มีนักเตะดาวรุ่งจำนวนไม่น้อยที่อยู่ในทีมชุดเยาวชนของสโมสรชั้นนำในพรีเมียร์ลีก ที่ไม่สามารถขึ้นไปเล่นชุดใหญ่ได้ แต่ก็มีบางรายที่ได้รับสิทธิ์ตรงนี้ ซึ่งพวกเขาทั้งหลายก็มีโอกาสได้เปิดตัวกับทีมชุดตัวจริงตั้งแต่วัยละอ่อน ซึ่งแต่ละคนก็ประสบความเร็จที่แตกต่างกันออกไป
จู้ด เบลลิงแฮม ถือเป็นดาวรุ่งที่ได้ความสนใจจากสโมสรชั้นนำของยุโรปหลายต่อหลายทีมในขณะนี้ โดยเฉพาะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดและเชลซีที่ต่างต้องการลายเซ็นของไอ้หนูรายนี้ไปร่วมทีมเป็นอย่างมาก
แม้ว่าเบลลิงแฮมวัยเพียง 16 ปี จะเป็นนักเตะที่มีพรสวรรค์สุดๆ แต่เขาไม่ใช่ผู้เล่นอายุน้อยคนแรกที่ไต่เต้าจากทีมชุดเยาวชนขึ้นไปเล่นชุดใหญ่อย่างรวดเร็ว
หากเบลลิงแฮมต้องการเป็นนักฟุตบอลระดับแถวหน้าของศึกพรีเมียร์ลีก เขาจำเป็นต้องย้ายออกจาก เบอร์มิงแฮม ซิตี้เพื่อย้ายไปเล่นให้กับทีมใดทีมหนึ่งบนลีกสูงสุด เมื่อนั้นเขาจะกลายเป็นเด็กมหัศจรรย์ที่ถูกจัดอยู่ในกลุ่มเดียวกับดาวรุ่งพุ่งแรงในรุ่นราวคราวเดียวกัน
ทั้งนี้พวกยังบลัดที่มีฝีเท้าเก่งเกินอายุและมีศักยภาพที่ล้นเหลือกับการได้ลงเล่นบนเวทีพรีเมียร์ลีกกับสโมสรดังทั้งหลายในฟุตบอลอังกฤษ ใช่ว่าจะประสบความสำเร็จทุกคน
นั่นทำให้วันนี้ทีมงาน UFA Arena.com จะพาไปติดตามกันว่า 7 วันวอนเดอร์คิดที่อายุน้อยที่สุดที่ได้รับการเปิดตัวในศึกพรีเมียร์ลีกครั้งแรกมีใครกันบ้าง
สตีเฟ่น คาร์ (ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์) 17 ปี 27 วัน
ในสายตาของคนทั่วไปอาจจะมองว่าเขาคงยากที่จะเข็นตัวเองขึ้นไปเล่นชุดใหญ่ แต่คาร์เป็นหนึ่งในดาวรุ่งที่มีอนาคตสดใสรอเขาอยู่และคอยโอกาสที่จะสร้างความประทับใจให้กับสเปอร์
ในที่สุดโอกาศของเขาก็มาถึงในวัย 17 ปี เมื่อเขาเปิดตัวกับไก่เดือยทองในเกมที่บุกไปเยือนอิปสวิชเมื่อปี 1993 แต่เจ้าตัวก็ยังสอดแทรกเข้าไปอยู่ในชุด 11 ตัวแรกไม่ได้ จนฤดูกาลถัดมาเขาก็ยึดตำแหน่งในทีมชุดตัวจริงได้สำเร็จ
ในช่วงระยะเวลา 11 ปีที่อยู่ในถิ่นไวท์ ฮาร์ท เลน คาร์ไม่เพียงแต่เป็นผู้เล่นที่ยิ่งใหญ่ของท็อตแน่ม แต่เขายังเป็นนักเตะระดับตำนานของศึกพรีเมียร์ลีกคนหนึ่งเลยก็ว่าได้
แบ็คขวาขึ้นหิ้งรายนี้ ลงรับใช้สเปอร์ไปทั้งสิ้น 226 นัด ก่อนจะไปจบเส้นทางการค้าแข้งกับนิวคาสเซิ่ลและเบอร์มิงแฮม นอกจากนี้เขายังติดทีมชาติไอร์แลนด์ไปถึง 44 นัด
โจดี้ มอร์ริส (เชลซี) 17 ปี 43 วัน
ณ ปัจจุบันมอร์ริสเป็นผู้ช่วยให้กับกุนซืออย่างแฟรงค์ แลมพาร์ด ที่เชลซี แต่ครั้งหนึ่งเขาเคยเป็นดาวรุ่งตัวน้อยในถิ่น สแตมฟอร์ดบริดจ์
ไม่นานนักหลังจากวันเกิดของเขาในวัย 17 ปี มอร์ริส ก็ได้รับการเปิดตัวบนเวทีพรีเมียร์ลีกในเกมที่เปิดบ้านพบกับมิดเดิ้ลสโบรช์เมื่อปี 1996
