เหมือนเกิดใหม่ : 9 อดีตแข้งพรีเมียร์ฯชื่อดังที่ย้ายไปปังใน MLS

 

ลีกลูกหนังในแดนลุงแซม หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ เมเจอร์ลีก ซ็อคเกอร์ เต็มไปด้วยอดีตนักเตะที่เคยค้าแข้งในพรีเมียร์ลีกมากมาย และมีแนวโน้มว่าจะค่อยๆเพิ่มขึ้นในอนาคตด้วย

 

แม้ว่าหลายคนจะมองว่า ลีกนี้เปรียบเหมือนกับสถานที่ที่เหมาะสำหรับแข้งวัยโรยรากำลังเข้าสู่ช่วงบั้นปลายอาชีพและเตรียมแขวนสตั๊ด หรือบรรดาแข้งที่ถูกลืมเลือนในควาทรงจำของแฟนบอล แต่ก็มีไม่น้อยเหมือนกันที่สามารถทำผลงานได้ยอดเยี่ยมและโดดเด่นเกินใครให้กับต้นสังกัด จนทำให้หลายคนต้องหันมามองอยู่เช่นกัน

 

ทาง UFA ARENA จึงขออาสาพาทุกท่านไปพบกับ 8 อดีตแข้งจากลีกสูงสุดแดนผู้ดีชื่อดังที่ย้ายไปปังใน MLS กัน

 

 

นานี่ (ออร์แลนโด้ ซิตี้)

 

 

นับตั้งแต่ย้ายออกจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อ 5 ปีก่อน นานี่ก็กลายเป็นแข้งพเนจรในยุโรปอยู่พักใหญ่ โดยย้ายไปอยู่กับทีมต่างๆได้ไม่เกิน 2 ปีเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็น สปอร์ติ้ง ลิสบอส,เฟเนร์บาห์เช่, บาเลนเซีย, ลาซิโอ และ ย้ายกลับมาสปอร์ติ้ง อีกครั้ง

 

แต่เมื่อช่วงเดือนกุมภาันธ์ปีนี้ ปีกแดนฝอยทองได้เซ็นสัญญา 3 ปี กับ ออร์แลนโด้ ซิตี้ และค้นพบว่านี่คือสถานที่ที่เข้าตามหามานาน เมื่อแข้งวัย 32 ปีกลับมาโชว์ฟอร์มเก่งได้อีกครั้ง โดยยิงไป 12 ประตู และทำไป 10 แอสซิสต์ ทำให้เขากลายเป็นผู้เล่นคนแรกของออร์แลนโด้ ที่ยิงและจ่ายถึงเลข 2 หลักได้ในฤดูกาลเดียว

 

 

คาร์ลอส เวล่า (แอลเอ เอฟซี)

 

 

ไม่น่าเชื่อว่าหลังจากที่ อดีตแข้งอาร์เซน่อล อย่าง คาร์ลอส เวล่า ย้ายมาค้าแข้งในแดนมะกัน เขาจะทำผลงานได้อย่างโดดเด่นในสีเสื้อของ แอลเอ เอฟซี และยิงประตูกระจายแซงหน้าหัวหอกคนอื่นๆในลีกไปในทันที

 

และในเกมล่าสุดที่เอาชนะ โคโลราโด้ ราปิดส์ ได้ 3-0 แข้งชาวเม็กซิกันก็ทำแฮตทริกได้ พร้อมกับทำลายสถิติเป็นนักเตะที่ยิงประตูต่อฤดูกาลได้มากที่สุดในเมเจอร์ ลีก ซ็อคเกอร์ที่ 34 ประตู แซงหน้าสถิติของ โจเซฟ มาร์ติเนซที่ยิงไป 31 ประตูในฤดูกาลก่อน

 

 

ซลาตัน อิบราฮิโมวิช (แอลเอ กาแล็คซี่)

 

 

แม้สถิติในฤดูกาลนี้จะเป็นรองแค่ คาร์ลอส เวล่า เท่านั้นในการทำประตู (29 ประตู จาก 28 นัด) แต่ถ้านับสถิติทั้งหมดตั้งแต่ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ย้ายมาค้าแข้งกับ แอลเล กาแล็คซี่ เขาซัดไป 51 ลูกจากลงเล่น 55 นัดเลยล่ะ

