เปิดตัวไม่สวย : 10 แข้งประเดิมต้นสังกัดใหม่ด้วยผลงานสุดพัง

 

การได้ทำหรือมีสิ่งต่างๆที่เป็นของตัวเองครั้งแรกเป็นอะไรที่พิเศษเสมอ ทั้งรักครั้งแรก, จูบแรก, อาชีพแรก, เงินเดือนก้อนแรก และการประเดิมสนามในเกมฟุตบอลครั้งแรกก็ไม่ต่างกัน

 

ไม่ว่าจะเป็นลงเล่นเกมอาชีพนัดแรกหรือประเดิมสนามให้กับต้นสังกัดใหม่ นักเตะหลายคนคงหวังให้การลงเล่นเกมครั้งของพวกเขาเป็นเกมที่ดี แต่ก็ใช่ว่าจะสมหวังกันทุกคน เพราะมีไม่น้อยที่ต้องพบกับเรื่องแย่ๆตั้งแต่เล่นเกมแรกให้กับทีมใหม่ของตัวเอง เช่น เฟเดริโก้ เคียซ่า ที่เป็นรายล่าสุด หลังโดนใบแดงตั้งแต่เกมแรกที่เล่นให้ ยูเวนตุส ในเกมเสมอ โครโตเน่ 1-1 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา

 

และนี่คือ 10 ตัวอย่างนักเตะในวงการลูกหนังที่เจอกับฝันร้ายที่ยากจะลืมตั้งแต่เกมเดบิวต์กับทีมใหม่หรืออาชีพค้าแข้ง

 

 

ริโอ เฟอร์ดินานด์ | ลีดส์ ยูไนเต็ด (2000)

 

 

ทีมยูงทองคว้าตัว เฟอร์ดินานด์ จากเวสต์แฮม ด้วยค่าตัว 18 ล้านปอนด์ ซึ่งทำให้เขากลายเป็นนักเตะที่มีค่าตัวสูงที่สุดในวงการฟุตบอลอังกฤษ แต่เกมนัดแรกที่พบกับ เลสเตอร์ ซิตี้ ไม่ใช่สิ่งที่เขาคาดหวังแม้แต่น้อย

 

การโดนแฟนบอลตะโกนด่าท่อเป็นดีลที่ไม่คุ่มค่า ผลาญเงินสโมสร ก็เจ็บช้ำพอแล้ว แต่ผลงานในสนามกลับแย่กว่านั้น เมื่อลีดส์ตามหลังคู่แข่ง 3-0 ตั้งแต่ 29 นาทีแรก แม้จะยิงประตูปลอบใจได้ แต่ก็ไม่ได้ช่วยให้ทีมรอดพ้นจากความพ่ายแพ้ได้

 

อย่างไรก็ตาม การประเดิมสนามสุดแย่ในวันนั้นก็ไม่สามารถหยุดให้ เฟอร์ดินานด์ กลายเป็นยอดปราการหลังระดับโลกในเวลาต่อมา

 

 

โจนาธาน วู้ดเกต | เรอัล มาดริด (2005)

 

 

หนึ่งในเกมประเดิมสุดห่วยที่ยังติดตราตรึงใจแฟนบอลเมื่อ 10 กว่าปีก่อนได้เป็นอย่างดี กับนัดแรกของ โจนาธาน วู้ดเกต ในสีเสื้อเรอัล มาดริด 

 

กองหลังชาวอังกฤษ ย้ายจาก นิวคาสเซิล ไปร่วมทีมยักษ์ใหญ่ในสเปน ด้วยค่าตัว 13.4 ล้านปอนด์ จาก นิวคาสเซิล ในปี 2004 แต่เนื่องจากอาการบาดเจ็บทำให้เขาพักฟื้นอยู่นานสองนาน และกว่าจะได้ลงเล่นนัดแรกให้ทีมก็ปาเข้าไปปี 2005 ในเกมพบ แอธเลติก บิลเบา

 

วู้ดเกต ยิงเข้าประตูตัวเองพร้อมโดนใบเหลืองในครึ่งแรก ก่อนที่จะโดนใบเหลืองที่ 2 ในนาทีที่ 65 และแม้จะได้รับเสียงเชียร์จากแฟนราชันชุดขาว เขาก็ไม่สามารถทำผลงานที่ดีได้เลยใน เบอร์นาเบว โดยมีปัญหาอาการบาดเจ็บที่รบกวนตลอดอาชีพเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เขาล้มเหลวในสเปน

 

 

อาลี เดีย | เซาแธมป์ตัน (1996)

 

 

หลายคนยกให้นี่คือหนึ่งในการประเดิมสนามสุดแปลกประหลาดที่สุดในวงการกับเรื่องราวของ แกรม ซูเนสส์ และ อาลี เดีย ในปี 1996 

 

