เห็นแววมานาน : 5 รอยร้าวก่อนถึงทางแยกระหว่าง ทูเคิ่ล และ เปแอสเช

 

แม้จะเหลือสัญญาอีกแค่ 6 เดือน แต่ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ก็ตัดสินใจปลด โธมัส ทูเคิ่ล ออกจากตำแหน่งผู้จัดการทีมเรียบร้อยในวันคริสมาสต์ อีฟ และกลายเป็นหนึ่งในข่าวใหญ่ของวงการลูกหนังในตอนนี้

 

กุนซือชาวเยอรมัน ถือว่าประสบความสำเร็จกับการคุมทีมเมืองหลวงแดนน้ำหอมพอสมควร ทั้งคว้าแชมป์ลีกเอิง ได้ 2 สมัยติด, แชมป์ เฟรนช์ คัพ กับ เฟร้นช์ ลีก คัพ อย่างละสมัย รวมถึงพาทีมเข้าชิง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เป็นหนแรกในประวัติศาสตร์สโมสรด้วยเมื่อฤดูกาลก่อน  

 

อย่างไรก็ตาม หลายคนต่างคาดการณ์ไม่มีผิดว่าทางแยกระหว่าง ทูเคิ่ล และ เปแอสเช ต้องมาถึงในไม่ช้า เนื่องจากความสัมพันธ์ของเขากับสโมสรย่ำแย่ลงเรื่อย ๆ พร้อมกับมีข่าวกุนซือหน้าใหม่อยู่ตลอดเวลา นับตั้งแต่เข้ามาคุมทีมในเดือนมิถุนายนปี 2018 

 

ทาง UFA ARENA จึงขอพาไปพบกับ 5 ร้อยราวที่ทำให้ ทูเคิ่ล ต้องเก็บข้าวออกจากถิ่น ปาร์ค เดส์ แพรงส์ ระหว่างฤดูกาล 2020-21

 

 

ช่วง 9 เดือนแรก | ความล้มเหลวแรก

 

 

ในฤดูกาลแรกที่ ทูเคิ่ล กุมบังเหียน เปแอสเช เต็มไปด้วยเรื่องดีแย่ผสมปนแปกันไป แม้ทีมแสดงให้เห็นว่ามีสไตล์การเล่นที่น่าดึงดูด เน้นเกมรุก อย่างเช่นในเกมที่พวกเขาเอาชนะ ลิเวอร์พูล 2-1 ทำให้แฟนบอลปารีเซียง ดูมั่นใจว่าเขาคือคนที่เหมาะสมกว่า อูไน เอเมอรี่ อย่างมาก แต่ความรู้สึกนั้นก็ค่อย ๆ เลื่อนลางลงไป

 

ณ วันที่ 6 มีนาคม ปี 2019 เปแอสเช กลายเป็นตัวตลกในสายตาแฟนบอลทีมอื่นๆ อีกครั้ง เมื่อพวกเขาตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายในศึกแชมเปี้ยนส์ลีก ให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วยกฏประตูทีมเยือน ทั้ง ๆ ที่ออกนำไปก่อนในเกมแรก 2-0 แม้จะคว้าแชมป์ลีกได้ตามคาด แต่ ก็ชวดแชมป์ เฟรนช์ คัพ และ เฟรนช์ ลีก คัพ ในปีนั้น 

 

 

ซัมเมอร์ปี 2019 | ลูกทีมเริ่มตั้งคำถาม

 

 

จากผลงานที่น่าผิดหวังในบอลยุโรป และบอลถ้วยในประเทศ 2 รายการ ทูเคิ่ล ก็ยังได้รับโอกาสให้คุมทีมต่อไปตามสัญญาจนถึงปี 2021 แต่ผู้เล่นขาใหญ่ในทีมบางรายก็เริ่มออกมาวิจารณ์การทำทีมของ กุนซือชาวเยอรมัน บ้างแล้ว รวมถึงสื่อท้องถิ่นอย่าง เลอ ปารีเซียง ก็วิจารณ์ในปี 2019 ว่าผู้เล่นในทีมรู้สึกสับสนเนื่องจากเทคติกที่ขาดความชัดเจน รวมถึงการให้โอกาส จูเลี่ยน ดรักซ์เลอร์ น้อยเกินไปด้วย