 

ปัจจุบัน อดีตหัวหอกทีมชาติสวีเดนได้มีข่าวลือสุดเซอร์ไพรซ์ว่าอาจย้ายไปค้าแข้งกับ โบคา จูเนียร์ ยอดทีมดังในอาร์เจนติน่า โดยที่ จอร์จ อันโร่ ผู้อำนวยการสโมสรได้เผยว่า แข้งวัย 37 ปีมีความต้องการย้ายมาเล่นให้โบคาฯจริง ร่วมถึงสโมสรก็พร้อมที่จะดึงเขามาโชว์ฝีเท้าในแดนฟ้าขาวด้วยเช่นกัน

  

 

คาร์เลส กิล (นิว อิงแลนด์ เรโวลูชั่น)

 

 

คาร์เลส กิล คือหนึ่งในนักเตะที่ถูกลืมว่ายิงประตูสุดสวยได้ในพรีเมียร์ลีกได้ แต่น่าเศร้าที่หลายคนมักจะจดจำเขาได้ว่าเป็นหนึ่งในแข้งแอสตัน วิลล่า ชุดตกชั้นเมื่อฤดูกาล 2015-16

 

ในช่วงระหว่างปี 2016-2019 กิลได้กลับไปค้าแข้งที่ สเปน บ้านเกิด กับ เดปอร์ติโบ ก่อนจะย้ายมาค้าแข้งกับ นิว อิงแลนด์ เรโวลูชั่น ด้วยค่าตัว 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

 

และด้วย 10 ประตู กับ อีก 14 แอสซิสต์ ทำให้แข้งวัย 26 ปี ได้รับการโหวตให้เป็นนักเตะยอดเยี่ยมประจำสโมสรในฤดูกาลนี้ไปครอง และได้รับการโหวตจากแฟนบอลเรโวลูชั่นให้เป็น แข้ง MVP ของปีอีกด้วย

 

 

เวย์น รูนี่ย์ (ดีซี ยูไนเต็ด)

 

 

หลังจาก ประเดิมในลีกแดนลุงแซมกับ ดีซี ยูไนเต็ด ได้เหมือนฝัน แต่ช่วงเวลาที่ เวย์น รูนี่ย จะโชว์ฝีเท้าใน เมจอร์ลีก ซ็อคเกอร์ คงใกล้จะถึงเวลาสิ้นสุดแล้ว เมื่อเขาได้ยืนยันว่าจะย้ายกลับไปอังกฤษ ประเทศเกิดเพื่อเล่นให่กับ ดาร์บี้ เค้าท์ตี้ ในปีหน้า

 

และตั้งแต่มีการประกาศเรื่องออกไปอย่างเป็นทางการ ฟอร์มของอดีตกองหน้าแมนเชสตอร์ ยูไนเต็ดก็ตกลงพอสมควรจนยิงประตูไม่ได้เลย และยังได้รับใบแดงเป็นใบที่ 2 ในฤดูกาลอีก 

 

อย่างไรก็ตาม สถิติต่างในฤดูกาลก็ยังน่าประทับใจ เพราะใน 28 นัดที่ คุณพ่อลูก 4 ยิงไป 11 ประตู และทำไป 8 แอสซิสต์ ซึ่งตัวเลขที่สูงใช้ได้ แม้อันดับของ ดีซี ยูไนเต็ด จะไม่ดีนักหลังหล่นลงมาอันดับ 5 ของลีกฝั่งตะวันออกในตอนนี้

 

 

โจซี่ย์ อัลติดอร์ (โตรอนโต้ เอฟซี)

 

 

แฟนบอลชาวอังกฤษ โดยเฉพาะแฟนบอลซันเดอร์แลนด์ คงไม่เข้าใจว่าทำไมตอนที่ โจซี่ย์ อัลติดอร์ ค้าแข้งกับทีมแมวดำ 2 ปี ถึงทำได้แค่ประตูเดียวในลีก แต่กลับยิงได้ถึงเลข 2 หลักเกือบทุกฤดูกาลในลีกที่ค้าแข้งกับ โตรอนโต้ เอฟซี ตั้งแต่ปี 2015 (ยิงได้ 7 ประตูในฤดูกาล 2018)

 

