อดีตศูนย์หน้าปีศาจแดงเผยความรู้สึกของการซัดประตูชัยให้ทีมเอาชนะคู่อริตลอดกาล เป็นความรู้สึกที่น่าเหลือเชื่อมาก
ย้อนไปเมื่อฤดูกาล 2010/11 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเปิดบ้านเอาชนะลิเวอร์พูลไป 3-2 โดยที่ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟทำแฮตทริคได้ ซึ่งประตูสุดท้ายนั้นเป็นประตูชัย หลังจากที่สกอร์เสมอกันอยู่ 2-2 ก่อนหน้านั้น
“เมื่อคุณเล่นให้แมนฯ ยูไนเต็ดที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด แน่นอนว่าคุณจะต้องเดินเกมกดดันทีมอื่น เรามักจะทำประตูชัยในนาทีสุดท้ายอยู่เสมอ คุณจะรู้สึกได้เลยว่ามันจะต้องเกิดขึ้น คุณจะได้กลิ่นว่ามันจะมีอะไรบางอย่าง” เบิร์บกล่าว
“และผมก็มั่นใจมากในวันนั้น ผมมั่นใจว่าหากผมได้โอกาสอีกสักครั้ง ผมจะยิงประตูได้แน่ ตอนที่เชซี่ (จอห์น โอเช) วางบอลเข้ามาในกรอบเขตโทษ ในฐานะกองหน้าคุณจำเป็นจะต้องวิ่งหาช่องอยู่แล้ว แม้ว่ามันจะมีนักเตะหลายคนอยู่แถวนั้น ถ้าคุณรู้ตำแหน่งที่ต้องยืน รู้พื้นที่ว่าควรไปตรงไหน บางครั้งบอลมันก็จะมาหาคุณเอง ซึ่งตอนนั้นมันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ”
“ผมกระโดดขึ้นก่อน (เจมี่) คาร์ราเกอร์ราวหนึ่งวินาที มันจึงเป็นเรื่องง่ายสำหรับผมที่จะเข้าถึงบอล ได้โหม่ง และก็เป็นประตู เกมจบทันที เราชนะ หลังจากนั้นทุกอย่างก็เบลอไปหมด คุณจะมองไม่เห็นอะไรเลยนอกจากแสงสี ให้ผมพูดเลยนะ ความรู้สึกมันโคตรน่าเหลือเชื่อเลยล่ะ!”
สำหรับเบอร์บาตอฟนั้นย้ายออกจากแมนฯ ยูไนเต็ดไปเล่นกับฟูแล่มในปี 2012 โดยตลอดการค้าแข้งในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ดเขาลงสนามไป 149 เกมรวมทุกรายการ ยิงประตูได้ 56 ลูก
