เรามาอย่างสันติ! 8เหตุการณ์แฟนบอลประท้วงสโมสร

 

การชุมนุมอย่างสันติที่เพิ่งเกิดขึ้นที่บ้านเรา ถ้าหากเทียบกับในวงการฟุตบอลแล้ว ดูจะเป็นเรื่องปกติที่เวลาแฟนบอลไม่พอใจอะไรสักอย่างนึง ก็มักจะแสดงออกด้วยการประท้วงตามแต่วิธีกันไป แม้บางครั้งจะลุกลามจนมีผู้บาดเจ็บ หรือกลายเป็นโศกนาฎกรรมด้วยซ้ำ

 

แต่ในคราวนี้ UFA ARENA จะพาไปดูการประท้วงแบบสันติปราศจากความรุนแรงในโลกลูกหนังว่าจะมีความสร้างสรรค์อย่างไรกันบ้าง

 

ดอร์ทมุนด์ -ประท้วงด้วยลูกเทนนิส -ค่าตั๋วแพง/เลื่อนแข่ง

ย้อนไปในปี 2016เกมที่เสือเหลืองเจอกับ สตุ๊ดการ์ท ในศึก เดเอฟเบ โพคาล ซึ่งเป็นการต้องออกไปเยือนฝ่ายตรงข้าม เกิดประเด็นขึ้นเมื่อเจ้าบ้านตั้งราคาค่าตั๋วแบบขูดเลือดขูดเนื้อแฟนดอร์ทมุนด์เกินไป พวกเขาจึงตัดสินใจประท้วงที่ตอนแรกก็ดูปกติดี แต่อยู่ๆในนาทีที่ 20ของการแข่งขันพวกเขาก็จัดการโยนลูกเทนนิสลงมาเต็มสนามไปหมด เพื่อสื่อว่าค่าตั๋วที่แพงขนาดนี้คงมีแต่แฟนเทนนิสเท่านั้นที่จะเข้ามาชมการแข่งขันได้

 

การประท้วงด้วยลูกเทนนิสยังมีอีกครั้งซึ่งเพิ่งเกิดเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมานี้เอง ในเกมที่เสมอ เนิร์กแบร์ก 0-0 ช่วงครึ่งเวลาแรก เหล่าแฟนบอลไม่ได้หัวร้อนเรื่องผลการแข่งขันแต่อย่างใด แต่ไม่พอใจเรื่องการโดนเลื่อนเกมมาเตะวันจันทร์ซึ่งสร้างความลำบากให้แฟนๆที่จะมาดูที่สนาม ก็จัดการปาลูกเทนนิสสีดำลงมาที่สนาม ซึ่งคนที่รับเคราะห์กลับเป็นสตาร์ของทีมอย่าง จาดอน ซานโช่ ที่ยืนอยู่บริเวณที่มีการปาบอลลงมา

 

ลิเวอร์พูล -ประท้วงเรื่องค่าตั๋วขึ้นราคา

 

 

เรื่องของปัญหาตั๋วแพงถือเป็นปัญหาใหญ่สำหรับแฟนบอล ย้อนกลับไปในปี 2016ระหว่างเกมลิเวอร์พูล เปิดบ้านพบกับ ซันเดอร์แลนด์ ช่วงนาทีที่ 77 เหล่าแฟนบอลรวมตัวกันเดินออกจากสนามเพื่อประท้วงที่สโมสรขึ้นราคาค่าตั๋วในฤดูกาลถัดไป จากเดิม 59ปอนด์ ขึ้นเป็น 77ปอนด์ ส่วนตั๋วรายปีก็ปรับเป็น 1000ปอนด์ จากเดิม 869ปอนด์ สร้างความไม่พอใจให้เหล่าเดอะค็อปกันทั่วหน้า พร้อมกับมีป้ายแบนเนอร์ชูด้วยข้อความว่า”ฟุตบอลที่ไม่มีแฟนบอลมันก็ไม่เหลืออะไรแล้ว”

 

ซึ่งนอกจากกลุ่มแฟนๆแล้วยังมี เจมี่ คาราเกอร์ อดีตนักเตะของทีมก็ออกมาสนับสนุนการประท้วงในครั้งนี้ด้วย เนื่องจากมองว่าเป็นการขึ้นราคาอย่างไม่เป็นธรรม และแพงจนเกินไป จนในท้ายที่สุดทางบอร์ดบริหารของสโมสรก็ตัดสินใจล้มแผนขึ้นค่าตั๋วพร้อมออกมาขอโทษแฟนบอล 

 

แมนฯยู -จ้างเครื่องบินไล่มอยส์/ไล่เอ็ด/ไล่ตระกูลเกลเซอร์

 