หลังจากซีซั่นดังกล่าว เขาก็ได้รับการโหวตให้เป็นผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปีของสโมสร แต่ทว่าการมาของกุสตาโว่ โปเยต์ และดีดิเย่ร์ เดส์ชอง ทำให้ มอร์ริสเริ่มโดนเหล่าซูเปอร์สตาร์เหล่านี้บดบังรัศมี จนไม่ค่อยได้รับโอกาสลงสนามเท่าที่ควร
หลังจากอยู่กับสิงห์โตน้ำเงินครามมา 7 ฤดูกาล กองกลางร่างเล็กก็ย้ายไปเล่นให้กับลีดส์เป็นเวลา 1 ปี และลงเป็นค้าแข้งกับลีกล่างของลีกเมืองผู้ดี ก่อนจะกลับมาที่บริดจ์อีกครั้งในฐานะโค้ช
เอมิล เฮสกีย์(เลสเตอร์ ซิตี้) 17 ปี 55 วัน
แม้ เฮสกีย์ จะมีอายุเพียง 17 ปี และเพิ่งเป็นเด็กฝึกหัดแค่ปีแรกให้กับสโมสร แต่มาร์ก แมคจี กุนซือของสุนัขจิ้งจอกในตอนนั้น เห็นแววของเขา จึงตัดสินใจส่งประเดิมสนามในศึกพรีเมียร์ลีกครั้งแรกในเกมที่พบกับควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส
ในซีซั่นดังกล่าวเลสเตอร์ดันตกชั้นไปเล่นในดิวิชั่น 2 แต่การมาของมาร์ติน โอนีล ทำให้พวกเขากลับขึ้นมาเล่นบนลีกสูงสุดอีกครั้งและเฮสกีย์ก็ทำประตูไปได้ถึง 10 ลูกด้วยกันในการลงเล่นในศึกพรีเมียร์ครั้งแรกแบบเต็มๆของเจ้าตัว
มันทำให้เขากลายเป็นผู้เล่นที่ทำประตูได้มากที่สุดของสโมสร ซึ่งในเวลาต่อมาเขาก็ได้จับคู่ล่าตาข่ายกับโทนี่ ค็อตตี้ และช่วยกันยิงประตู ให้กับเลสเตอร์ได้อย่างสม่ำเสมอ จนสามารถพาต้นสังกัดคว้าแชมป์ลีกคัพได้ในปี 2000
นั่นจึงเป็นช่วงเวลาที่น่าจดจำของเฮสกีย์ในสีเสื้อของสุนัขจิ้งจอก จนกระทั่งถูกลิเวอร์พูลของเจอราร์ด ฮูลิเยร์ ดึงตัวไปร่วมทีม
เฮสกีย์ ยังคงสานต่อความเป็นสุดยอดกองหน้าอย่างต่อเนื่องให้กับทั้งสโมสรและทีมชาติ เขาทำประตูไปมากว่า 100 ลูก และติดธงสิงโตคำรามไป 62 นัดทำไป 7 ประตู
ไมกาห์ ริชาร์ดส์ (แมนเชสเตอร์ ซิตี้) 17 ปี 119 วัน
ยุคก่อนที่สนามเอติฮัดจะเปิดตัว แนวรับรายนี้ยังโลดแล่นอยู่ในทีมทีมชุดเยาวชนของแมนเชสเตอร ซิตี้ จนกระทั่งได้เปิดตัวครั้งแรกกับทีมชุดใหญ่ในเกมที่บุกไปพ่ายอาร์เซน่อลเมื่อปี 2005
ก่อนยุครุ่งเรืองของ ชีคห์ มันซูร์ ริชาร์ดส์ ต้องต่อสู้แย่งตำแหน่งแบ็คขวากับแดนนี่ มิลส์และเนดัม โอนัวฮา
เขาได้รับโอกาสลงสนาม ให้กับซิตี้ไป 179 นัดและยังเป็นหนึ่งในผู้เล่นคนสำคัญที่ช่วยพาทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ในฤดูกาล 2011-12
อย่างไรก็ตามด้วยอาการบาดเจ็บ ทำให้เขาไม่ค่อยได้ลงสนามสักเท่าไร จนกระทั่งการมาของปาโบลซา บาเลต้า คือจุดเปลี่ยนที่ทำให้เขาเสียตำแหน่งตัวจริงไปเลย ริชาร์ดส์ไม่สามารถฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บที่รุมเร้าเขามาตลอดในช่วงหลายปีหลังได้ จนในที่สุดเขาก็ถูกปล่อยตัวออกจากสโมสรไปเมื่อปี 2015
แจ็ค โรบินสัน (ลิเวอร์พูล) 16 ปี 250 วัน
