ฟุตบอลโลก 2022 เป็นครั้งที่มีการยิงประตูมากที่สุดในประวัติศาสตร์ 172 ประตู จากแมตช์การแข่งขันทั้งหมด 64 นัด
เกมนัดชิงชนะเลิศ ฟุตบอลโลก 2022 จบลงไปเรียบร้อยแล้ว และเป็น อาร์เจนติน่า ที่สามารถเอาชนะการดวลจุดโทษ ฝรั่งเศส 4-2 หลังจากช่วงเวลาปกติรวมต่อเวลาพิเศษ 120 นาที ทั้งสองทีมเสมอกัน 3-3 ซึ่งนั่นทำให้ “ฟ้าขาว” คว้าแชมป์สมัยที่ 3 และเป็นสมัยแรกในรอบ 36 ปี ได้สำเร็จ
นอกจากนั้น 6 ประตู ที่เกิดขึ้นในเกมนัดชิงชนะเลิศ ฟุตบอลโลก ที่ กาตาร์ ยังทำให้บอลโลกหนนี้กลายเป็นครั้งที่มีการยิงประตูมากสุดในประวัติศาสตร์ 172 ประตู แซงหน้าฟุตบอลโลก 1998 และ 2014 ซึ่งยิงไป 171 ประตู
โดยฟุตบอลโลก 2022 มีสถิติค่าเฉลี่ยในการยิงประตู 2.7 ประตูต่อเกม ซึ่งแมตช์ที่ทำประตูกันมากสุดคือเกมที่ สเปน ถล่มเอาชนะ คอสตาริก้า 7-0 และ โปรตุเกส ชนะ สวิตเซอร์แลนด์ 6-1
นอกจากนั้นในนัดชิงชนะเลิศ ระหว่าง อาร์เจนติน่า และ ฝรั่งเศส แฟนบอลยังได้เห็นฟุตบอลถูกส่งเข้าสู่ก้นตาข่ายถึง 12 ครั้ง จากการยิงในช่วงเวลา 120 นาที 6 ลูก และดวลจุดโทษอีก 6 ลูก เช่นเดียวกับอีกหนึ่งเกมที่ตื่นเต้นไม่แพ้กัน คือแมตช์ที่ แคเมอรูน เสมอกับ เซอร์เบีย 3-3 ในรอบแบ่งกลุ่ม
อย่างไรก็ตามฟุตบอลโลก ที่มีค่าเฉลี่ยการยิงประตูมากสุด คือปี 1954 ที่ตลอดทัวร์นาเมนต์ยิงกันไปทั้งหมด 140 ประตู จากการลงสนาม 26 นัด หรือคิดเป็นค่าเฉลี่ย 5.7 ประตูต่อเกม ส่วนฟุตบอลโลก 2022 ยิงไป 172 ประตู จาก 64 นัด ค่าเฉลี่ย 2.7 ประตูต่อเกม