 

ดูจะเป็นเรื่องที่ชินตาไปแล้วสำหรับทีมจากอังกฤษโดยเฉพาะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่มักจะประท้วงบุคคลที่พวกเขาไม่พอใจผ่านการขึ้นป้ายไล่ทางเครื่องบิน ซึ่งคนที่โดนทำแบบนี้เป็นคนแรกก็คือ เดวิด มอยส์ ผู้จัดการทีมชาวสก๊อตที่มารับช่วงต่อจาก เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน แต่ทำผลงานได้ไม่ค่อยดีนักจากการพาทีม ชนะ12 เสมอ 6 แพ้ 10 นัดในลีก จนเกมที่เปิดบ้านเจอกับ แอสตันวิลล่า ก็มีแฟนบอลจ้างเครื่องบินติดป้ายข้อความว่า Wrong one-Moyes out หรือ “คนที่ผิด – มอยส์ออกไป” ซึ่งตามรายงานระบุว่าต้องรวมเงินราว 840 ปอนด์เพื่อขึ้นป้ายครั้งนี้

 

โดยนี้ไม่ใช่เหตุการณ์เดียวที่เกิดขึ้นเพราะเมื่อฤดูกาลที่แล้ว ก็มีเครื่องบินติดป้ายไล่ เอ็ด วู้ดเวิร์ด CEO ของทีมด้วยข้อความว่า “เอ็ด วู้ดเวิร์ด ผู้เชี่ยวชาญด้านความล้มเหลว” เพื่อเป็นการตำหนิการบริหารงาน รวมถึงตระกูลเกลเซอร์ที่เป็นเจ้าของทีมก็เพิ่งโดนไปหมาดเมื่อช่วงต้นซีซั่นที่ผ่านมากับข้อความ “ตระกูลเกลเซอร์ออกไป”

 

บาเยิร์น -ประท้วงอาร์เซน่อลขึ้นค่าตั๋วทีมเยือน

 

 

คงไม่ใช่เรื่องแปลกหากว่าสโมสรจะเก็บค่าเข้าชมเกมของแฟนบอลฝั่งตรงข้ามมากกว่าหน่อย แต่ในกรณีนี้มันมากเกินไปจนเกินพอดี ย้อนกลับไปในฤดูกาล 2015/16 บรเวทีแชมเปี้ยนส์ลีกที่ บาเยิร์น มิวนิค ต้องบุกมาเยือนอาร์เซน่อล เกิดการประท้วงของกลุ่มแฟนบอลทีมเยือนในเรื่องของการเก็บค่าตั๋วที่แพงเกินไปด้วยการเข้าสนามล่าช้ากว่าเกมการแข่งขัน 5นาที พร้อมกางป้ายแบนเนอร์ข้อความว่า “ค่าตั๋วราคา 64 ปอนด์,ถ้าหากแฟนบอล ฟุตบอลก็ไม่มีค่าอะไร” 

 

ต้นสายปลายเหตุมันเกิดมาจากทัพปืนโตที่เรียกเก็บค่าตั๋วทีมเยือนแพงถึง 64ปอนด์(3,500บาท) ซึ่งรวมกับค่าธรรมเนียมต่างๆแล้วก็จะอยู่ที่ 74ปอนด์(4,050บาท) ถ้าหากเทียบกับที่ทางบาเยิร์นเก็บแล้วจะอยู่ที่ราวๆ 30ยูโร(1,200บาท) และแพงสุดก็แค่ 100ยูโร(4,000บาท)เท่านั้น ทำให้จากมุมมองของแฟนเสือใต้จะรู้สึกเหมือนโดนเอาเปรียบไม่น้อย

 

อลาเบส -แบกโลงศพ ประท้วงเลื่อนแข่ง

 

 

การแข่งขันฟุตบอลใครๆก็อยากไปชมกันวันอาทิตย์ที่เป็นวันหยุด แต่เมื่อโดนเลื่อนมาแข่งวันจันทร์ ความไม่พอใจน่อมเกิดขึ้น โดยเรื่องราวในครั้งนี้เกิดบนเวทีลาลีก้าสเปนคู่ระหว่าง อลาเบส พบกับ เลบันเต้ เหล่าแฟนบอลนัดกันสวมชุดดำ เข้าสนามช้ากว่าเวลา 5นาที และมีการแบกโลงศพขึ้นมาบนอัฒจันทร์ พร้อมข้อความว่า RIP football เพื่อเป็นการจิกกัดการกระทำเพื่อเงินของสมาคมฟุตบอล

 

