เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาสาวกรอสโซเนลลี่ได้มีเรื่องให้ฮือฮากันอีกครั้งเมื่อ ดาเนียล มัลดินี่ ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของตำนานประจำทีมอย่าง เปาโล มัลดินี่ ได้ลงสนามเป็นตัวจริงให้กับทีมชุดใหญ่เป็นครั้งแรก แถมยังสามารถทำประตูแรกได้อีกด้วย
นั่นทำให้ความหวังที่จะได้เห็นคนจากครอบครัว มัลดินี่ โลดแล่นในสนามเพื่อสานต่อคำนานกับทีมอีกครั้งก็ถูกจุดประกายขึ้นมาอีกครั้ง วันนี้ UFA ARENA จะมานำเสนอเส้นทางของเด็กหนุ่มที่ถูกยกให้เป็น มัลดินี่รุ่นที่ 3
ภาระหนักอึ้งจากพ่อและปู่
ครอบครัวมัลดินี่ เป็นที่รู้จักอย่างดีบนโลกลูกหนังในฐานะตำนานของเอซี มิลาน มาถึงสองเจเนอเรชั่นตั้งแต่คนปู่อย่าง เซซาเร่ ที่ประสบความสำเร็จทั้งการเป็นนักเตะและผู้จัดการทีม จากถ้วยแชมป์ที่มีติดมือมา 5 สมัย ต่อด้วย เปาโลคนพ่อที่กวาดความสำเร็จไปมากถึง 25 รายการแต่ไม่ได้ผันตัวมาเป็นโค้ชแบบพ่อของเขา
นอกจากนี้ความจงรักภักดีต่อสโมสรตลอดสองรุ่น ที่ได้ลงสนามรวมกันไปกว่า 1300 นัด (เซซาเร่ 399นัด , เปาโล 901 นัด) ทำให้ทางสโมสรถึงกับรีไทร์เบอร์เสื้อหมายเลข 3 ไว้พร้อมกับจำกัดไว้ให้แค่คนจากตระกูล มัลดินี่ เท่านั้นที่มีสิทธิ์ที่จะใช้งานหมายเลขนี้ ในขณะที่ เปาโลเองก็ถูกตั้งฉายาว่า “Il Capitano” หรือ “สุดยอดกัปตัน”อีกด้วย
จากความยอดเยี่ยมและความยิ่งใหญ่ของทั้งพ่อและปู่ทำให้เด็กที่เกิดมาในตระกูลมัลดินี่ ต้องแบกรับความกดดันมหาศาลยิ่งเมื่อเขาเลือกเส้นทางนักฟุตบอลแล้ว คนรอบตัวก็ต่างหมายมั่นปั้นมือ ให้มาสานต่อตำนานของนามสกุลนี้
ความล้มเหลวจากคนพี่
แดเนียล ไม่ใช่คนแรกของครอบครัวมัลดินี่ ที่เลือกเส้นทางนักฟุตบอล แต่เขามีพี่ชายที่ชื่อว่า คริสเตียน ซึ่งอายุห่างกับเขาถึง 6 ปีได้เริ่มต้นเส้นทางอาชีพในอคาเดมี่ของ เอซี มิลาน เช่นกันนอกจากนี้มัลดินี่ผู้พี่ยังเลือกเล่นในตำแหน่งกองหลังตัวกลาง เช่นเดียวกับพ่อและปู่ของเขา
แน่นอนว่าการมีพ่อและปู่เป็นยอดตำนานก็มีแรงกดดันมากพออยู่แล้ว การเลือกเล่นในตำแหน่งเดียวกันก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะถูกเปรียบเทียบและคาดหวัง อย่างไรก็ตามด้วยนโยบายของสโมสรในเวลานั้นที่แทบจะไม่ได้ใช้งานดาวรุ่งจากอคาเดมี่เลย รวมถึงฝีเท้าของเขาที่ยังไม่ถึงขั้นทำให้ไม่เคยได้ลงสนามให้กับทีมชุดเลยแม้แต่นัดเดียว
หลังจากไม่สามารถแจ้งเกิดกับ รอสโซเนลลี่ได้ก็ถูกปล่อยไปให้กับ เรจจิน่าในปี 2016 ก่อนจะกลายเป็นนักเตะจอมพเนจรเล่นในทีมระดับ เซเรีย ซี และเซเรีย ดี ปัจจุบันเขาอยู่กับทีม โปร เซสโต ในลีกเซเรียซี และแทบจะไม่ได้เป็นตัวหลักของทีมเลยด้วยซ้ำ ซึ่งด้วยวัย 25 ปีคงยากที่ คริสเตียน จะสามารถกลับมาสวมเสื้อหมายเลข 3 เพื่อสานต่อเส้นทางที่เอซี มิลานอีกแล้ว
ผ่าเหล่าผ่ากอ
