ตั้งแต่ลีกสูงสุดของอังกฤษเปลี่ยนชื่อจากดิวิชั่น 1 มาเป็นพรีเมียร์ลีก หลายสโมสรต่างมีผู้จัดการทีมมากหน้าหลายตาพลัดเปลี่ยนกันเข้ามาทำหน้าที่กันอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง ไม่ว่าจะเป็นทีมเล็กหรือทีมใหญ่ต่างต้องการพาทีมไปให้ถึงเป้าหมายที่วางไว้ทั้งนั้น แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่กุนซือคนคนหนึ่งจะอยู่กับทีมได้อย่างยาวนานเฉกเช่น สโมสรดังต่อไปนี้ที่ทีมงาน UFA Arena.com จะพาไปติดตามกันว่าทีมใดบ้างที่มีการเปลี่ยนโค้ชมากที่สุดในยุคพรีเมียร์ลีก
5.ซันเดอร์แลนด์ (12 คน)
ตั้งแต่พรีเมียร์ลีกเริ่มต้นขึ้นซันเดอร์แลนด์ใช้เวลา 16 ฤดูกาลในการขึ้นๆลงๆกับลีกรองและลีกสูงสุดของอังกฤษอยู่ตลอดเวลา โดยซีซั่นล่าสุดที่พวกเขาอยู่ในพรีเมียร์ลีกก็คือปี 2016/17 เจ้าของฉายาแมวดำ ต้องเป็นทีมหนีตายอยู่ท้ายตารางและเสี่ยงต่อการตกชั้นอยู่บ่อยครั้งที่ขึ้นมาเล่นบนลีกอันดับ 1 ของเกาะอังกฤษ และสำหรับปัจจุบันทีมต้องตกไปอยู่ในลีกวันแบบไม่วี่แววของการกลับมาอยู่จุดเดิม
ในช่วงแรกที่ได้ขึ้นมาเล่นบนพรีเมียร์ลีก ซันเดอร์แลนด์ใช้ผู้จัดการทีมเพียงแค่ 3 คนเท่านั้น แต่หลังจากตกชั้นทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงมากมาย จนทีมต้องเปลี่ยนแปลงกุนซือเป็นว่าเล่นเป็นจำนวนถึง 12 คนด้วยกัน
ปีเตอร์ รีดคือรายแรกที่เข้ามาคุมซันเดอร์แลนด์ในพรีเมียร์ลีกต่อจากนั้นก็ตามมาด้วยโฮเวิร์ด วิลกินสัน, มิก แม็กคาร์ธี, รอย คีน, ริกกี้ ซาราเบีย, สตีฟ บรูซ, มาร์ตินโอนีล, เปาโล ดิคาโนและเดวิดมอยส์ ที่น่าสนใจก็คือซันเดอร์แลนด์เป็นงานชิ้นแรกของคีนในฐานะผู้จัดการทีมอีกด้วย
4.ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ (13 คน)
ต้องใช้เวลานานหลายปีกว่าที่ท็อตแนม ฮ็อทสเปอร์จะกลายเป็นทีมระดับหัวแถวของยุโรป และพวกเขาก็ค้นพบแล้วว่าภายใต้การทำทีมของเมาริซิโอ โปเชตติโน เฮดโค้ชชาวอาร์เจนตินาคือคนที่ใช่และเจ้าตัวก็อยู่กับสโมสรแห่งนอร์ธ ลอนดอนมาเป็นเวลา 5 ปีแล้ว โดยก่อนหน้านี้สเปอร์สผ่านการมีผู้จัดการทีมถึง12 คนในช่วงตลอดระยะเวลา 22 ปี
ดัก ลิเวอร์มอร์และเรย์ คลีเมนซ์ คือผู้จัดการทีมของสเปอร์สที่ทำงานร่วมกันเมื่อครั้งพรีเมียร์ลีกเริ่มต้นขึ้นและพวกเขาก็ประสบความสำเร็จ ต่อจากนั้นก็เปลี่ยนเป็น ออสวัลโด อาร์ดิเลส, เจอร์รี่ ฟรานซิส, คริสเตียน กรอส, จอร์จ เกรแฮม, เกล็น ฮอดเดิล, ฌาค ซองตินี, อังเดร วิลลาส โบอาส, ทิม เชอร์วู้ด และ ปอเช็ตติโน่คนปัจจุบัน อย่างไรก็ตามมีเพียง ฆวนเด้ รามอสเท่านั้นที่สามารถพาสเปอร์สคว้าแชมป์ลีกคัพได้ในปี 2008
นอกเหนือจากผู้จัดการทีมแบบถาวรที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว ในปี 2008 ยังมีกุนซือถึง 7 คนที่มารับหน้าที่กุนซือแบบชั่วคราวก่อนที่ แฮร์รี่ เรดแนปป์ จะมาสานต่ออย่างเป็นทางการในที่สุด
3.นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด (14 คน)
นิวคาสเซิลยูไนเต็ดลงเล่นอยู่ในพรีเมียร์ลีกมาแล้วถึง 25 ครั้ง ใน 27 ฤดูกาลหลังและราฟาเอล เบนิเตซที่จากไปเมื่อไม่นานมานี้ คือคนสุดท้ายที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้จัดการทีมคนที่ 14 ของสโมสร เขาเป็นคนพาสาลิกาดงอยู่ต่อในพรีเมียร์เป็นซีซั่นที่สองติดต่อกันหลังจากเลื่อนชั้นขึ้นมาเมื่อ 2 ปีก่อน แต่นับต่อจากนี้จะไม่มีคนชื่อเบนิเตซอยู่ในรังเซนเจมส์ปาร์คแล้ว ทำให้สโมสรจำเป็นต้องหาเทรนเนอร์คนใหม่เข้ามาทำหน้าที่แทน
