27 ประตู 12 แอสซิสต์ จากการลงสนาม 37 นัดรวมทุกรายการ คือผลงานที่ ติโม แวร์เนอร์ สร้างไว้กับ แอร์เบ ไลป์ซิก ในฤดูกาลนี้ ซึ่งแน่นอนว่าตัวเลขดังกล่าวได้ไปเตะจมูกสโมสรบิ๊กเนมทั้งหลายเข้าอย่างจัง และในบรรดาสายตาที่จับจ้องเข้ามานั้น ลิเวอร์พูล คือทีมที่ดูเหมือนจะเข้าใกล้กับลายเซ็นของดาวยิงทีมชาติเยอรมันมากที่สุด
อย่างไรก็ตาม ระหว่าง แวร์เนอร์ กับหงส์แดงอาจมีอะไรที่ซับซ้อนมากกว่าแค่การซื้อกองหน้าระดับเวิร์ลคลาสเข้ามาสักคน แล้วคาดหวังว่าขวัญใจคนใหม่จะช่วยยกระดับทีมได้ทันที คำถามคือมันซับซ้อนยังไงล่ะ? วันนี้เราจึงจะพาทุกท่านมาส่องทุกแง่มุมของดีลที่เดอะ ค็อปรอคอยกัน
ทำไมถึงเหมาะกับหงส์
อ้างอิงข้อมูลจากเว็บไซต์ WhoScored ถ้าไม่นับเรื่องการจบสกอร์ที่เป็นเครื่องหมายการค้าอยู่แล้ว แวร์เนอร์ เป็นนักเตะที่มีความเร็วในการเข้าจู่โจมและเล่นเกมสวนกลับ , ชอบต่อบอลสั้นกับเพื่อนร่วมทีม , เก็บบอลในแดนหน้าได้ และมีทีเด็ดในการจ่ายบอลเข้าพื้นที่สุดท้าย ซึ่งเห็นได้ชัดว่าทั้งหมดลงล็อคกับแนวทางการเล่นของ ลิเวอร์พูล
นอกจากนี้ ราล์ฟ รังนิค อดีตกุนซือของแอร์เบ ไลป์ซิก ที่คลุกคลีกับ แวร์เนอร์ จนรู้จักฝีเท้าของแข้งรายนี้ทุกซอกทุกมุม ยังได้ช่วยยืนยันว่าเจ้าตัวนั้นใช่สำหรับหงส์แดงจริงๆ
“ลีกเป็นปัจจัยที่สำคัญน้อยกว่า แต่กับสโมสร จากมุมมองส่วนตัว ผมคิดว่ามันคงจะดีกว่าถ้าได้เห็นเขาไปอยู่ในมือของสโมสรที่ไม่ได้เน้นการครองบอล” หัวหน้าฝ่ายพัฒนากีฬาของเร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก บอกกับ Blid
“เนื่องจาก ติโม มีพัฒนาการภายใต้ ยูเลี่ยน นาเกลส์มันน์ เขาเป็นอาวุธที่สำคัญที่สุด อย่างไรก็ตาม เขาสามารถเปลี่ยนทิศทางการเคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็ว และจบสกอร์ได้อย่างทรงพลัง”
“ดังนั้น เขาจะเหมาะกับสโมสรอย่าง ลิเวอร์พูล ซึ่งมีสไตล์การเล่นที่คล้ายกับเรา แต่ผมก็อยากเห็นเขาอยู่ที่นี่มากกว่า”
ทีมของคล็อปป์จะได้อะไรบ้าง
แน่นอนว่าการมาของ แวร์เนอร์ จะช่วยเพิ่มมิติในเกมรุกให้กับ ลิเวอร์พูล เพราะเขาถือเป็นตัวปิดบัญชีขนานแท้ ซึ่งแตกต่างจาก โรแบร์โต้ เฟอร์มิโน่ ที่เป็นกองหน้าสไตล์ทำเกม หรือถ้าจะให้เรียกแบบเท่ๆหน่อยก็คือ “ฟอลส์ ไนน์” ขณะที่มหาเทพ ดิว็อค โอริกี้ แม้เจ้าตัวจะมีสไตล์การเล่นที่คล้ายกับหัวหอกอินทรีเหล็ก แต่คุณภาพของฝีเท้านั้นต้องบอกว่าเทียบกันไม่ได้เลย
ข้อดีอีกอย่างหนึ่งก็คือ การที่มีดาวยิงระดับ แวร์เนอร์ จ่อหลังอยู่ ยังเป็นการกระตุ้นไม่ให้สามประสานในแดนหน้าที่ครองตำแหน่งตัวจริงชะล่าใจด้วย
ปัจจัยที่อาจทำให้ชวดได้ตัว
ด้วยการที่ตัวนักเตะมีค่าฉีกสัญญากำกับไว้ (Sky Sports รายงานว่า 52 ล้านปอนด์ ขณะที่ Gazzetta dello Sport รายงานว่า 44 ล้านปอนด์) ทำให้งานนี้ขึ้นอยู่กับว่า เจอร์เก้น คล็อปป์ อยากได้ขนาดไหน? แล้ว แวร์เนอร์ จะยอมรับได้ไหมกับสถานะของตัวเองในทีม?
