แข้งกลายพันธุ์! 8 นักเตะเคยเล่นกับทั้งการท่าเรือและบีจีปทุม

 

สองสโมสรเต็งแชมป์ศึก โตโยต้า ไทยลีก ซีซั่น 2020 อย่าง การท่าเรือ เอฟซี และ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด มีโปรแกรมลงสนามพบกันวันเสาร์นี้ ซึ่งทั้งคู่ถือเป็นทีมที่มีการเสริมได้อย่างน่าสนใจก่อนออกสตาร์ทฤดูกาลใหม่ รวมไปถึงช่วงพักเบรคเลี่ยงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

 

อีกประเด็นที่น่าสนใจไม่แพ้กันก็คือ มีผู้เล่นหลายรายเคยค้าแข้งให้กับทั้งสองทีมมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็น ธนบูรณ์ เกษารัตน์, บดินทร์ ผาลา, สุมัญญา ปุริสาย หรือแม้กระทั่ง เจนรบ สำเภาดี ซึ่งทุกคนเคยผ่านการลงเล่นให้กับสองสโมสรมาแล้ว

 

โดยวันนี้ UFAARENA จะขอพาไปดูกันว่า เหล่านักเตะชื่อดังที่เคยลงเล่นให้กับทั้ง การท่าเรือ เอฟซี และ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด มีใครกันบ้าง และพวกเขาเหล่านั้นประสบความสำเร็จกับต้นสังกัดทั้งสองมากน้อยแค่ไหน เพื่อเป็นการโหมโรงก่อนที่เกมนัดสำคัญสัปดาห์นี้ จะเริ่มต้นขึ้น

 

 

ธนบูรณ์ เกษารัตน์

การท่าเรือ เอฟซี 2019 – ปัจจุบัน / บีจี ปทุม ยูไนเต็ด 2018 – 2019

 

แข้งสารพัดประโยชน์ซึ่งสามารถเล่นได้ทั้งตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรับ และเซ็นเตอร์แบ็ค ถือเป็นนักเตะที่เคยอยู่กับทีมใหญ่ในศึกไทยลีก มาแล้วมากมาย อาทิ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด, สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด รวมไปถึง บีจี ปทุม ยูไนเต็ด และ การท่าเรือ เอฟซี

 

โดยผลงานของ ธนบูรณ์ เกษารัตน์ สมัยอยู่กับ “เดอะ แรบบิท” เขามีส่วนสำคัญพาสโมสรเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศฟุตบอลถ้วย โตโยต้า ลีก คัพ 2018 ทว่ากลับอกหักพ่าย เชียงราย ยูไนเต็ด 1 – 0 แต่สิ่งที่น่าผิดหวังยิ่งกว่านั้นคือ บีจี ปทุม พลาดท่าตกชั้นจากลีกสูงสุดครั้งแรกในประวัติศาสตร์แบบไม่เคยมีใครคาดฝัน ก่อนพวกเขาใช้เวลาแค่เพียงปีเดียวเท่านั้นคว้าแชมป์ไทยลีก 2 พร้อมกลับขึ้นมาเล่นไทยลีก 1 ได้ทันที

 

กระทั่งปี 2019 ธนบูรณ์ ถูกปล่อยร่วมทัพ การท่าเรือ เอฟซี ซึ่งฟอร์มโดยร่วมยังถือว่าทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร สาเหตุมาจากอาการบาดเจ็บที่รบกวนต่อเนื่อง ส่งผลให้เขาต้องนั้งเป็นตัวสำรองอยู่บ่อยครั้ง แต่ยังมีส่วนช่วยให้ทีมผงาดแชมป์ ช้าง เอเอฟ คัพ มาครองได้สำเร็จ และเชื่อมั่นได้เลยว่ากองกลางวัย 26 ปี จะเป็นกำลังคัญของ “สิงห์ท่า” ในการลุ้นแชมป์ลีกสูงสุดของเมืองไทย แน่นอน

 

 

บดินทร์ ผาลา

การท่าเรือ เอฟซี 2018 – ปัจจุบัน / บีจี ปทุม ยูไนเต็ด 2014 – 2016

 

ปีกพรสววรค์สูงอย่าง บดินทร์ ผาลา เริ่มต้นค้าแข้งฟุตบอลอาชีพกับ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด เมื่อปี 2014 ซึ่งเวลานั้นเขาเป็นหนึ่งในดาวรุ่งน่าจับตามองมากที่สุดเช่นเดียวกับ ธนาสิทธิ์ ศิริผลา อีกหนึ่งอดีตเด็กเทพแห่งทัพ “กระต่ายแก้ว”

 