 

ซัมเมอร์นั้นยังได้เห็นการกลับมาของ เลโอนาร์โด้ ผู้บริหารที่เคยมีส่วนร่วมอย่างมากในการสร้าง เปแอสเช ให้ยอดสโมสรเบอร์ต้น ๆ ในยุโรปเมื่อหลายปีก่อน  อีกทั้งเขามีความผูกพันกับเจ้าของกาตาร์และเป็นส่วนสำคัญในการตัดสินใจของทีม ซึ่งนั่นเป็นสาเหตุให้มีความกังวลเกี่ยวกับ อนาคตของ ทูเคิ่ล ว่าจะอยู่กับทีมต่อไปหรือไม่

 

 

กุมภาพันธ์ปี 2020 | ดราม่าเอ็มบัปเป้

 

 

 เปแอสเช อาจเริ่มต้นฤดูกาล 2019-20 ได้อย่างยอดเยี่ยม ทั้งรั้งจ่าฝูงลีกเอิง, คว้าแชมป์รอบแบ่งกลุ่มแชมเปี้ยนส์ลีก เหนือ เรอัล มาริด แต่รูปแบบการเล่นที่แย่ลง ทำให้ แฟน และ สื่อ เริ่มตั้งคำถามเกี่ยวกับความสามารถในการพัฒนาทีมของ ทูเคิ่ล ที่พึ่งพาดาวเตะอย่าง เนย์มาร์ และ คีเลี่ยน เอ็มบัปเป้ มากเกินไป   

 

แต่ที่แย่ไปกว่านั้นคือการที่ ดาวยิงทีมชาติฝรั่งเศส เริ่มแข็งข้อกับกุนซือชาวเยอรมัน เมื่อในเกมพบ มงต์เปลิเย่ร์ กุนซือเปแอสเช เปลี่ยนตัว เอ็มบัปเป้ ออกก่อนชั่วโมงแรกของเกม เพื่อพักสำหรับเกมยุโรปจะพบกับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ แต่ หอกเลือดน้ำหอม ออกอาการไม่ปลื้มอย่างชัดเจน ซึ่งกลายเป็นตัวอย่างความสัมพันธ์ที่ไม่ค่อยราบรื่นนักระหว่างทั้งสอง และมีให้เห็นอยู่เรื่อยมาหลังจากนั้น

 

วิธีจัดการนักเตะข้างสนามก็ยังถูกตั้งคำถามจากผู้เล่นในทีม ความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับนักเตะคนสำคัญอย่าง เนย์มาร์ ก็ไม่ได้ดีเช่นเมื่อก่อน แต่ปัญหาของ ทูเคิ่ล กับ เอ็มบัปเป้ ทำให้สโมสรเริ่มหมดความมั่นใจในความสามารถของเขาไปแล้ว

 

 

ตุลาคมปี 2020 | พิพาทออกสื่อกับ เลโอนาร์โด้

 

 

ปัญหาไม่ลงรอยระหว่าง ทูเคิ่ล และ เลโอนาร์โด้ กลายเป็นข่าวลือที่มีมาอย่างยาวนานในวงการสื่อลูกหนังแดนน้ำหอม แต่เรื่องราวต่าง ๆ ถูกแพร่ออกมาสู่สาธารณะจริง ๆ ในช่วงกันยายน เมื่อ ติอาโก้ ซิลวา, เอดินสัน คาวานี่ 2 แข้งอาวุโสลาทีมหลังหมดสัญญา แต่ไม่มีการหาตัวแทนมาเสริม เนื่องจากสโมสรได้รับผลกระทบทางการเงินจากโควิด-19 ซึ่งจุดนี้ทำให้ กุนซือเมืองเบียร์ออกมาตั้งคำถามเกี่ยวกับความทะเยอทะยานของสโมสรว่า “ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป เราคงไม่ได้พูดถึงเป้าหมายเดียวกันแล้วล่ะ”