โมฮาเหม็ด ซาลาห์ , โรแบร์โต้ เฟอร์มิโน่ และ ซาดิโอ มาเน่ คือแนวรุกขั้นพระกาฬที่ได้รับการยกย่องว่ามีพลังทำลายล้างอยู่ในระดับท็อปของโลก แล้วจะมีเหตุผลอะไรให้ คล็อปป์ เลือกดรอปคนใดคนหนึ่งเพื่อเปิดทาง แวร์เนอร์ ดังนั้น จึงเป็นไปได้ยากที่เจ้าตัวจะได้รับโอกาสลงไปล่าตาข่ายอย่างสม่ำเสมอเหมือนตอนที่อยู่กับ แอร์เบ ไลป์ซิก และถ้าเป็นอย่างนั้น บางทีนายใหญ่ชาวเยอรมันอาจรู้สึกว่าเงิน 52 ล้านปอนด์ เป็นจำนวนที่มากเกินไปสำหรับนักเตะที่ไม่สามารถการันตีโอกาสลงสนามให้ได้
หากเจาะลึกลงไปกว่านั้น อดีตเด็กปั้นสตุ๊ตการ์ตไม่ได้แค่ต้องการที่ลงในแดนหน้า แต่เขาจำเป็นต้องได้เล่นตรงกลางที่ดาวเตะบราซิเลี่ยนครองสัมปทานอยู่ด้วย เพราะกองหน้าวัย 24 ปี จะเปล่งประกายถึงขีดสุดก็ต่อเมื่อได้ยืนเป็นตัวเป้า ดังนั้น ต่อให้ ลิเวอร์พูล เสีย ซาลาห์ หรือ มาเน่ ไปให้กับ เรอัล มาดริด การคว้า แวร์เนอร์ เข้ามาแทนก็ไม่ใช่ทางเลือกที่ฉลาดสักเท่าไหร่
“คำถามคือเขาจะเข้ากับ ลิเวอร์พูล ไหม? สำหรับผม เขาจะแข็งแกร่งที่สุดก็ต่อเมื่อเล่นตรงกลาง และได้ใช้อาวุธที่ยอดเยี่ยมที่สุดของตัวเองนั่นก็คือความเร็ว” อดีตกองกลางของลิเวอร์พูลอย่าง ดีทมาร์ ฮามันน์ ให้ความเห็นกับ Sky Sports
“ลิเวอร์พูล มีกองหน้าที่เล่นได้ดีอยู่แล้วอย่าง เฟอร์มิโน่ คนที่สามารถเชื่อมกับเพื่อนร่วมทีมได้อย่างยอดเยี่ยม ถ้า แวร์เนอร์ ไป ลิเวอร์พูล ผมคิดว่าจะได้เห็นเขาเล่นด้านกว้างมากกว่า แต่ตรงนั้นก็มีสองอาวุธหนักอย่าง มาเน่ กับ ซาลาห์ เล่นอยู่แล้ว”
“ถ้าในสามคนนั้นไม่มีใครบาดเจ็บหรือย้ายออกไป เขาจะไม่ได้ลงเล่น และผมไม่คิดว่านั่นคือสิ่งที่เขาต้องการ”
และในการพูดคุยกับ The Athletic ฮามันน์ ยังได้เน้นย้ำถึงความสำคัญเกี่ยวกับตำแหน่งของ แวร์เนอร์ ว่า “ผมไม่คิดว่าเขาจะเป็นนักเตะของ มิวนิค หรือ ลิเวอร์พูล สำหรับแนวทางที่พวกเขาเล่นอยู่ในเวลานี้”
“เขากำลังจะไปเล่นที่ไหน? เอาล่ะ ต่อให้ มาเน่ หรือ ซาลาห์ ย้ายออกไป ด้านกว้างก็ไม่ใช่ตำแหน่งของเขา ตำแหน่งของเขาคือกองหน้าตัวเป้า แนวทางที่พวกเขาเล่น มันอาจเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด”
“ผมแปลกใจนะที่ ฮานซี่ ฟลิค กระตือรือร้นอยากได้เขา เราเคยเห็นเขาเล่นด้านกว้างกับทีมชาติมาแล้วในบางเกม ซึ่งเขายังทำได้ไม่ดีพอ”
“คุณต้องใช้ทริค คุณต้องเอาชนะคู่แข่งด้วยการหลอกล่อ มันไม่ใช่เกมของเขา และผมจะแปลกใจมากหากเขาเลือกไปที่ มิวนิค”
โอกาสที่จะย้ายมา
แวร์เนอร์ พูดชัดเจนว่าอยากที่จะออกไปผจญภัยยังต่างแดนมากกว่าอยู่ค้าแข้งบนเวทีบุนเดสลีก้าต่อไป พร้อมตามหยอด ลิเวอร์พูล ชนิดที่มองจากดาวอังคารก็รู้ว่ามีใจให้ ส่วนทางฝั่งหงส์แดง ค่าฉีกสัญญาจำนวน 52 ล้านปอนด์ ก็ไม่ใช่ตัวเลขที่จะทำให้พวกเขาสะเทือนแต่อย่างใด
แต่ถึงกระนั้น เชื่อว่าท้ายที่สุดแล้ว แวร์เนอร์ จะให้ความสำคัญกับโอกาสลงสนามของตัวเองก่อนเป็นอันดับแรก และนี่คือสิ่งที่ยอดทีมจากเมอร์ซี่ไซด์เป็นรองยักษ์ใหญ่ทีมอื่นๆ ดังนั้น เป็นไปได้พอสมควรที่อนาคตของเจ้าตัวจะไปลงเอยกับสโมสรที่ต้องการกองหน้าจริงๆอย่าง บาร์เซโลน่า หรือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เว้นเสียแต่ว่า คล็อปป์ จะสามารถหาทางออกให้กับเรื่องนี้ได้
