู่กับครอบครัวของผม”

“มันไม่ง่ายเลย งานของผมไม่ใช่งานปกติอยู่แล้ว และนั่นก็ไม่ใช่เกมทั่วไป อย่างไรก็ตาม ผมไม่เคยเสียใจเลยสักนิด”

ท้ายที่สุด อลอนโซ้ ถูกขายให้ เรอัล มาดริด ในซัมเมอร์ปีนั้นด้วยค่าตัว 30 ล้านปอนด์ พร้อมพาทีม ราชันชุดขาว คว้าแชมป์ ลาลีก้า, แชมเปี้ยนส์ลีก อย่างละสมัย และ โกปา เดล เรย์ 2 สมัย ตลอด 5 ปีใน ซานติอาโก้ เบอร์นาเบว

และการขาย อลอนโซ่ ออกไป ถือเป็นหนึ่งในเรื่องที่หลายคนมองว่า ราฟา ตัดสินใจผิดพลาดในอาชีพกุนซือ เนื่องจากมาตรฐานของ ลิเวอร์พูล ตกลงชัดเจนเมื่อไม่มีห้องเครื่องหน้าหล่อ ก่อนที่ฤดูกาล 2009-10 จะกลายเป็นปีสุดท้ายของเขาใน แอนฟิลด์

 

ฌิบริล ซิสเซ่

2005 Super Cup: Cissé secures hat-trick for Liverpool | UEFA Super Cup |  UEFA.com

ครั้งหนึ่ง ฌิบริล ซิสเซ่ เคยเป็นนักเตะค่าตัวสถิติสโมสรของ ลิเวอร์พูล หลังย้ายจาก โอแซร์ ด้วยค่าตัว 14 ล้านปอนด์ในปี 2004 แต่คนที่ปิดดีลนี้ไม่ใช่ เบนิเตซ แต่เป็น เชราร์ อุลลิเย่ร์ กุนซือที่เขามาแทนที่ต่างหาก

หลังขาหักในเดือนตุลาคมปี 2004 กองหน้าชาวฝรั่งเศส ได้ลงเล่นเป็นครั้งคราวในยุคของ ราฟา และทำไป 13 ประตูจาก 49 นัดในพรีเมียร์ลีก

นอกจากนี้ หอกเลือดน้ำหอมยังถูกกุนซือชาวสแปนิช บีบให้ย้ายสโมสรด้วย ขณะที่เขารับใช้ทัพ ตราไก่ ในฟุตบอลโลกปี 2006 หลังจากมีปากเสียงกันอย่างรุนแรงผ่านการคุยทางโทรศัพท์

“ผมเก็บความทรงจำที่ยอดเยี่ยมในอังกฤษไว้ ถึงแม้ผมจะยังขุ่นเคืองกับโค้ชก็ตาม ผมยังไม่ยอมรับมัน และบางทีคงไม่มีทางยอมรับได้ด้วย ผมยังโกรธเคืองมากๆ” เจ้าตัวกล่าวกับ L’Equipe ในปี 2006

“ลิเวอร์พูล ยังเป็นที่ที่ผมเจ็บปวดมากที่สุดในฐานะนักฟุตบอล มากกว่าสิ่งไหนในฤดูกาลสุดท้าย ผมยิงไป 19 ประตู และผมไม่ได้เล่นอีกเลย โค้ชและตัวผมเองเข้ากันไม่ได้”

“ในด้านจิตวิทยา มันยากมากเพราะฉันควบคุมตัวเองได้พอสมควร อย่าทำหรือพูดอะไรออกไป พูดตรงๆผมก็ภูมิใจในสิ่งนั้นไม่น้อย”

“นอกเหนือจากนั้น ผมชอบทุกอย่างที่ลิเวอร์พูล นักเตะ ผู้คน แฟน ๆ ทุกอย่างยอดเยี่ยมมาก ผมคิดถึงเรื่องนั้นอยู่บ้าง”

 

จอห์น เทอร์รี่

Argumentative' Rafa Benitez had problems with Cristiano Ronaldo and John  Terry, says ex-Italy defender Materazzi – The Sun - New York Folk

ความสัมพันธ์ของ จอห์น เทอร์รี่ กัปตันทีม เชลซี และ เบนิเตซ ดูไม่ราบรื่นตั้งแต่แรกแล้ว หลังมีรายงานเรื่องนี้ในช่วงที่กุนซือชาวสแปนิช เข้ามาทำหน้าที่รักษาการในฤดูกาล 2012-13