ตลอดมาคนนามสกุลมัลดินี่เลือกเล่นในตำแหน่งเกมรับมาโดยตลอด ทั้งปู่ พ่อ และพี่ชาย แต่ ดาเนียล ไม่อยากพบเจอความกดดันจากการถูกเปรียบเทียบ ทำให้เขาเลือกเล่นในตำแหน่งที่ต่างออกไปอย่าง กองกลางตัวรุก เรียกได้ว่าแหวกแนวจากทุกคนที่ผ่านมาเลยทีเดียว
ผลงานในชุดพรีมาเวร่าตลอด 2 ฤดูกาลของเจ้าตัวนับว่ามีสถิติที่โดดเด่นเลยทีเดียวกับการลงสนามไป 41 นัดยิง 19 ประตู 5 แอสซิสต์รวมทุกรายการ โดยนับตั้งแต่ฤดูกาล 2020/21 เขาก็ถูกดันขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่และได้มีโอกาสลงสนามอยู่บ้างในฐานะตัวสำรองแต่ก็ยังไม่สามารถทำผลงานยิงหรือจ่ายได้
ในส่วนของฝีเท้า ดาเนียล เป็นนักเตะที่มีไอเดียในการจ่ายบอล การหาช่องที่ดี และแม้ว่าจะเล่นในตำแหน่งเกมรุก แต่ DNA นักเตะเกมรับที่อยู่ในตัวเขาก็มีหลายครั้งที่เขาโชว์ลีลาการแย่งบอล การเข้าแท็คเคิ่ลได้อย่างยอดเยี่ยม จนเรียกว่าแทบจะถอดแบบมาจากพ่อ สิ่งที่เจ้าตัวขาดไปมีเพียงแค่ประสบการณ์ที่ยังต้องเก็บเกี่ยวอีกมาก
How it started (1/2):#danielmaldini pic.twitter.com/Bjpj82GuG8
— James Campbell Taylor (@jamestaylor) September 25, 2021
ความคาดหวังต่อจากนี้
การถูกดันขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่ และได้ลงสนามเป็นตัวจริงของเจ้าหนู ดาเนียล นับเป็นเพียงแค่ก้าวแรกเท่านั้นยังมีความกดดันและความคาดหวังอีกมากที่เขาต้องเจอ ยิ่งหลังจากที่บรรดาสื่อ และคนรอบตัวพากันยกให้เขาเป็นผู้ที่จะมาสานต่อตำนานของตระกูลมัลดินี่รุ่นที่ 3
และคนที่คาดหวังในตัวเขามากที่สุดก็เห็นจะเป็นพ่อของเขาเองอย่าง เปาโล ดูได้จากสายตาที่มองไปที่ลูกชายหลังทำประตูได้อย่างภาคภูมิใจ ซึ่งตัวเขาเองก็รู้ดีถึงเรื่องนั้น โดยหลังจากเกมเอาชนะสเปเซียที่ได้ประเดิมสนามเป็นตัวจริงพร้อมกับยิงประตูได้ เขาก็เผยว่า “พ่อเป็นแรงบันดาลใจและเป็นคนที่คอยให้คำแนะนำผมเยอะมาก เขามีความคาดหวังแต่มันก็อยู่ในระดับที่พอดี”
สำหรับตัวเปาโลเองเขาก็เคยให้สัมภาษณ์ถึงการสานต่อเสื้อเบอร์ 3 ของลูกชายทั้งสองไว้ว่า”บางทีพวกเขาอาจจะอยากเป็นนักฟุตบอลแต่ไม่ได้อยากสานต่อเสื้อเบอร์ 3 เพราะอยากจะสวมเสื้อเบอร์อื่นมันก็ขึ้นอยู่กับพวกเขา”
ส่วนเซซาเร่ ผู้ล่วงลับก็เคยออกความเห็นถึงเส้นทางชีวิตของหลานตนว่า”มันชัดเจนที่ทั้งคู่จะมีเส้นทางที่แตกต่างออกไปในชีวิต เพราะนามสกุลของเขาซึ่งโชคไม่ดีที่มันจะกลายเป็นภาระหนักอึ้ง”
ไม่มีใครรู้ว่าต่อจากนี้ความคาดหวังของแฟนบอลปีศาจแดงดำที่มีต่อ ดาเนียล จะได้รับการตอบสนองหรือไม่ เจ้าหนูวัยเพียง 19 ปีจะสามารถแบกรับความกดดันต่อจากได้ไหม แต่สิ่งนึงที่เขาพิสูจน์แล้วคือเขามีดีพอที่จะยืนหยัดในทีมชุดใหญ่ของรอสโซเนลลี่ ไม่แน่ว่าในวันข้างหน้า เราอาจได้เห็นเพลย์เมคเกอร์ที่ใส่เสื้อหมายเลข 3 ก็เป็นได้
มัลดินี่รุ่น3! ดาเนี่ยลประเดิมซัดตุงแรกเกมเดบิวต์ตัวจริงมิลาน
