เหนือความคาดหมาย! 10 ดาวซัลโวโนเนมจาก 5 ลีกใหญ่ยุโรป

 

หลายคนเห็นผลการเลือกตั้ง BNK48 9th Single Senbatsu General Election ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาคงช็อกกันไม่น้อย หลังอันดับหนึ่งในปีนี้ไม่ใช่ เฌอปราง ตัวเต็งและแชมป์เก่าในปีก่อน

 

เหตุที่เป็นเช่นนั้น เพราะกุลจิราณัฐ อินทรศิลป์ หรือ เจน เข้าวินเป็นอันดับที่ 1  ด้วยการคว้า 100,489 คะแนน แซงหน้า เฌอปราง อารีย์กุล หรือ เฌอปราง อันดับ 2 ที่ได้ไป 71,352 คะแนน แบบเหนือความคาดหมาย

 

อย่างไรก็ดี หากย้อนมองในโลกลูกหนังก็เต็มไปด้วยเรื่องผลิกโผมากมายที่เข้ามาเขย่าวงการ ไม่ว่าจะเป็นทีมม้ามืดคว้าแชมป์ลีก รวมไปถึงแข้งไร้ชื่อที่คว้ารางวัลดาวยิงสูงสุดในลีกมาครอง ถึงแม้ช่วงหลังๆจะไม่มีให้เห็นบ่อยนักก็ตาม

 

และนี่คือ 10 นักเตะที่ไม่มีชื่อด้านการทำประตูแต่กลับคว้าดาวซัลโวจาก 5 ลีกใหญ่ยุโรปของวงการลูกหนังยุคใหม่ แม้บางคนอาจจะไม่โนเนม แต่ก็ไม่มีใครคิดว่าพวกเขาได้รางวัลนี้ไปครอง

 

 

ดาเนี่ยล กีซ่า | เรอัล มายอร์ก้า

 

 

ดาวซัลโวฤดูกาล : 2007-08 
จำนวน : 27 ประตู

 

หัวหอกชาวสแปนิช วนเวียนค้าแข้งอยู่ในลีกแดนกระทิงบ้านเกิดเป็นเวลาหลายปี แต่ชื่อเสียงเรียงนามก็ไม่ได้เป็นที่รู้จักมากนัก จนกระทั่งเขาไดกลับมาค้าแข้งกับ มายอร์ก้า อีกครั้ง ในปี 2007

 

กีซ่า ในวัย 27 ปี ณ ตอนนั้น ระเบิดฟอร์มได้เหนือความคาดหมายโดยซัดประตูในลีกไป 27 ประตู คว้ารางวัลปิปิชี่ มาครองได้เหนือความคาดหมาย อีกทั้งยังติดชาติทีมชาติสเปนชุดคว้าแชมป์ยูโรปี 2008 

 

ปัจจุบัน แม้อายุปาเข้าไป 39 ปี อดีตหอกเฟเนร์บาห์เช่ก็ยังค้าแข้งอยู่กับ ซานลูเคโญ่ ทีมดิวิชั่น 3 ในบ้านเกิด

 

 

สเตฟาน คีสลิงก์ | ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น

 

 

ดาวซัลโวฤดูกาล : 2012-13 
จำนวน : 25 ประตู

 

จริงๆแล้ว สเตฟาน คีสลิงก์ ถือเป็นหนึ่งในแข้งที่มีชื่อเสียงเป็นอันดับต้นๆในบุนเดสลีก้า โดยเป็นกองหน้าตัวหลักของ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น มานานนับ 10 ปี แต่การยิงประตูก็ไม่ใช่จุดขายของเขาเท่าไหร่ ก่อนจะแขวนสตั๊ดไปในปี 2018

 

แต่คงไม่มีฤดูกาลไหนที่ แข้งชาวเยอรมันได้โดดเด่นมากเท่าฤดูกาล 2012-13 อีกแล้ว หลังซัดประตู 25 ลูกในลีก คว้าดาวซัลโวไปครองเหนือตัวเต็งในปีนั้นอย่าง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ดาวยิงบาเยิร์น มิวนิค

 

นอกจากนี้ 25 ประตูนั้นยังเป็นจำนวนประตูในลีกที่ คีสลิงก์ ทำได้มากที่สุดในอาชีพค้าแข้งของตนในหนึ่งฤดูกาลอีกด้วย

 

 

อเล็กซานเดอร์ ไมเออร์ | ไอน์ทรัค แฟรงค์เฟิร์ต

 

 

ดาวซัลโวฤดูกาล : 2014-15 
จำนวน : 19 ประตู

 

หากไม่ใช่แฟนพันธ์แท้ของไอน์ทรัค แฟรงค์เฟิร์ต คุณอาจไม่คุ้นชื่อของ อเล็กซานเดอร์ ไมเออร์ เท่าไหร่ หลังเจ้าตัวอยู่ค้าแข้งกับทีมนาน 14 ปี

 

แต่หากย้อนเวลากลับไปซัก 5 ปี นั่นคือช่วงเวลาที่ตัวรุกเมืองเบียร์พีกที่สุดในอาชีพค้าแข้ง เนื่องจาก เขาซัดประตูให้อินทรีแดงดำถึง 19 ประตู จนคว้าซัลโวไปครองแบบหักปากกาเซียน

 

และนี่ก็เป็นอีกปีที่ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ต้องอกหักจากถ้วยรางวัลนี้ หลังไปเพียง 17 ประตูเท่ากับ ปิแอร์ เอเมอริค-โอบาเมยอง เท่านั้น

 

 

ดิออน ดับลิน | โคเวนทรี่

 

 

ดาวซัลโวฤดูกาล : 1997-98 (ดาวซัลโวร่วม) 
จำนวน : 18 ประตู

 

หลายคนจดจำ ดิออน ดับลิน ในฐานะแข้งอีกรายที่ล้มเหลวกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่น้อยคนนักที่จะจดจำเขาในฐานะดาวซัลโวพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 1997-98

 

หลังดับสนิทกับ ปีศาจแดง หอกชาวอังกฤษได้ย้ายมาเล่นกับ โคเวนทรี่ ในปี 1994 และกลายเป็นแนวรุกตัวหลักของทีมอย่างรวดเร็ว ก่อนที่ในปีสุดท้ายกับทีมสกายบลูส์ เขาสร้างชื่อเป็นดาวยิงเบอร์ต้นๆของพรีเมียร์ลีก คว้าดาวซัลโวในครองในปี 1998 ร่วมกับ ไมเคิล โอเว่น และ คริส ซัตตัน ที่ 18 ประตู

 

อย่างไรก็ตาม ดับลิน ก็พลาดติดทัพสิงโตคำรามไปลุยฟุตบอลโลกที่ฝรั่งเศสแบบไม่น่าเชื่อ ก่อนจะย้ายซบแอสตัน วิลล่า ด้วยค่าตัว 5.75 ล้านปอนด์ในเวลาต่อมา

 

 

เควิน ฟิลลิปส์ | ซันเดอร์แลนด์

 

 

ดาวซัลโวฤดูกาล : 1990-00
จำนวน : 30 ประตู

 

หากมีใครบอกว่ากองหน้าร่างเล็กอย่าง เควิน ฟิลลิปส์ จะคว้าดาวซัลโวในพรีเมียร์ลีกช่วงเปิดฤดูกาล 1999-2000 คงถูกหาว่าเพื้ยนหรือไม่ก็สติสตังเลอะเลือนอย่างแน่นอน

 

ทว่า ฟิลลิปส์ ซัดประตูให้ซันเดอร์แลนด์ถึง 30 เม็ดในลีก ช่วยให้ทีมคว้าอันดับ 7 ได้อย่างสวยงาม ทิ้งห่างตัวเต็งในปีนั้นอย่าง อลัน เชียเรอร์ ถึง 7 ประตูด้วยกัน

 

มากกไปกว่านั้น อดีตแข้งแมวดำยังเป็นแข้งชาวอังกฤษคนเดียวที่คว้ารางวัลรองเท้าทองคำ หรือดาวยิงสูงสุดในทวีปยุโรปอีกด้วย และปัจจุบันก็ยังไม่มีแข้งชาวผู้ดีคนไหนทำได้อย่างเขาเลย

 

 

ฟาบิโอ กวายาเรลล่า | ซามพ์โดเรีย

 

 

ดาวซัลโวฤดูกาล : 2018-19
จำนวน : 26 ประตู

 

เช่นเดียวกับ คีสลิงก์ ชื่อชั้นของ ฟาบิโอ กวายาเรลล่า ก็ไม่ได้ถึงขั้นโนเนมเท่าไหร่นัก เมื่อเทียบกับคนอื่นๆในลิสต์ เนื่องจากเขาเคยค้าแข้งกับทีมระดับท็อปในอิตาลีมากมาย ทั้ง นาโปลี, อูดิเนเซ่, ยูเวนตุส, โตริโน่ หรือ ซามพ์โดเรีย

 

แต่ในวัย 36 ปี คงไม่มีใครคิดว่า กวายาเรลล่า จะมีพิษสงมากพอจนคว้ารางวัล ‘คาโปคันโนนิเอรี่’ หรือดาวซัลโวประจำปีของเซเรียอาไปได้ ทว่า เขากลับซัดให้ ลา ซามพ์ในฤดูกาลก่อนถึง 26 ประตู คว้ารางวัลไปนอนกอดแบบดื้อๆ

 

นอกจากนี้ กวายาเรลล่า ยังทำสถิติยิงได้ 11 นัดติดดต่อกันในฤดูกาลเดียวเทียบกับ กาเบรียล บาติสตูต้า ตำนานหอกเท้าหนักของ ฟิออเรนติน่าอีกต่างหาก

 

 

คริสเตียโน่ ลูคาเรลลี่ | ลิวอร์โน่

 

 

ดาวซัลโวฤดูกาล : 2004-05
จำนวน : 24 ประตู

 

เชื่อว่า ชื่อของคริสเตียโน่ ลูคาเรลลี่ คงไม่เป็นที่รู้จักหรือคุ้นหูแฟนบอลหน้าใหม่ๆแน่นอน แต่รู้หรือไม่ว่า ครั้งหนึ่งดาวยิงระดับโลกทั้ง อังเดร เชฟเชนโก้, ซลาตัน อิบราฮิโมวิช, อาเดรียโน่ หรือ อัลแบร์โต้ จิลาร์ดิโน่ เคยพ่ายแพ้ให้กับเขาในเรื่องการยิงประตูมาแล้ว

 

หอกชาวอิตาเลี่ยน คือนักเตะจอมพเนจรอีกคนในวงการลูกหนังมักกะโรนี แต่ช่วงที่ยอดเยี่ยมที่สุดคงหนีไม่พ้นตอนที่ค้าแข้งกับ ลิวอร์โน่ ทีมระดับกลางในเซเรียอาตั้งแต่ปี 2003 และกลายเป็นขวัญใจของแฟนอมารันโต้อย่างรวดเร็ว ด้วยการคว้าดาวซัลโวในฤดูกาล 2004-05 ด้วยจำนวน 24 ประตู พร้อมช่วยให้คว้าอันดับ 9 ไปครอง

 

ลูคาเรลลี่ อยู่ค้าแข้งในถิ่น อาร์มันโด้ ปิชชี่ นาน 4 ปี และทำไปทั้งหมด 92 ประตูจากการลงสนาม 142 นัด ก่อนจะผจญภัยอีกครั้งกับ ชัคตาร์ โดเนตส์ และ ปาร์ม่า ในเวลาต่อมา จากนั้นจึงประกาศแขวนสตั๊ดในปี 2012

 

 

ดาริโอ ฮับเนอร์ | เปียเซนซ่า

 

 

ดาวซัลโวฤดูกาล : 2000-01 (ดาวซัลโวร่วม) 
จำนวน : 24 ประตู

 