สำหรับสาเหตุของการเลื่อนแข่งจนกลายเป็นปัญหาในครั้งนี้เกิดขึ้นจากการที่ทางลีกต้องการได้เงินจากค่าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดในวันจันทร์ จนต้องเลื่อนเกมจากวันหยุดสุดสัปดาห์มาสร้างความลำบากให้กับแฟนบอลที่ตั้งใจไปดูที่สนาม นอกจากนี้กรณีดังกล่าวเคยเกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้แล้วในเกมกับ แอธเลติก บิลเบา กับการโดนเลื่อนการแข่ง ทำให้แฟนบอลต้องมาแสดงออกในเกมนี้

 

ราโย บาเยกาโน่ -ประท้วงโดนเลื่อนแข่งบ่อย

 

 

ยังอยู่กับในกรณีเลื่อนแข่งแถมยังเป็นลีกเดิมเสียด้วย กับแฟนบอลของราโย บาเยกาโน่ ที่ออกมาประท้วงในกรณีเดียวกัน แต่เหตุผลในการโดนเปลี่ยนเวลาเตะมาเป็นวันจันทร์ของพวกเขาคือการที่ต้องการให้ บาร์เซโลน่า และ เรอัล มาดริด 2 ทีมยักษ์ใหญ่ของประเทศเตะกันในช่วงสุดสัปดาห์ได้ ซึ่งมันเกิดขึ้นหลายครั้งจนแฟนๆเริ่มทนไม่ไหวต้องออกมาแสดงความไม่พอใจด้วยการให้แฟนบอลเกือบทุกคนออกจากอัฒจันทร์ด้านหลังของปากประตู และให้มีเพียงกองเชียร์เหลืออยู่ไม่กี่คนที่แต่งตัวเป็นตัวละครจาก ซิมพ์สันส์ การ์ตูนชื่อดัง พร้อมกับมีการเขียนข้อความบนป้ายแบนเนอร์อีกว่า “เบาๆ หน่อยสิ นี่มันเวลานอนนะ ไม่ใช่เวลาเตะบอล”

 

มักเดเบิร์ก -ประท้วงนักเตะทำประตูไม่ได้เลย5นัดติด

 

 

อดีตทีมที่เคยยิ่งใหญ่ในช่วงยุค 70 ที่มีกรรมต้องระเห็ดลงไปเล่นอยู่ลีกล่างในปี 2011/12 พวกเขาไม่สามารถทำประตูคู่แข่งได้เลยมา 5นัดติดๆกันแล้ว ทั้งที่อยู่ในลีก 4ของเยอรมัน จนแฟนบอล อดรนทนไม่ไหวต้องออกมาประท้วงเชิงประชดฟอร์มของนักเตะในทีมด้วยการ ทำป้ายลูกศรไปยืนอยู่หลังประตูของฝั่งตรงข้าม พร้อมชี้ไปที่ประตูโดยมีข้อความบนแบนเนอร์กำกับว่า “ไม่ต้องห่วงพวกเราจะชี้ให้เห็นเองว่าประตูมันอยู่ตรงไหน” ซึ่งการกระทำดังกล่าวมันก็ส่งผลที่ไม่น่าเชื่อเมื่อกองหน้าของทีมสามารถปลดล๊อคทำประตูได้จริงๆ นับเป็นการประท้วงที่หยิกแก้มหยอกแล้วได้ผลดีที่เดียว

 

 

แบล็คเบิร์น -ปล่อยไก่ลงสนามประท้วงทีมตกชั้น

 

 

ความคับแค้นใจของแฟนบอลกุหลาบไฟที่ต้องเห็นทีมรักกลายสภาพจากทีมแชมป์กลายเป็นทีมตกชั้นในฤดูกาล2011/12 เนื่องจากการบริหารทีมอันย่ำแย่ของกลุ่มทุน เวนกี้ส์ โดยนัดที่เจอกับวีแกนซึ่งเป็นเกมก่อนสุดท้าย ซึ่งพวกเขาต้องตกชั้นแน่แล้ว ก็มีแฟนบอลรายนึง ปล่อยไก่ที่ห่มธงของสโมสรลงมาในสนาม เพื่อจิกกัดกลุ่มทุน เวนกี้ส์ ที่มีธุรกิจเกี่ยวกับไก่ แถมเกมในวันนั้นพวกเขาก็เป็นฝ่ายแพ้ด้วยสกอร์ 1-0 อีกด้วย เรียกว่าเป็นการประท้วงที่แฝงด้วยความเศร้าไม่น้อย จนมาถึงปัจจุบัน กุหลาบเพลิงก็ยังไม่ได้เลื่อนชั้นมาเล่นบนเวทีพรีเมียร์ลีกอีกเลยนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา