Who Are You : เปร์โรเน่ดาวรุ่งดวงใหม่ลุ้นแจ้งเกิดในทัพเรือใบ

Who Are You : เปร์โรเน่ ดาวรุ่งดวงใหม่ลุ้นแจ้งเกิดในทัพเรือใบ

ถือเป็นเรื่องปกติของวงการฟุตบอลที่คลื่นลูกใหม่จะขึ้นมาทดแทนคลื่นลูกเก่า ทุกทีมมักมีการเปลี่ยนแปลงตัวผู้เล่นอยู่เสมอ อาทิ เชลซี ที่พอเปลี่ยนเจ้าของทีมก็จัดหนักเสริมทัพผู้เล่นใหม่ด้วยเงินกว่า 400 ล้านปอนด์ ภายใน 2 ตลาดซื้อขาย

หนึ่งทีมที่ดูจะเงียบ ๆ กับตลาดหน้าหนาวหนนี้คือ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เพราะทีมของพวกเขาถือว่าทุกอย่างนั้นดูลงตัวอยู่แล้ว

อย่างไรก็ตาม เป๊บ กวาร์ดิโอล่า ก็แลกเสริมทัพรายแรกด้วยผู้เล่นดาวรุ่งอย่าง มักซิโม่ เปร์โรเน่ มิดฟิลด์ชาวอาร์จนติน่าที่ได้มาจาก เบเลซ ซาร์สฟิลด์ ด้วยค่าตัวราว ๆ 8 ล้านปอนด์

วันนี้ UfaArena จะพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับ เปร์โรเน่ ดาวรุ่งวัย 20 ปี รายนี้ว่าเขาเป็นใคร และทำไม แมนฯซิตี้ ถึงคว้าตัวเข้ามาร่วมทีม

เขาคือใคร ?

มักซิโม่ เปร์โรเน่ ก็เหมือนเด็กหนุ่มชาวลาตินทั่วไปที่มีความฝันอยากเป็นนักฟุตบอลอาชีพ เขาเกิดวันที่ 7 มกราคม 2003 ที่กรุงบัวโนสไอเรส เมืองหลวงของประเทศอาร์เจนติน่า เพิ่งจะฉลองวันเกิดครบรอบอายุ 20 ปี ไปไม่นาน

เขาถูกแมวมองของ เบเลซ ซาร์สฟิลด์ มาเจอตอนอายุเพียง 6 ขวบ แต่ตอนนั้นไม่สามารถดึงเข้ามาร่วมทีมได้เพราะอคาเดมี่ไม่มีทีมรุ่นอายุนี้ ทำให้เขาต้องไปอยู่กับ บีญ่า เดโวโต้ ทีมท้องถิ่นในเมืองบัวโนสไอเรส

จากนั้นเขาย้ายเข้าสู่ทีมเยาวชนของ เบเลซ ซาร์สฟิลด์ ในรุ่นอายุไม่เกิน 11 และขยับรุ่นมาเรื่อย ๆ โดยเริ่มต้นเล่นในตำแหน่งปีกและกองหน้า รวมไปถึงฟูลแบ็คและวิงแบ็คด้วย ก่อนจะจะถูก คริสเตียน โกเมซ โค้ชรุ่นอายุไม่เกิน 13 ปี พยายามให้เขาหัดเล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์ และก็พัฒนาจนยึดการเล่นในตำแหน่งนี้มาตลอด

โดยในช่วงเวลานั้นเขาทำผลงานได้อย่างโดดเด่น จนถูกเรียกตัวไปติดทีมชาติอาร์เจนติน่า รุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี จนไปถึง 20 ปี

กาเบรี่ยล อีวาน ไฮน์เซ่ อดีตแบ็คซ้ายของ “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่เคยคุมทัพ เบเลซ ซาร์สฟิลด์ ในช่วงระหว่างปี 2017-2020 เคยกล่าวถึงแข้งรายนี้สมัยที่ยังอยู่ในทีมเยาวชนว่าเป็นผู้เล่นที่โดดเด่นสุด ๆ

“มีเด็กอยู่คนหนึ่งในทีมอคาเดมี่ของเรา เขาเล่นได้อย่างน่าทึ่งมาก แต่ผมยังไม่เลือกให้เขาขึ้นมาในทีมชุดใหญ่ตอนนี้ เพราะเขายังเด็กมาก แต่มันเป็นการตัดสินใจที่ยากจริง ๆ นะ” ไฮน์เซ่ พูดถึง เปร์โรเน่ เมื่อปี 2020 ในตอนที่เขายังอายุ 17 ปี