 และในฤดูกาลนี้ หัวหอกชาวมะกันก็ทำผลงานได้น่าดูชม หลังยิงไป 11 ประตู กับ 8 แอสซิสต์ ช่วยให้ต้นสังกัดรั้งอันดับ 4 ของลีกฝั่งตะวันออก ได้ไปเล่นรอบเพลย์ออฟในศึกไฟนอลแน่นอน แม้จะเหลือการแข่งขันในลีกปกติอีก 1 นัดก็ตาม

 

 

เซบาสเตียน บลังโก้ (พอร์ทแลนด์ ทิมเบอร์ส)

 

 

เซบาสเตียน บลังโก้ กลายเป็นกองกลางตัวหลักในทีม พอร์ทแลนด์ ทิมเบอร์ส ตั้งแต่ปี 2017 แต่จะมีกี่คนที่จำได้ว่าเขาค้าแข้งอยู่ในพรีเมียร์ลีกกับ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ได้ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกใจอะไรที่หลายคนจะลืมไปแบบสนิทใจ เพราะเขาลงเล่นให้ เดอะ แบ็กกี้ส์ แค่ 3 นัดและลงเล่นรวมกันแค่ 36 นาทีเท่านั้น

 

แต่อดีตแข้งทีมชาติอาร์เจนไตน์ในปัจจุบันก็มีชีวิตค้าแข้งที่สดใสกว่าครั้งก่อนแล้ว โดยในฤดูกาลนี้ บลังโก้ แอสซิสต์ให้กับเพื่อนร่วมทีมไป 11 ครั้ง ซึ่งเท่ากับฤดูกาลก่อน แถมยังทำประตูได้อีก 5 ลูกด้วย ช่วยให้ทีมเข้าเล่นเพลย์ออฟเรียบร้อย

 

 

วิโต้ มานโน่เน่ (มินเนโซต้า ยูไนเต็ด)

 

 

เชื่อว่าหลายคนคงไม่รู้ว่า วิโต้ มานโน่เน่ ได้ย้ายมาเฝ้าเสาให้กับ มินเนโซต้า ยูไนเต็ด ด้วยสัญญายืมตัวจาก เร้ดดิ้ง ต้นสังกัดจริงๆของเขาท่านั้น แต่กลับกลายเป็นว่า นายทวารชาวอิตาเลี่ยนได้แฟนคลับไปเพียบเลยกับช่วงเวลาที่อยู่ในเมเจอร์ ลีก ซ็อคเกอร์ ฤดูกาลนี้

 

มินเนโซต้า ยูไนเต็ดรั้งอันดับที่ 4 ในลีกฝั่งตะวันตก และเสียประตูน้อยที่สุดเป็นอันดับ 3 ในลีก ซึ่งการเข้ามาของ มือกาววัย 31 ปีทำให้เกมรับของทีมแข็งแกร่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

 

นอกจากนี้ ออปต้า ยังบันทึกว่า มานโน่เน่ เซฟประตูไปถึง 37 ครั้งในเดือนกันยายนที่ผ่านมา มากกว่านายทวารคนอื่นในลีกถึง 10 ครั้งเลย

 

 

โจวานนี่ ดอส ซานโตส (แอลเอ กาแล็คซี่)

 

 

หลังยุค ดาวิด เบ็คแฮม และ ก่อนหน้า ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ตัวของ โจวานนี่ ดอส ซานโตส ถือเป็นดาวเด่นประจำทีมแอลเอ กาแล็คซี่ หลังย้ายมาค้าแข้งที่นี่ในปี 2015 

 

แม้เขาจะคว้าแชมป์กับสโมสรไม่ได้เลยตลอด 3 ปีที่อยู่ใน ลอส แองเจลลิส แต่แข้งแดนจังโก้ก็พาทีมเข้ารอบตัดเชือกของ ศึกยูเอส โอเพ่น คัพ เป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี เมื่อฤดูกาล 2016 และยังติดทีมรวมดาวเด่นของ MLS 2 ปีซ้อนในฤดูกาล 2016 และ 2017 ด้วย

 

ปัจจุบันอดีตแข้งสเปอร์สที่ถูกสโมสรแดนมะกันปล่อยตัวเมื่อช่วงมีนาคมในปีนี้ ได้กลับไปค้าแข้งในกับ อเมริกา สโมสรดังในเม็กซิโก