เทอร์รี่ ยอมรับว่าพวกเขาไม่เห็นด้วยกับแทคติกของ ราฟา หลายต่อหลายครั้ง รวมถึงการอ้างอิงแผนที่เขากับลิเวอร์พูลบ่อยๆ ก็เป็นสิ่งที่ทำให้ ตำนาน ‘สิงห์บลูส์’ ไม่ปลื้มเท่าไหร่

“ผมเคยเห็นแท็คติกมาก่อนแล้วว่าเขาเคยเล่นอย่างไรตอนพบกับเราและเรื่องอื่นๆ เช่นเดียวกับทุกๆ อย่าง คุณให้โอกาสทุกคนอย่างยุติธรรม และขึ้นอยู่กับพวกเขาที่จะพิสูจน์ให้คุณเห็นเป็นอย่างอื่น” อดีตกองหลังทีมชาติอังกฤษ กล่าวกับ Sky Sports ในปี 2020

“เราไม่ได้เห็นด้วยตั้งแต่วันแรก โดยสัตย์จริง ทุกครั้งที่เรามีการประชุมก็คือ ‘โอ้ เราเคยทำสิ่งนี้ที่ลิเวอร์พูลและเราทำแบบนี้”

“คุณหัวเราะออกมา แต่นั่นคือสิ่งที่เขาเคยเป็น แบบว่าก็แค่ย้ายสนามมาที่นี่ จริงๆแล้วผมได้คุยกันกับเขา 2-3 ครั้งแล้ว โดยบอกว่า ‘เจ้านาย คุณต้องลืมลิเวอร์พูล คุณไม่สามารถพูดว่า ‘เรา’ ต่อไปได้ ตอนนี้คุณอยู่ที่เชลซีแล้ว มันไม่เข้ากับคนอื่นๆได้เลย”

“ผมได้รับบาดเจ็บเมื่อเขามาถึง และจากนั้นผมก็พยายามดิ้นรนเพื่อโอกาส ผมน่าจะพักได้ประมาณ 6 สัปดาห์ แต่หลังจากนั้นผมก็กลับมาฟิตร่างกายอีกครั้ง ผมเล่น 2-3 เกมที่ไปเยือนฟูแล่ม ยิงได้ 2 ลูก แต่เขาก็ดร็อปผมในเกมถัดไป นั่นเป็นปัญหาเล็กๆที่ค่อยๆเพิ่มขึ้นจากทั้งหมด”

 

คริสเตียโน่ โรนัลโด้

Cristiano Ronaldo: Rafa Benitez is doing a good job and must be given time  - Eurosport

เบนิเตซ ได้โอกาสรับงานใหญ่ครั้งหนึ่งในชีวิตกุนซือกับการคุม เรอัล มาดริด ในฤดูกาล 2015-16 แต่ก็ทำหน้าที่ได้เพียง 6 เดือนเท่านั้น ก่อนถูก ฟลอเรนติโน่ เปเรซ ปลดกลางอากาศจากผลงานที่น่าผิดหวัง

อีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ ‘เอล บอส’ ถูกปลด เนื่องจากเขาไม่ใช่คนที่ มาดริดนิสต้า ส่วนใหญ่ หลงใหลได้ปลื้มตั้งแต่เข้ามากุมบังเหียนใน เบอร์นาเบว แล้ว รวมไปถึงมีปัญหาขัดแย้งกับผู้เล่นในทีมจนส่งผลต่อผลลัพธ์ในสนาม

ที่น่าเหลือเชื่อก็คือ กุนซือชาวสแปนิช มีปัญหาไม่ลงรอยกับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ดาวเตะเบอร์หนึ่งของ โลส บลังโกส ณ ตอนนั้น โดยมีจุดเริ่มต้นมาจากทรัมไดร์ฟปากกา

ราฟา ส่ง USB ที่มีวีดีโอและเทคนิคในการหลุดตัวประกอบระหว่างเกม แม้ว่า CR7 กดไปถึง 35 ประตูในฤดูกาลนั้น และตามรายงานข่าวเผยว่า โรนัลโด้ ไม่เพียงปฏิเสธทรัมไดรฟ์รูปปากกานั้น แต่ยังตอบโต้ด้วยคำพูดสุดเจ็บแสบ