ภายหลังจาก ไฮน์เซ่ อำลาทีมไป คนที่เข้ามาทำงานแทนไม่ใช่ใครที่ไหน เขาคือ เมาริซิโอ เปเยกริโน่ อดีตแนวรับของ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ผู้เคยเป็นผู้ช่วยของ ราฟาเอล เบนิเตซ รวมไปถึงการคุมทีม บาเลนเซีย และเซาธ์แฮมป์ตันได้เข้ามาทำงานแทน

ก่อนการถูกไล่ออกจากตำแหน่งเพียงแค่ 17 วัน เขาตัดสินใจดัน มักซิโม่ เปร์โรเน่ ขึ้นมาเล่นในทีมชุดใหญ่    ได้โอกาสลงประเดิมให้ เบเลซ ซาร์สฟิลด์ ชุดใหญ่ เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2022 พบกับ เอสตูเดียนเตส ในศึกโคปา ลิเบอร์ดอเรส พ่ายให้กับ เอสตูเดียนเตส 4-1 และในอีก 2 เดือนต่อมาก็ได้ลงเล่นเกมลีกนัดแรกในการพบกับ คลับ แอตเลติโก้ ปาโตรนาโต้

ประตูแรกของเขาในสีเสื้อของ เบเลซ ซาร์สฟิลด์ เกิดขึ้นในรายการโคปา ลิเบอร์ดอเรส ที่พบกับ นาซิอองนาล สโมสรจากอุรุกวัย หลังจากนั้นเขากลายเป็นตัวหลักของทีมภายใต้การคุมทัพของ ฮูลิโอ วัคคารี่ และอเล็กซานเดอร์ เมดิน่า

แค่ฤดูกาลเดียวย้ายสู่ยุโรป

หลังได้รับโอกาสลงเล่นในทีมชุดใหญ่ของ เบเลซ ซาร์สฟิลด์ ในเดือนมีนาคม ปี 2022 เขากลายเป็นที่เตะตาของบรรดาแมวมองจากสโมสรยุโรปที่เขาไปตามสเก๊าท์ผู้เล่นในแถบลาติน โดยเฉพาะ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ตามติดอย่างใกล้ชิด เพราะฝีเท้าถูกใจกุนซืออย่าง เป๊บ กวาร์ดิโอล่า ที่จะดูชื่นชอบดาวรุ่งรายนี้เป็นพิเศษ

ปกติแล้วนักเตะจากแดนลาตินก่อนจะย้ายเข้าสู่ลีกใหญ่ในยุโรปพวกเขามักจะไปชุบตัวกับลีกระดับเกรดบีอย่าง ในโปรตุเกส, ยูเครน หรือแม้แต่รัสเซีย

แต่ในดีลของ เปร์โรเน่ ไม่ได้เป็นแบบนั้น เขาตัดสินใจจรดปากกาย้ายมาอยู่กับ แมนฯซิตี้ ด้วยค่าตัว 8 ล้านปอนด์ เซ็นสัญญายาวถึงปี 2028 ถือว่าเป็นการเดินตามรอย ฮูเลี่ยน อัลบาเรซ และที่เพิ่งย้ายกับ ริเวอร์เพลท มาอยู่กับทีมเมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมา

ในรายของ อัลบาเรซ มาแล้วแจ้งเกิดได้ทันที การคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2022 กับทีมชาติอาร์เจนติน่า ด้วยการเป็นตัวหลักยิ่งตอกย้ำว่าเขาคือของจริง

เพราะมีผู้เล่นหลายรายที่ย้ายตรงมาจากดินแดนลาตินสู่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แต่ยังไม่สามารถแจ้งเกิดได้ไล่ตั้งแต่ เคย์กี้ (10 ล้านยูโร จาก ฟลูมิเนนเซ่ ปี 2021), นาฮูเอล บุสโตส (6.5 ล้านยูโร จากเตลเลเรส ปี 2020), ยาน คูโต้ (6 ล้านยูโร จาก คอร์ริติบา ปี 2020), ดาริโอ ซาร์เมียนโต้ (5 ล้านยูโร จากเอสตูเดียนเตส ปี 2021) รวมไปถึง ดีเอโก้ โรซ่า จากเกรมิโอ้ นักเตะเหล่านี้ยังไม่สามารถก้าวขึ้นมาเล่นชุดใหญ่ และถูกปล่อยให้หลายทีมในบ้านเกิดยืมตัว

สไตล์การเล่น?