เด็กปั้นทั้งหลายในทีมชุดเยาวชนของลิเวอร์พูล เต็มไปด้วยการแข่งขันเพื่อจะได้โอกาศขึ้นไปติดทีมชุดใหญ่ ซึ่งก่อนที่เทรนต์ อเล็กซานเดอร์อาร์โนลด์ จะก้าวขึ้นไปยึดตำแหน่งตัวจริงในถิ่นแอนฟิลด์ในปัจจุบัน มีดาวรุ่งอยู่รายหนึ่งที่ถูกคาดหมายว่าจะแจ้งเกิดได้กับหงส์แดง ซึ่งนักเตะคนนั้นก็คือแจ็ค โรบินสัน
ด้วยวัยเพียง 16 ปีโรบินสันถูกส่งลงสนามในฐานะตัวสำรองไปแทนที่ ฟาบิโอ ออเรลิโอ ในเกมที่บุกไปเสมอกับ อาร์เซน่อล 1-1 เมื่อปี 2011
ในนัดดังกล่าวแบ็คซ้ายรายนี้ได้รับการชื่นชมอย่างล้นหลามและอีกหนึ่งสัปดาห์ต่อมาเขาก็ได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงครั้งแรกให้กับลิเวอร์พูลในเกมที่เจอกับเบอร์มิงแฮมซิตี้
แต่ทว่าเจ้าตัวก็ไม่สามารถยืนระยะและพิสูจน์ตัวเองได้ โดยโรบินสันลงเล่นให้หงส์แดงไปแค่ 3 นัดตลอด 4 ปีที่อยู่กับทีมแห่งลุ่มแม่น้ำเมอร์ซี่ไซด์ ก่อนจะย้ายไปเล่นให้กับ ควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์สในปี 2014
แจ็ค วิลเชียร์ (อาร์เซนอล) 16 ปี 256 วัน
เด็กปั้นของอาร์เซน่อลรายนี้ได้โอกาสเปิดซิงเป็นครั้งแรกในเกมที่เดอะกันเนอร์บุกไปเยือนแบล็กเบิร์น เขาถูกส่งลงไปเป็นตัวสำรองแทนที่โรบิน ฟานเพอร์ซี่ ในนาทีที่ 84
“เขาน่าจะเป็นการค้นพบที่ยิ่งใหญ่ แต่โชคไม่ค่อยจะเข้าข้างเขาสักเท่าไร”มิเกล อาร์เตต้า”กุนซือของอาร์เซน่อลกล่าว
ในช่วงแรกๆของ วิลเชียร์ เขาถูกคาดหมายว่าจะกลายเป็นแข้งระดับโลกได้ในอนาคต เจ้าตัวได้รับรางวัลนักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมของ PFA และยังติดทีมยอดเยี่ยมในฤดูกาล 2011 อีกด้วย
แม้แต่ชาบี ตำนานของบาร์เซโลน่ายังเคยบอกอีกว่า เขาเป็นอนาคตของฟุตบอลอังกฤษ อย่างไรก็ตามแม้จะมีคำสรรเสริญต่างๆมากมายเข้ามา แต่เขาก็ไปไม่สุด และย้ายไปอยู่กับเวสต์แฮมในปี 2018
อังเคล โกเมส (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)16 ปี 263 วัน
จากการที่ปีศาจแดงได้เจรจาเบื้องต้นกับทางเบลลิงแฮมเมื่อไม่นานมานี้ ดูเหมือนว่าเขาอาจจะย้ายเข้ามาเล่นในโรงละครแห่งความฝัน และถ้าเป็นเช่นนั้นจริง ไอ้หนูรายมีโอกาสที่จะทำสถิติเป็นแข้งที่อายุน้อยที่สุดที่ลงสนามให้ชุดตัวจริงของยูไนเต็ดก็เป็นได้
ช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดในชีวิตของอังเคล โกเมส นั้น เกิดขึ้นในเกมที่แมนฯยูไนเต็ดเปิดบ้านเอาชนะคริสตัล พาเลซ 2-0 เมื่อเขาลุกจากม้านั่งสำรองลงไปแทนที่ เวย์น รูนีย์ ในนาทีสุดท้าย ของปี 2017
และนั่นทำให้เขากลายเป็นนักเตะคนแรกที่เกิดหลังปี 2000 ที่ได้ลงเล่นในศึกพรีเมียร์ลีกด้วยวัยเพียง 16 ปี
ทั้งนี้โกเมสยังไม่เคยทำประตูในสนามโอลด์แทรฟอร์ดได้เลย แต่ก็ถูกส่งลงสนามในชุดตัวจริงไปแล้ว 5 นัดด้วยกัน
อย่างไรก็ตามด้วยวัยแค่ 19 ปีมิดฟิลด์ตัวกะเปี๊ยกรายนี้ยังมีเวลาอีกมากกับการพัฒนาฝีเท้าของตัวเองให้เก่งยิ่งขึ้นได้อีก