 

เลโอนาร์โด้ ที่ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการกีฬาสโฒสร เมื่อได้ยินคำพูดของ ทูเคิ่ล ก็ไม่พอใจอย่างชัดเจน และกล่าวหลังเกมที่ชนะ อองเช่ร์ ว่า “เราไม่ชอบความคิดเห็นนั้นเลย สโมสรไม่ชอบ ผมเองก็ไม่ชอบ ถ้ามีใครไม่พอใจก็ง่าย ๆ คุยกันได้ไม่มีปัญหา แต่ถ้าเราตัดสินใจจะอยู่ต่อ เราต้องเคารพนโยบายของสโมสร กฏและแนวทางของสโมสร”

 

ทูเคิ่ล อาจได้นักเตะเพิ่มในช่วงท้ายตลาดทั้ง มอยเซ่ คีน, ดานิโล่ และ ราฟินญ่า แต่คำพูดที่ออกมาจากปากของ ผู้อำนวยการสโมสรก็ชัดเจน และ ตรงประเด็น ว่าทั้งคู่ไม่น่าจะกลับมาร่วมงานกันได้แล้ว หากแยกทางกันจริง ๆ

 

 

ธันวาคมปี 2020 | ฟอร์มห่วยพาชะตาขาด

 

 

ช่วงครึ่งฤดูกาลล่าสุด น่าผิดหวังพอสมควร เนื่องจากความทะเยอทะยานอย่างมากของสโมสร แม้ว่าปัจจัยต่าง ๆ จาก โควิด และ ตารางแข่งที่ถี่กว่าปกติทำให้เกิดอาการล้าและบาดเจ็บของนักเตะ แต่ฟอร์มการเล่นของ เปแอสเช ถือว่าน่ากังวลไม่น้อย เมื่อเทียบกับมาตรฐานของพวกเขา จนนำมาสู่ช่วงท้าย ๆ ของ ทูเคิ่ล กับ ยอดทีมแดนน้ำหอม

 

หลังผ่านไป17 เกมในลีกเอิง เปแอสเช รั้งอันดับ 3 อีกทั้งยังแพ้ให้กับ โอลิมปิก มาร์กเซย และ โอลิมปิก ลียง ในรังตัวเอง แม้พยายามกระเสือกกระสนจนรั้งตำแหน่งจ่าฝูงแชมเปี้ยนส์ลีกรอบแบ่งกลุ่มได้ แต่ผลงานโดยรวมก็ยังสร้างความกังวลให้กับบรรดาผู้บริหารของสโมสร ทำให้มีการตัดสินใจอย่างเป็นเอกฉันท์ว่า ทูเคิ่ล ไม่ได้รับการสนับสนุนให้ทำหน้าที่ผู้จัดการทีมอีกต่อไป

 

มากไปว่านั้น บทสัมภาษณ์ในวันพุธ หนึ่งวันก่อนถูกปลด อดีตกุนซือ ดอร์ทมุนด์ได้กล่าวกับ Sport1 สื่อโทรทัศน์เมืองเบียร์ แบบหมดเปลือกว่า “สโมสรอย่าง เปแอสเช มีอิทธิพลมากมายที่ไปไกลเกินกว่าผลประโยชน์ของทีม ผมรักฟุตบอลและในสโมสรแบบนี้มันไม่เกี่ยวกับฟุตบอลเสมอไป ที่นั่นผมพูดกับตัวเองว่า ‘แต่ผมอยากเป็นแค่โค้ช’ “

 

ไม่ต้องสงสัยเลยว่านอกเหนือจากฟอร์มการเล่น คำพูดของ ทูเคิ่ล เองก็มีส่วนทำให้ตัวเองต้องว่างงานส่งท้ายปีด้วยเช่นกัน