ทีมนักบุญที่กำลังประสบปัญหาขาดแคลนกองหน้า ซูเนสส์ ที่ทำหน้าเป็นกุนซือได้รับสายจาก จอร์จ เวอาห์ ตำนานแข้งชาวไลบีเรีย ที่แนะนำให้คว้า เดีย ผู้เป็นญาติของเขามาร่วมทีม และอดีตกองหลังลิเวอร์พูล ก็คว้ามาร่วมทีมจริงๆ โดยส่งลงเล่นเป็นตัวสำรองเกมพบ ลีดส์ 

 

ทว่า 10 นาทีในสนาม ชัดเจนว่า เดีย คงคุ้นเคยการดูบอลในผับมากกว่าการลงเล่นฟุตบอลจริงๆ พร้อมกับถูกเปลี่ยนตัวออกในเวลาต่อมา และต่อมา เวอาห์ ก็ยอมรับว่าเขาไม่รู้จักใครที่ชื่อ อาลี เดีย เลย

 

 

โฆเซ่ อันโตนิโอ เรเยส | อาร์เซน่อล (2004)

 

 

เรเยส ได้ลงเล่นนัดแรกเป็นตัวสำรองในเกมที่เอาชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แบบสบายเท้าไปแล้ว แต่นัดแรกที่เขาได้เป็นตัวจริงคือเกมพบ มิดเดิ้ลสโบรห์ ปีกชาวสแปนิช ยิงเข้าประตูตัวเอง และค่าตัว 17 ล้านปอนด์ ทำให้หลายคนมองว่านี่อาจเป็นการซื้อที่ผิดพลาดอีกครั้งของ อาร์เซน เวนเกอร์

 

อาร์เซน่อล คว้าแชมป์ไร้พ่ายได้ แต่ เรเยส ก็ตกอยู่ในร่มเงาของ เธียรร์รี่ อองรี และ เดนนิส เบอร์กแคมป์ 2 ดาวยิงสโมสร แม้เริ่มผลงานได้ดีขึ้นในฤดูกาลต่อมา แต่ก็ทำไม่ได้ตลอดรอดฝั่ง ก่อนจะถูกปล่อยให้ เรอัล มาดริด ยืมไปใช้งานในปี 2006 โดยอ้างว่าตนคิดถึงบ้านเกิด

 

 

เฮนริค ลาร์สสัน | เซลติก (1997)

 

 

ใครๆต่างยกให้ ลาร์สสัน เป็นตำนานดาวยิงของ กลาสโกว เซลติก ที่พาทีมคว้าแชมป์มากมายตลอด 7 ปีในถิ่นเซลติก ปาร์ค แต่การประเดิมสนามนัดแรกกับทีมยักษ์ใหญ่แดนสกอตดูผิดแปลกไปพอสมควร 

 

หอกชาวสวีดิช ลงเล่นนัดแรกเกมพบ ฮิเบอร์เนียน โดยถูกเปลี่ยนลงไปเล่นช่วงท้ายเกม ก่อนจะจ่ายบอลให้กับ ชิค ชาร์เนลี่ นักเตะคู่แข่งยิงประตูชัยให้ทีมพ่าย 2-1 และเกมนัดแรกในยุโรปก็ไม่ได้ดีไปกว่าเดิมนัก เมื่อยิงเข้าประตูตัวเองเกมพบ เอฟซี ไทรอล อินส์บรุค แม้จะชนะไป 6-3

 

 

ลิโอเนล เมสซี่ | อาร์เจนติน่า (2005)

 

 

นักเตะแห่งยุคอย่าง ลิโอเนล เมสซี่ ก็เคยเจอฝันร้ายกับนัดแรกในทีมชาติเช่นกัน หลังจากเป็นฮีโร่ของทัพฟ้าขาวชุดเล็กคว้าแชมป์เยาวชนโลก ทำให้เขาได้โอกาสติดทีมชาติชุดใหญ่เป็นครั้งแรกในปีเดียวกัน ด้วยวัยเพียง 18 ปี ซึ่งมี โฮเซ เปเกร์มัน เป็นกุนซืออยู่ ณ ตอนนั้น โดยเขาได้ประเดิมสนามเป็นนัดแรกในเกมอุ่นเครื่องที่พบกับฮังการี

 

เมสซี่ถูกเปลี่ยนตัวลงไปในนาทีที่ 63 แทนที่ ลิซานโดร โลเปซ และหลังจากที่สัมผัสฟลอร์หญ้าได้แค่ 2 นาที เขาเหวี่ยงแขนใส่ไปโดน วิลมอส วานช์ซัค แบ็คของฮังการีที่พยายามฉุดกระชากลากดึงอย่างชัดเจน

 

แต่ทว่ากรรมการในเกมนั้นมองว่า ดาวรุ่งชาวอาร์เจนไตน์เจตนาทำร้ายคู่แข่งทำให้เขาได้รับใบแดงไล่ออกจากสนามทันที และมีรายงานหลังเกมนั้นว่า เมสซี่ผิดหวังมากถึงขั้นร้องไห้ในห้องแต่งตัวเลยทีเดียว 