สำหรับตำแหน่งการเล่นของ มักซิโม่ เปร์โรน่า เขาคือมิดฟิลด์ตัวรับ ที่ถือว่าเป็นตำแหน่งที่ต้องทำงานหนักต้องการตัดเกมรุกคู่แข่ง และออกบอลอย่างชาญฉลาดในแนวลึก จุดเด่นของเขาคือการเชื่อมเกมจากแดนหลังที่ทำได้อย่างยอดเยี่ยม มีการจ่ายบอลสั้นที่รวดเร็วและแม่นยำ แถมการเคลื่อนตัวของเขาก็ครอบคลุมไปทั่วทุกพื้นที่ของสนาม

หลายคนมองว่าเขามีสไตล์การเล่นที่คล้ายกับ เซร์คิโอ้ บุสเกตส์ มิดฟิลด์จอมเก๋าจากบาร์เซโลน่า รวมไปถึง เฟอร์นานโด กาโก้ แข้งรุ่นพี่ในทีมชาติที่เพิ่งแขวนสตั๊ดกับ เบเลซ ซาร์สฟิลด์ ไปเมื่อปี 2020

แต่ สก็อตต์ คริสเตนเซ่น ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับนักเตะในแถบลาตินของเว็บไซต์ Transfermarkt มองว่าเขามีความคล้ายกับ เฟอร์นานโด เรดอนโด้ อดีตมิดฟิลด์ของ เรอัล มาดริด ที่เป็นตัวคุมจังหวะเกมได้อย่างเนียนตาเล่นบอลสวยงาม ซึ่งถนัดเท้าซ้ายเหมือนกัน

“ผมคิดว่าเขาจะไปได้ไกลเมื่ออยู่ในมือของ เป๊บ กวาร์ดิโอล่า เพราะเขามีทั้งพรสวรรค์และวิสัยทัศน์ที่ดีในการจ่ายบอล แถมยังมีทักษะที่ยอดเยี่ยม มีความเป็นผู้นำ รับบทบาทกัปตันทีมในระดับเยาวชน และขึ้นเล่นในทีมชุดใหญ่ไปกว่า 50 เกม” คริสเตนเซ่น กล่าว

“อีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจของเขาคือการเล่นลูกกลางอากาศ แม้ว่าสูงไม่ถึง 6 ฟุตก็ตาม เขาเคยเล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรุกในระดับเยาวชน ผมคิดว่าเขามีความคล้ายกับ เฟอร์นานโด เรดอนโด้ เพราะตำแหน่งการยืนเหมือนจะเป็นมิดฟิลด์ตัวรับ แต่สามารถทำได้ทุกอย่าง”

เล่นตรงไหนกับแมนฯซิตี้

ระบบการเล่นของ แมนฯซิตี้ ภายใต้การคุมทีมของ เป๊บ กวาร์ดิโอล่า ส่วนใหญ่จะเล่น 4-3-3 หรือ 4-2-3-1 เป็นหลัก แต่ในปัจจุบันมีรูปแบบการขึ้นเกมรุกที่เปลี่ยนไป โดยใช้ฟูลแบ็คขยับเข้ามาเชื่อมเกมตรงกลางมากขึ้น หากมองไปที่คู่แข่งของเขาในตำแหน่งนี้ ปัจจุบันคือ โรดรี้ เอร์นานเดซ รวมไปถึงคัลวิน ฟิลิปป์ส  แต่ถ้าต้องเปลี่ยนบทบาท เปร์โรเน่ ก็สามารถขยับไปยืนแนบทางซ้ายซึ่งเป็นตำแหน่งของ อิลคาย กุนโดกัน และแบร์นาร์โด้ ซิลวา ได้เช่นกัน

แต่เมื่อพิจารณาจากความเป็นจริงโอกาสของเขาในช่วงที่เหลือของฤดูกาลนี้ อาจจะมีน้อยไม่แน่เหมือนกันว่า แมนฯซิตี้ อาจจะส่งไปชุบตัวกับทีมในเครือ “ซิตี้ กรุ๊ป” ของพวกเขาอย่าง นิว ยอร์ค ซิตี้ เอฟซี สโมสรในเมเจอร์ลีก ซ็อคเกอร์ส สหรัฐอเมริกา รวมไปถึง บาเอีย ในลีกบราซิล

ซึ่งตัวเลือกในสหรัฐอเมริกา ถือว่าน่าสนใจ เพราะมีตัวอย่างให้เห็น เพื่อนร่วมรุ่นของเขาในทีม เบเลซ ซาร์สฟิลด์ อย่าง ติอาโก้ อัลมาด้า ก็ไปโด่งดังกับ แอตแลนต้า ยูไนเต็ด จนมีชื่อติดทีมชาติอาร์เจนติน่า เป็น 1 ใน 26 ขุนพลคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกมาแล้ว

จากนี้ไปก็ต้องรอดูกันว่าอนาคตของเขาเมื่อย้ายมาอยู่กับ แมนฯซิตี้ จะเป็นอย่างไร จะต้องใช้เวลาสะสมประสบการณ์หลายปีแบบผู้เล่นคนอื่น ๆ หรือโผล่พรวดสอดแทรกในทีมชุดใหญ่ได้แบบ ฮูเลี่ยน อัลบาเรซ ต้องไปรอติดตามกัน