อีกหนึ่งแข้งจอมพเนจรอีกคนของวงการลูกหนังอิตาลี ดาริโอ ฮับเนอร์ วนเวียนมาแล้วทั้งในลีกระดับ 3 ของประเทศ จนถึงลีกสูงสุดอย่าง เซเรียอา

 

จนกระทั่งในปี 2000 กองหน้าอิตาเลี่ยนที่มีเชื้อสายเยอรมัน ได้ย้ายมาค้าแข้งกับ เปียเซนซ่า ทีมน้องใหม่ในเซเรียอา และเขาก็ทำเรื่องเหลือเชื่อด้วยการเบียดแย่งตำแหน่งดาวซัลโวกับดาวิด เทรเซเก้ต์ หอกตัวเก่งของยูเวนตุส ตลอดทั้งปีจนคว้าดาวซัลโวร่วมกันที่ 24 ประตู

 

ด้วยรางวัลนี้ ทำให้ ฮับเนอร์ เป็นผู้เล่นคนเดียวในประวัติศาสตร์ลูกหนังอิตาลีที่คว้าดาวซัลโวทั้งใน เซเรียอา, เซเรียบี และ เซเรียซี 

 

 

เธโอฟานนิส เกคาส | โบคุม

 

 

ดาวซัลโวฤดูกาล : 2006-07 
จำนวน : 20 ประตู

 

บุนเดสลีก้า ฤดูกาล 2006-07 บาเยิร์น มิวนิค ถูกยกให้เป็นเต็งหนึ่งไม่ต่างจากปีก่อนๆ รวมไปถึงตำแหน่งดาวซัลโวก็คงมาจากทีมระดับต้นๆในลีกแน่นอน

 

ทว่าเรื่องพลิกโผมากมายกลับเกิดขึ้นหลังสิ้นสุดฤดูกาลนั้น ทั้ง สตู๊ตการ์ท คว้าแชมป์ลีกแบบเซอร์ไพรส์, แชมป์เก่าบาเยิร์น มิวนิค หล่นไปอันดับ 4 และดาวซัลโวโนเนมสุดๆอย่าง เธโอฟานนิส เกคาส

 

กองหน้าชาวกรีซ ยิงให้โบคุมไป 20 ประตูเท่านั้น แต่มันก็เป็นจำนวนมากพอที่จะทำให้เขาคว้าดาวยิงสูงสุดของเมืองเบียร์ในปีนั้นมาครอง และนั่นน่าจะเป็นช่วงที่ชื่อเขาเป็นที่รู้จักของแฟนบอลมากที่สุดแล้ว

 

 

มุสซ่า โซว์ | ลีลล์

 

 

ดาวซัลโวฤดูกาล : 2010-11
จำนวน : 25 ประตู 

 

ในยุคก่อนที่ กลุ่มทุน กาตาร์ สปอร์ต อินเวสเม้นต์ จะเปลี่ยนให้ เปแอสเช กลายเป็นมหาอำนาจในแดนน้ำหอม ทีมแชมป์ในลีกเอิงก็มีการผลัดเปลี่ยนบ่อยครั้ง เช่นเดียวกับดาวซัลโวประจำฤดูกาลด้วย

 

แต่ปีที่น่าประหลาดที่สุดในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา คงเป็นฤดูกาล 2010-11 ที่ลีลล์ กลายเป็นม้ามืดคว้าแชมป์ลีกเอิง เหนือตัวเต็งอย่าง ลียง และ มาร์กเซย อีกทั้ง มุสซ่า โซว์ กองหน้าของทีมก็กลายร่างจากแข้งโนเนมเป็นดาวยิงสูงสุดในปีนั้นด้วย จำนวน 25 ประตู

 

แม้จะป้องกันในฤดูกาลต่อมาไม่ได้ กองหน้าชาวเซเนกัลก็ประสบความสำเร็จในตุรกีกับ เฟเนร์บาห์เช่ หลังย้ายมาร่วมทีมในปี 2012 และพาทีมคว้าแชมป์ลีก 1 สมัย และ เตอร์กิช คัพ 2 สมัย