 

 

ซลาตัน อิบราฮิโมวิช | เอซี มิลาน (2010)

 

 

ต่อให้เป็นนักเตะที่มีความมั่นใจมากแค่ไหน ก็มีช่วงที่ฟ้าไม่เป็นใจให้ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช เช่นกันกับเกมนัดแรกในสีเสื้อของเอซี มิลาน ในเกมพบ เซเซน่า เดือนสิงหาคมปี 2010 

 

นัดแรกของ เซเรียอา ในฤดูกาล 2010-11 รอสโซเนรี่ พลิกล็อคโดน เซเซน่า ขึ้นไปถึง 2-0 ซึ่งในช่วงท้าย มิลาน มีโอกาสไล่ตามมาหลังได้จุดโทษในนาทีที่ 88 แต่สุดท้ายกับเป็นหัวหอกชาวสวีดิชที่ยิงพลาด ส่งผลให้ทีมพ่ายไป 2-0 

 

อย่างไรก็ตาม ซลาตัน ก็พาปีศาจแดงดำคว้าแชมป์สคูเด็ตโต้ในฤดูกาลนั้นมาครอง โดยยิงไป 14 ประตู จาก 29 นัดในลีก ซึ่งจริงๆควรนับได้ 15 ลูกด้วยซ้ำไปถ้าหากเขายิงจุดโทษครั้งนั้นเข้าไปตุงตาข่ายนะ

 

 

เกลน คีลี่ย์ | เอฟเวอร์ตัน (1982)

 

 

การทำผลงานให้ดีตั้งแต่นัดประเดิมสนามก็ยากเอาการแล้ว แต่มันยากกว่าเดิมเท่าตัวเมื่อต้องลงเล่นเกมแรกในศึกดาร์บี้ และนั่นคือสิ่งที่ เกลน คีลี่ย์ ประสบพบเจอมากับ เอฟเวอร์ตัน

 

เขาลงเล่นให้กับ ท็อฟฟี่สีน้ำเงิน เกมเมอร์ซี่ย์ไซด์ ดาร์บี้ พบ ลิเวอร์พูล และโดนไล่ออกไปตั้งแต่ครึ่งชัวโมงแรกของเกม ก่อนทีมจะพ่ายไปเละเทะ 5-0 และกองหลังชาวอังกฤษก็ไม่เคยลงเล่นในกูดิสัน ปาร์ค อีกเลย

 

 

เจสัน โครว์ | อาร์เซน่อล (1997)

 

 

แบ็คขวาชาวอังกฤษ เริ่มต้นอาชีพค้าแข้งกับ อาร์เซน่อล แต่ก็ไม่สามารถขึ้นมาเล่นในชุดใหญ่ได้เพราะมี ลี ดิ๊กสัน ที่ครองตำแหน่งตัวหลักในทีมอยู่ แต่เขาก็ลงเล่นชุดใหญ่ครั้งแรกในเกมลีก คัพ พบ เบอร์มิ่งแฮม เดือนตุลาคมปี 1997

 

ทว่า โครว์ มีโอกาสอยู่ในสนามเพียง 33 นาทีเท่านั้น หลังผู้ตัดสินแจกใบแดงให้โทษฐานยกเท้าสูง มาร์ติน โอคอนเนอร์ แข้งลูกโลก ทำให้นั่นกลายเป็นการไล่ออกที่รวดเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลอังกฤษ ซึ่งเขาได้ลงเล่นให้ปืนใหญ่อีก 2 นัด ก่อนจะปล่อบให้ คริสตัล พาเลซ ยืมตัวในปี 1998 และขายขาดให้ ปอร์ทสมัธ ในปี 1999 

 

 

สแตนลี่ย์ มิลตัน | ฮาลิแฟกซ์ (1934)

 

 

รายนี้อาจจะเก่าเกินไปกว่าที่ใครหลายคนจะจดจำได้ แต่น่าจะเป็นคนที่เจ็บช้ำมากที่สุดในการประเดิมสนามให้กับสโมสรของลิสต์นี้ เมื่อ สแตนลี่ย์ มิลตัน ลงเฝ้าเสานัดแรกให้กับ ฮาลิแฟกซ์ ทาวน์ เกมพบ สต็อคพอร์ท ในปี 1934

 

ครึ่งแรกจบลงด้วยสกอร์ที่ ฮาลิแฟกซ์ ตามหลัง 2-0 ซึ่ง มิลตัน อาจคิดว่าคงไม่มีทางแย่ไปกว่านี้แล้ว แต่ท้ายที่สุดหลังเเกมจบ 90 นาที ทีมของเขาพ่ายไปถึง 13-0 และกลายเป็นความพ่ายแพ้ที่ย่อยยับที่สุดในประวัติศาสตร์เกมลีกอังกฤษจนถึงทุกวันนี้