นายใหญ่ปีศาจแดงแสดงความเห็นถึงเหตุการณ์ที่พวกเขาถูกยึดประตูครั้งที่สอง
ราล์ฟ รังนิก กุนซือของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชี้ว่าจังหวะที่ทีมของเขาโดนปฏิเสธประตูครั้งที่สองนั้นเป็นการตัดสินที่เบามาก และไลน์แมนใช้เวลานานถึง 10 วินาทีกว่าจะยกธงขึ้นมา
แมนฯ ยูไนเต็ด ทำได้แค่เสมอกับทีมบ๊วยอย่าง เบิร์นลีย์ ที่เทิร์ฟมัวร์ 1-1 ในเกมพรีเมียร์ลีก เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา โดยปีศาจแดงได้ประตูออกนำไปก่อนจาก ปอล ป็อกบา ในนาทีที่ 18 แต่เป็น เจย์ โรดริเกซ ที่มาตามตีเสมอให้กับเดอะ คลาเร็ตส์หลังจากเริ่มครึ่งหลังได้เพียง 2 นาที
โดยในนัดนี้ เร้ด เดวิลส์สามารถส่งบอลไปซุกก้นตาข่ายได้ถึง 3 ครั้ง ทว่ากลับถูก VAR ยึดคืนไป 2 ลูก โดยหนแรกเป็นเพราะ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ ที่อยู่ในตำแหน่งล้ำหน้ามีส่วนร่วมกับการเล่น ส่วนหนที่สองเป็นเพราะ ป็อกบา ไปทำฟาวล์ใส่ เอริค ปีเตอร์ส ก่อนที่ จอช บราวน์ฮิลล์ จะสกัดบอลเข้าประตูตัวเองในจังหวะต่อมา
“โดยเฉพาะอย่างยิ่งลูกที่สองที่เราไม่ได้ประตู ผมกลับไปดูมันในห้องแต่งตัวมาแล้วในตอนนี้ ไลน์แมนยกธงว่าเป็นจังหวะฟาวล์ แต่เขายกธงหลังจากเกิดเหตุการณ์ถึง 10 วินาที นี่เป็นการตัดสินที่เบามาก ผมต้องพูดแบบนี้” เทรนเนอร์ชาวเยอรมัน บอกกับ BT Sport หลังจบเกม
“เราเล่นได้อย่างยอดเยี่ยมในครึ่งแรก ผมคิดแบบนั้น เราครองเกมได้อย่างสิ้นเชิง ยิงได้ 3 ประตู แต่โดนยึดคืนไป 2 ประตู”
“จากนั้นในช่วงครึ่งหลัง สำหรับ 10-15 นาทีแรก เราแค่ดุดันไม่พอ รู้อยู่แล้วว่าพวกเขาจะกลับมาหลังจากเบรกด้วยแนวทางการเล่นที่ดุดันมากขึ้น แต่ 15 นาทีนั้นเราไม่ดุดัน เราเสียประตู”
“เรามีสถานการณ์โต้กลับที่ดีมากในช่วง 30 วินาทีก่อนที่จะเสียประตู และวิธีที่เราปล่อยให้พวกเขายิงประตู เราป้องกันสถานการณ์ทั้งหมดได้ไม่ดี”
ปัจจุบัน แมนฯ ยูไนเต็ด รั้งอยู่ในอันดับ 5 ของตาราง โดยโปรแกรมนัดถัดไป พวกเขามีคิวที่จะต้องเปิดรังโอลด์ แทรฟฟอร์ดต้อนรับการมาเยือนของ เซาแธมป์ตัน ในเกมพรีเมียร์ลีก วันเสาร์นี้
บทความที่คุณอาจสนใจ : หนักเอาการ : คดีฉาวกรีนวู้ดกระทบปีศาจแดงอย่างไร