อดีตตำนานผู้เล่นเก่าที่เคยได้รางวัลบัลลงดอร์อย่าง เควิน คีแกน เป็นผู้จัดการทีมคนแรกที่ได้คุมนิวคาสเซิลลงเล่นในพรีเมียร์ลีกและเป็นคนเดียวที่ทำให้สโมสรเข้าใกล้กับความสำเร็จมากที่สุด
หลังจากคีแกนนั้นคนต่อมาที่ได้คุมทีมต่อก็เป็นเคนนี ดัลกลิช ,รุด กุลลิท,เซอร์บ๊อบบี้ ร็อบสัน, แกรม ซูเนสส์,เกลนน์ โรเดอร์,แซม อัลลาร์ไดซ์,โจ คินเนียร์,คริส ฮิวตันตัน ,อลัน พาร์ดิว,สตีฟ แม็กคลาเลนและเบนิเตซ นอกจากนี้พวกพวกเขายังมีผู้จัดการทีมที่มารักษาการณ์ชั่วคราวอยู่สองสามคนหนึ่งในนั้นคือฮีโร่และตำนานของสโมสรอย่างอลัน เชียเรอร์
2.เชลซี (14 คน)
เชลซีก็ไม่ได้ต่างอะไรกับนิวคาสเซิลเมื่อสโมสรจัดการเปลี่ยนผู้จัดการทีมไปถึง 14 รายด้วยกันตลอดระยะเวลาที่อยู่ในพรีเมียร์ลีก และสืบเนื่องจาก เมาริซิโอ ซาร์รี่ ได้ย้ายกลับไปอิตาลีเพื่อไปคุม ยูเวนตุส ทำให้ในช่วงฤดูร้อนนี้เชลซีจำเป็นต้องหานายใหม่มาทำหน้าที่แทนโดย แฟรงค์ แลมพาร์ด อดีตผู้เล่นตำนานของสิงห์บลูคือตัวเต็งในขณะนี้
ก่อนที่ โรมัน อับราโมวิช จะเข้ามาหุบกิจการของสโมสรเชลซีนั้นมีผู้จัดการทีมถึง 5 รายด้วยกันที่ทำหน้าที่เฮดโค้ชตรงนี้ตลอดช่วงระยะเวลา 11 ปี โดยเริ่มจากคนแรกคือ เอียน พอร์เตอร์ฟิลด์ ที่ถือว่าประสบความสำเร็จพอตัวต่อจากนั้นก็จะเป็น เกล็น ฮอดเดิ้ล, รุท กุลลิต, จิอันลูกา วิอัลลี่ และ เคลาดิโอ รานิเอรี่ ก่อนที่เสี่ยหมีจะเข้ามาเทคโอเวอร์พร้อมกับแต่งตั้ง โชเซ่ มูรินโญ่แบบถาวร
มูรินโญ่เป็นกุนซือเพียงรายเดียวเท่านั้นที่คุมทีมสิงห์โตน้ำเงินครามถึงสองครั้งภายใต้การบริหารงานของอับราโมวิชส่วนผู้จัดการทีมคนอื่นๆที่เคยผ่านงานภายใต้เศรษฐีรัสเซียผู้นี้นั้นก็จะมี อัฟราม แกรนท์, หลุยส์ ฟิลิปเป สโคลารี, คาร์โล อันเชล็อตติ, อังเดร วิลลาสโบอาส, โรแบร์โต ดิ มัตเตโอ, อันโตนิโอ คอนเต้ และ ซารรี่
ในระหว่างการคุมทัพของผู้จัดการทีมที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว เชลซียังมีกุนซือรักษาการชั่วคราวถึง 2 คนด้วยกันทั้ง ราฟาเอล เบนิเตซ และกุส ฮิดดิงค์ โดยทั้งคู่นั้นต่างพาสโมสรคว้าถ้วยแชมป์ติดไม้ติดมือได้อีกด้วย
1.เซาแธมป์ตัน (18 คน)
เซาแธมป์ตันกลายเป็นสโมสรที่เปลี่ยนแปลงผู้จัดการทีมมากที่สุดตั้งแต่มีพรีมียร์ลีกมา นี่ยังไม่นับรวมรายชื่อกุนซือตอนที่สโมสรตกชั้นลงไปเล่นในลีกรองของอังกฤษถึง 7 ปีด้วยกัน
เอียน แบรนฟุต, อลัน บอล ,เดฟ เมอร์ริงตัน, แกรม ซูเนสส์ ,เดฟ โจนส์,เกล็น ฮอดเดิล,สจวร์ต เกรย์,กอร์ดอน สตรัคคั่น ,พอล สเตอล็อค, สตีฟ วิกลีย์, แฮร์รี่ เร้ดแน้ปป์,ไนเจล แอ็ดกิ้น, เมาริซิโอ ปอเช็ตติโน่,โรนัลด์ คูมัน,โคลด ปูแอล,เมาริซิโอ เปเยกริโน่,มาร์ก ฮิวส์ และราล์ฟ ฮาเซ่นฮึทเทิ่ล คือผู้จัดการทีมทั้ง 18 คนที่นั่งแท่นนายใหญ่ของสโมสรในถ้วยพรีเมียร์ลีก
เหล่าเทรนเนอร์ทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมาข้างต้นนี้นั้นล้วนทำผลงานไม่เป็นชิ้นเป็นอันสักเท่าไร มีเพียงกุนซืออย่าง เมาริซิโอ ปอเช็ตติโน่และโรนัลด์ คูมัน 2 คนนี้เท่านั้นที่ทำทีมได้เป็นรูปเป็นร่างและวางรากฐานสไตล์ของทีมไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม
