เร็วไปมั้ย : 10 แข้งดังโบกมือลาทีมชาติก่อนวัยอันควร

เร็วไปมั้ย : 10 แข้งดังโบกมือลาทีมชาติก่อนวัยอันควร

นักเตะหลายคนอาจประสบความสำเร็จอย่างมากในอาชีพค้าแข้ง แต่ก็ไม่ได้ความว่าแข้งดังทุกคนจะประสบความสำเร็จ ทั้งในระดับสโมสรและทีมชาติด้วย

ในประวัติศาสตร์ของฟุตบอล มีผู้เล่นมากมายที่โดดเด่นยามเล่นในต้นสังกัด แต่เมื่อมารับใช้ชาติบ้านเกิด กลับไปไม่สุด หรือไม่สามารถรักษาฟอร์มการเล่นได้จนประกาศเลิกเล่นทีมชาติไปในที่สุด หรือบางคนอาจประสบความสำเร็จกับทีมชาติเช่นกัน แต่สุดท้ายก็เลือกหันหลังให้ชาติด้วยเหตุผลส่วนตัวที่พอฟังขึ้น หรือแม้แต่เหตุผลแปลกๆก็ยังมี

และวันนี้ UFA ARENA จะพาไปพบกับ 10 แข้งดังโบกมือลาทีมชาติก่อนวัยอันควร ซึ่งบางคนเลือกกลับมาเล่นในภายหลัง แต่ส่วนใหญ่ก็ลาแล้วลาลับไม่กลับมาเลย

 

1.ลิโอเนล เมสซี่ (29 ปี)

Argentina 2-1 Australia: Lionel Messi sparkles in 1000th game as his side book Netherlands World Cup showdown - Eurosport

แม้เมสซี่จะซัดไป 94 เม็ด จาก 169 นัด เป็นดาวซัลโวสูงสุดคนปัจจุบันของอาร์เจนติน่า แต่ช่วงเวลาร่วม 10 กว่าปีเขาต้องพบกับความผิดหวังมาโดยตลอดกับการเล่นให้ทีมบ้านเกิด

หลังจากพลาดจุดโทษในนัดชิงโคปา อเมริกา 2016 ดาวเตะจากบาร์เซโลน่าก็ออกมาประกาศให้โลกรู้ว่า เขาพอแล้วกับทีมชาติหลังจากที่รับใช้มา 11 ปี และยอมรับว่าเจ็บปวดที่ไม่ได้แชมป์เลย

เส้นทางในทีมชาติกับสโมสรของดาวเตะร่างเล็ก ต่างกันราวฟ้ากับดิน ในทีมชาตินั้นโดนใบแดงตั้งแต่นัดแรกหลังไปศอกใส่ผู้เล่นฮังการี และร้องไห้หลังเกมในห้องแต่งตัวของทีม จากนั้นอีก 11 ปีต่อมา เขาก็ออกจากสนามด้วยภาพที่ไม่ต่างกันนัก

อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้น เมสซี่ กลับมารับใช้บ้านเกิดอีกครั้งเพื่อสู้ศึกในบอลโลกปี 2018 แต่ก็โดนว่าที่แชมป์อย่าง ฝรั่งเศส บดชนะไป 4-3 ในรอบ 16 สุดท้าย ก่อนมาสมหวังคว้าแชมป์กับทีมชาติในศึกโคปา อเมริกา เมื่อปี 2021 ที่ผ่านมาและหวังว่าบอลโลกครั้งสุดท้ายที่ กาตาร์ เขาจะพาทัพ ฟ้าขาว ไปถึงฝั่งฝันได้เสียที

 

2.แกร์ด มุลเลอร์ (28 ปี)

The greatest striker': Gerd Müller, legendary German forward, dies aged 75 | Germany | The Guardian

เจ้าของฉายา ‘ไอ้ลูกระเบิด’ ทำสถิติสุดเหลือเหลือเชื่อหลังซัดไป 68 ตุง จาก 62 นัดให้เยอรมันตะวันตก นอกจากนี้ยังยิงประตูสำคัญให้ทีมชาติคว้าแชมป์ยูโร 1972 และ ฟุตบอลโลก 1974 อีกด้วย

แม้มุลเลอร์จะเล่นในฟุตบอลโลกแค่ 2 ครั้ง (1970,1974) แต่ก็สามารถครองสถิติยิงประตูมากที่สุดตลอดกาลในบอลโลก 14 ประตู ถึง 32 ปี ก่อนจะถูกโรนัลโด้และมิโรสลาฟ โคลเซ่ ทำลายได้ในปี 2002 และ 2014 ตามลำดับ

ส่วนสาเหตุที่อดีตแข้งดังบาเยิร์น มิวนิคเลิกเล่นให้ทีมชาตินั้น เป็นเพราะภรรยาของเขาไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมงานเลี้ยงทีมชาติหลังคว้าแชมป์โลกได้….แค่นั้นเอง

 

3.อลัน เชียเรอร์ (29 ปี)

Greats Of The Game - Alan Shearer 1998 Striker Alan Shearer in...

มากันที่ดาวยิงสูงสุดอันดับ 8 ของอังกฤษ หลังจากที่ประเดิมสนามให้ทัพ ‘ทรี ไลอ้อนส์’ ในวัย 22 ปี หลายคนมองว่า เชียเรอร์ จะช่วยผลิดประตูตลอดการลงเล่นของเขาให้อังกฤษไปอีกนาน 

แต่ความล้มเหลวในฟุตบอลโลกปี 1994 ทำให้อีก 2 ปีต่อมา เชียเรอร์และเพื่อนร่วมทีมในทีมชาติต้องแบกรับความกดดันในยูโร 1996 ที่อังกฤษเป็นเจ้าภาพ แถมประตูล่าสุดที่เจ้าตัวยิงคือนัดที่เจอกับสหรัฐอเมริกาในเดือนกันยายนปี 1994 

อย่างไรก็ตาม ดาวยิงจาก นิวคาสเซิ่ล กลายเป็นดาวซัลโวในรายการนั้น 5 ลูก รวมทั้งกัปตันนำทัพ ‘สิงโตคำราม’ ในบอลโลกปี 1998 ที่ฝรั่งเศส พร้อมกดไป 2 ลูก แต่ด้วยปัญหาอาการบาดเจ็บที่มี ทำให้เจ้าตัวประกาศว่ายูโร ปี 2000 จะเป็นทัวนาเมนต์สุดท้ายของเขากับอังกฤษแล้ว 

และถึงแม้ว่าจะกลับลำมาเล่นให้บ้านเกิดในบอลโลกปี 2002 และ ยูโรปี 2004 แต่สถิติของหอกแข้งดังกับทีมชาติก็ยังอยู่แค่ 30 ประตูจาก 63 นัดเช่นเดิม

 

4.พอล สโคลส์ (29 ปี)

The day Paul Scholes came of age for England against Italy | Manchester United

ดูเหมือนว่า สโคลส์ จะไปได้ไม่สุดในทีมชาติอังกฤษเท่าไรนัก ซึ่งเขาเชื่อว่าทีมชาติของเขามีนักเตะที่เล่นได้เห็นแก่ตัวเกินไป แม้จะโชว์ฟอร์มเด่นในบอลโลกปี 1998 และซัดแฮตทริกแรกในทีมชาติในปี 1999 นัดเจอโปแลนด์ก็ตาม

เส้นทางของเขาจบลงก่อนเวลาอันควรหลังศึกยูโรปี 2004 ซึ่งอังกฤษดวลจุดโทษแพ้โปรตุเกส ในนัดนั้น กองกลางหัวแดงถูกถ่างออกไปเล่นริมเส้นฝั่งซ้าย เพื่อให้ สตีเว่น เจอร์ราร์ด และ แฟร้ง แลมพาร์ดได้เล่นคู่กันในแดนกลาง ด้วยตำแหน่งนั้นเองทำให้อดีตแข้ง ‘ผีแดง’ เล่นผิดฟอร์มจนถูกเปลี่ยนตัวออกในเกมสุดท้ายของเขา และนี่เป็นจุดสิ้นสุดที่ไม่ควรเกิดขึ้นกับยอดแข้งดังอย่างสโคลส์เลยจริงๆ

 

5.เอริค คันโตน่า (28 ปี)

The French don't take Eric Cantona seriously like the English | Auclair | OTB Sports

อีกหนึ่งตำนานของแมนฯยูไนเต็ดมีเส้นทางในการรับใช้ทีมชาติแสนสั้น หลังจากลูกถีบ กังฟู คิ๊กอันลือลั่นในเกมที่ ‘ปีศาจแดง’ พบกับคริสตัล พาเลซ ปี 1995 เส้นทางของคันโตน่ากับทัพ ‘เลอ เบลอส์’ ก็เป็นอันจบลง

ในช่วงเวลาที่เขาถูกแบนอยู่นั้น ‘ก็องโต้’ สูญเสียตำแหน่งกัปตันทีมชาติไป แถมยังถูก ซีเนอดีน ซีดาน เข้ามาเป็นผู้เล่นตัวหลักในทัพ ‘ตราไก่’ แทน นับแต่นั้นเป็นต้นมา เขาก็ไม่เคยกลับไปอยู่ในที่ที่เคยอยู่ได้เลย

แม้จะล้มเหลวในบอลโลกทีอเมริกาปี 1994 ก็ตาม แต่ในนามทีมชาติ คันโตน่าก็กดไป 20 ประตูจากการเล่น 45 เกมเลยทีเดียว

 

6.พอล ไบรท์เนอร์ ( 22 ปี )

Gerd Müller and Paul Breitner | Gerd muller, Gerd müller, World cup shirts

ไบรท์เนอร์คือหนึ่งในนักเตะที่มีการถกเถียงกันมากที่สุดคนหนึ่งในวงการลูกหนังเมืองเบียร์ แต่แรกนั้น เจ้าของทรงผมแอฟโฟร ตัดสินใจเลิกเล่นทีมชาติในปี 1975 ซึ่งตอนนั้นเขาอายุแค่ 22 ปี หรือหลังจากพาทีมคว้าแชมป์โลกเมื่อปีที่แล้วนี่เอง

เหุตผลที่ทำแบบนั้นก็เพราะต้องการย้ายไปเล่นในสเปนให้กับเรอัล มาดริด เคียงข้างเพื่อร่วมชาติอย่าง ‘ กุนเธอร์ เน็ตเซอร์’ แถมการย้ายในครั้งนั้นยังมีส่วนเกี่ยวข้องกับนายพลฟรังโก้อีก

ไปๆมาๆ ไบรท์เนอร์ก็กลับมาเล่นให้ทีมชาติอีกครั้ง แต่ด้วยเหตุผลทางการเมืองทำให้เจ้าตัวปฏิเสธที่จะลงเล่นให้ทีมชาติในฟุตบอลโลกปี 1978 เนื่องจากการก่อการร้ายและอาชญกรรมที่เกิดขึ้นในอาร์เจนติน่า ณ เวลานั้น 

อย่างไรก็ตาม เขากลับมารับใช้ชาติอีกครั้งในปี 1981 แถมพา ‘อินทรีเหล็ก’ คว้ารองแชมป์ในฟุตบอลโลกปีถัดมาที่สเปนด้วย

 

7.ซามีร์ นาสรี่ (27 ปี)

Manchester City's Samir Nasri hints at international retirement after France World Cup snub | Football News | Sky Sports

หลังจากโชว์ฟอร์มได้ไฉไลกับอาร์เซน่อล ทำให้นาสรี่ได้รางวัลผู้เล่นฝรั่งเศสยอดเยี่ยมประจำปี 2010 ทำให้มีชื่อติดไปลุยบอลโลกกับ ‘ตราไก่’ ในปีนั้น แต่เจ้าตัวกลับถอนตัวออกไปจากทีมชาติ..ซะอย่างนั้น

นาสรี่กล่าวอ้างว่าเพื่อนร่วมทีมในทีมชาตินั้นแอบนินทาลับหลังเกี่ยวกับครอบครัวและเพื่อนของเขา หลังจากนั้นอดีตแข้งปืนใหญ่ก็ได้พูดถึง ดิดิเย่ร์ เดส์ชองส์ ว่าเป็นผู้จัดการที่ไม่มีฝีมือ บนทวิตเตอร์ จนเดเด้ทำเรื่องฟ้องร้องจนถึงขั้นขึ้นโรงขึ้นศาล

ด้วยเหตุการณ์นี้และอีกหลายๆช่วง นาสรี่ระบุว่าเขารู้สึกไม่มีความสุขในทีมชาติเลย และหลังจากการถอนตัวในทีมชาติของเขาในช่วงบอลโลกปี 2014 เราก็ไม่ได้เห็นนาสรี่ในสีเสื้อ ‘ตราไก่’ อีกเลย 

 

8.เควิน-ปรินซ์ บัวเต็ง (24 ปี)

World Cup: Kevin-Prince Boateng describes Ghana's preparations as 'amateurish' | Football News | Sky Sports

บัวเต็งถือเป็นผู้เล่นที่อายุน้อยที่สุดที่เกษียณในทีมชาติ โดยก่อนหน้านี้เคยเล่นชุดเยาวชนของเยอรมนีก่อนจะย้ายไปรับใช้ทีมชาติกานาแทนในปี 2010

บัวเต็งเลิกเล่นทีมชาติแต่เดิมด้วยเหตุผลด้านสุขภาพ แต่ก็ถูกเรียกกลับไปรับใช้ทีม ‘ดาวดำ’ อีกครั้ง แต่ครั้งนี้กลับกลายเป็นการขุดหลุมฝั่งตัวเอง หลังใช้วาจาไม่สุภาพกับ “เควซี อัปเปียห์” โค้ชของทีมในตอนนั้น ทำให้ถูกตัดชื่อออกจากทีมในบอลโลกปี 2014 และถูกชาวกานาทั้งประเทศดูถูกว่าไม่มีความเป็นมืออาชีพจริงๆ

 

9.คาร์ลอส โรอา (30 ปี)

Twitter 上的 tphoto:"Argentine goalkeeper Carlos Roa celebrates after stopping Paul Ince4(England) PK in World Cup France98 1/8 Final, Argentine 2-2 ( PK 4-3) England at Stadium Geoffroy- Guichrd in Saint-Etiennet, France 30/6/98

คาร์ลอส โรอากลายเป็นที่จับตามอง หลังเป็นผู้ทำให้อังกฤษตกรอบบอลโลกปี 98 ที่ฝรั่งเศสด้วยการเซฟลูกยิงจุดโทษของพอล อินช์ และเดวิด แบตตี จนมีข่าวกับยอดทีมในอังกฤษอย่าง ‘แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด’ เลยทีเดียว

แต่ 1 ปีถัดมา อดีตผู้รักษาประตูของมายอร์ก้าตัดสินใจเลิกเล่นทีมชาติ เพราะว่า….เออ.. โลกจะแตกในปี 2000 จึงขอหลบไปอยู่ในป่ากับภรรยาและครอบครัวดีกว่า

จากการกระทำเช่น ‘กระต่ายตื่นตูม’ ของเขาเอง ทำให้ต้องหล่นไปเป็นตัวสำรองในปีถัดมา ก่อนจะย้ายไปเล่นในช่วงบั้นปลายของการค้าแข้งกับ อัลบาเซเต้ และ โอลิมโป้

โอเค แม้จะ 30 แต่ถือเป็นข้อยกเว้นก็แล้วกัน

 

10.เมซุต โอซิล (29 ปี)

Mesut Ozil retires from Germany after political tensions over Turkish roots

แม้เป็นหนึ่งในผู้เล่นคนสำคัญชุดที่พา เยอรมัน คว้าแชมป์โลกในปี 2014 แต่ทว่าในเวิลด์คัพที่ รัสเซีย ในอีก 4 ปีต่อมากลับกลายเป็นทัวร์นาเมนต์สุดท้ายในนามทีมชาติของ เมซุต โอซิล 

สาเหตุหลักที่ทำให้ กองกลางวัย 34 ปี ประกาศลาทัพ อินทรีเหล็ก เริ่มจากช่วงก่อนฟุตบอลโลก 2018 ที่เจ้าตัวโพสต์รูปที่ถ่ายกับประธานาธิบดีตุรกี ทำให้เกิดกระแสต่อต้านแนวรุกวัย 34 ปีรายนี้อย่างหนัก และมาประทุขึ้นเมื่อทีมตกรอบ

ครั้งหนึ่ง แข้งดังเชื้อสายเติร์ก เคยกล่าวไว้ หลังตกเป็นเป้าวิจารณ์ว่า “ผมเป็นคนเยอรมันเมื่อเราชนะ แต่ผมจะกลายเป็นผู้อพยพเมื่อเราแพ้” 

อย่างไรก็ตาม โอซิล ได้โผล่มาบอลโลกปีนี้ที่ กาตาร์ อีกครั้ง แต่ว่าเป็นเพียงรูปภาพที่แฟนบอลชาวกาตาร์ใช้ระหว่างเกมกับทีมชาติสเปน เพื่อเป็นการตอบโต้แข้งเมืองเบียร์ที่ปิดปากประท้วงกรณีถูกสั่งแบนปลอกแขน OneLove ในเกมนัดแรกของรอบแบ่งกลุ่ม ซึ่งสุดท้ายพวกเขาก็ตกรอบแบ่งกลุ่มแบบเหลือเชื่อด้วย

 

บทความที่เกี่ยวข้อง

โรนัลโด้อาจทุบอีก : 7 ดาวเตะสัญญาโคตรเว่อร์ในโลกฟุตบอล
โรนัลโด้อาจทุบอีก : 7 ดาวเตะสัญญาโคตรเว่อร์ในโลกฟุตบอล