“บอก เบนิเตซ ด้วยว่าผมส่ง ไดรฟ์ USB ที่มีประตูทั้งหมดที่ผมยิงได้ให้เขาไปศึกษาด้วย” โรนัลโด้ กล่าวจากรายงานของสื่อ

ความสัมพันธ์ที่ย่ำแย่ของพวกเขากลายเป็นหนึ่งในเหตุผลหลักที่ทำให้ ราฟา ล้มเหลวใน มาดริด

 

ฮาเมส โรดริเกซ

FootballFunnys on Twitter: "Rafa Benitez 🗣 "James Rodriguez prefers a  comfortable life and money more than competition. He fails to work hard,  but expects to be on the lineup. That would be

ในช่วงที่ คาร์โล อันเชล็อตติ ทำหน้าที่กุนซือ เอฟเวอร์ตัน ในฤดูกาล 2020-21 ฮาเมส โรดริเกซ ถือเป็นหนึ่งในผู้เล่นคนสำคัญของทีม ก่อนที่ทุกอย่างจะเปลี่ยนไปหลังการมาของ เบนิเตซ ในซัมเมอร์ปี 2021

อย่างไรก็ตามทั้งคู่มีประวัติกันอยู่แล้วตั้งแต่สมัยร่วมงานกันครั้งแรกที่ เรอัล มาดริด โดยหลังศึก โคปา อเมริกา ในปี 2015 กุนซือชาวสแปนิช ขอให้ ดาวเตะทีมชาติโคลอมเบีย กลับมาร่วมทีมก่อนกำหนดในช่วงพรีซีซั่นที่ ออสเตรเลีย

ทว่า ฮาเมส ปฏิเสธ และเลือกที่จะเดินทางมาสมทบกับทีมในจีนแทน แต่ก็ยังทำผลงานได้ดีในตอนนั้นด้วยการปั่นฟรีคิกในเกมอุ่นเครื่องพบ อินเตอร์ มิลาน

ถึงฟอร์มดี แต่ ราฟา ก็เลือกดร็อปเขาในเกมแรกของฤดูกาล โดยให้เหตุผลว่านักเตะยังฟิตไม่พร้อมสำหรับการเป็นตัวจริง แต่ก็ไม่ได้ลงเล่นร่วมเดือนจากอาการบาดเจ็บ ทว่าในทีมชาติ ฮาเมส ดันโผล่ไปลงเล่นให้โคลอมเบียในช่วงพักเบรกทีมชาติเดือนพฤศจิกายน พร้อมทำประตูตอกกลับใครบางคนที่กล่าวหาว่าเขาไม่พร้อมด้วย

“นี่สำหรับคนที่บอกว่าผมอยู่ในสภาพที่ไม่ดีพอ” โรดิเกซ กล่าวกับสื่อหลังเกมวันนั้น

ตัดภาพกลับที่ ‘ท็อฟฟี่สีน้ำเงิน’ ในปี 2021 ก็มีชะตากรรมไม่ต่างกัน เมื่อกุนซือเลือดกระทิง ชี้ว่า ฮาเมส ไม่พร้อมลงเล่นเป็นเหตุผลให้เจ้าตัวย้ายทีมในเวลาต่อมา

“เมื่อคุณมีผู้เล่น สถานการณ์ที่เรามี ที่เขาพร้อมสำหรับเกมทั้งหมด 50% ในพรีเมียร์ลีก มันไม่ใช่สิ่งที่เราจัดการได้ง่ายๆ” เอล บอส กล่าว

“ในฐานะผู้จัดการทีม คุณพยายามจัดทีมในสนามที่สามารถชนะเกมได้ ผมไม่ได้ตรวจสอบชื่อผู้เล่น จากความนิยมหรือจำนวนผู้ติดตามที่พวกเขามีบนโซเชียลมีเดีย”

ท้ายที่สุด โรดริเกซ เลือกลา เอฟเวอร์ตัน ไปเล่นให้กัล อัล เรย์ยาน สโมสรที่กาตาร์ ในเดือนกันยายนปี 2021

 

บทความที่เกี่ยวข้อง

ดีญ
ใครถูกใครผิด : ดีญ-ราฟากับเหตุแตกหักในรั้วท็อฟฟี่