โดยตลอด 3 ซีซั่นในถิ่น ลีโอ สเตเดี้ยม บดินทร์ ลงสนามให้กับสโมสร 50 นัด พร้อมกับยิง 7 ประตู ก่อนถูกปล่อยไปอยู่กับทีมใหญ่อย่าง สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ต่อด้วย บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และสามารถก้าวขึ้นมาติดทีมชาติไทย ได้สำเร็จ

 

จนมาถึงปี 2018 บดินทร์ ผาลา ถูก “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ คว้าตัวมาอยู่ การท่าเรือ เอฟซี ซึ่งเขาสามารถยึดตำแหน่งตัวจริงของทีมได้ทันที พร้อมโชว์ผลงานยอดเยี่ยมตลอด 2 ฤดูกาลที่ผ่านมา มีส่วนสำคัญพา “สิงห์คลองเตย” คว้าแชมป์ เอเอฟ คัพ ซีซั่น 2019 มาครองอย่างยิ่งใหญ่

 

 

ธนาสิทธิ์ ศิริผลา

การท่าเรือ เอฟซี 2020 – ปัจจุบัน / บีจี ปทุม ยูไนเต็ด 2012 – 2016

 

ปีกตัวจี๊ดวัย 25 ปี ได้รับฉายาจากแฟนบอลว่า “เต๋าดินโญ่” เนี่องด้วยเขามีหน้าตา และสไตล์การเล่นที่ละม้ายคล้ายคลึงกับสุดยอดตำนานนักเตะระดับโลกอย่าง โรนัลดินโญ่ เจ้าตัวเริ่มต้นอาชีพการค้าแข้งกับ บางกอกกล๊าส เอฟซี หรือชื่อเดิมของ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด เมื่อปี 2012 ด้วยวัยแค่เพียง 16 ปี ธนาสิทธิ์ ศิริผลา ได้รับโอกาสลงเล่นในศึกไทย และถูกยกย่องให้เป็นดาวรุ่งที่น่าจับตามองมากที่สุด

 

โดยผลงานของ ธนาสิทธิ์ ตลอดระยะเวลาที่เขาอยู่กับทีมดังย่านคลอง 3 ลงสนามทั้งหมด 59 นัด ยิง 5 ประตู มีส่วนช่วยสโมสรคว้าแชมป์ มูลนิธิไทยคม เอฟเอ คัพ ปี 2014 มาครอง กระทั่งปี 2016 “เจ้าเต๋า” ถูกปล่อยตัวให้กับ สุพรรณบุรี เอฟซี ก่อนย้ายมาร่วมทัพ “สิงห์ท่าเรือ” เมื่อช่วงต้นฤดูกาล 2020 ที่ผ่านมา และได้รับโอกาสลงเล่นให้ทีมไปแล้ว 6 เกมรวมทุกถ้วย

 

 

เจนรบ สำเภาดี

การท่าเรือ เอฟซี 2019 / บีจี ปทุม ยูไนเต็ด 2020 – ปัจจุบัน

 

ศูนย์หน้าดีกรีเหรียญทองฟุตบอล ซีเกมส์ 2 สมัย อย่าง เจนรบ สำเภาดี ย้ายจาก เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด มาอยู่ การท่าเรือ เอฟซี เมื่อปี 2019 ด้วยสัญญายืมตัว พร้อมกับได้รับโอกาสลงสนามให้กับยอดทีมย่านคลองเตย 20 เกมรวมทุกรายการ พร้อมกับยิงอีก 3 ประตู ทว่าผลงานโดยรวมถือว่ายังไม่ค่อยน่าประทับใจเท่าควร

 

กระทั่งล่าสุดหัวหอกวัย 25 ปี ถูก บีจี ปทุม ยูไนเต็ด คว้าตัวมาเสริมทัพเมื่อช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ด้วยสัญญาซื้อขาดภาวร ซึ่งแน่นอนว่าเขาจะเป็นกำลังสำคัญของขุนพล “เดอะ บลูแมชชีน” สำหรับการไล่ล่าแชมป์ โตโยต้า ไทยลีก สมัยแรกของสโมสรในฤดูกาลนี้แน่นอน

 

 

สุมัญญา ปุริสาย

การท่าเรือ เอฟซี 2019 / บีจี ปทุม ยูไนเต็ด 2020 – ปัจจุบัน

 

กองกลางตัวรุกวัย 33 ปี เคยอยู่ค้าแข้งในถิ่น แพท สเตเดี้ยม เมื่อซีซั่น 2019 หลังย้ายมาจาก ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด พร้อมกับทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ลงสนามไปทั้งหมด 19 นัด ยิง 5 ประตู พร้อมกับทำอีก 4 แอสซิสต์ และสามารถพาสโมสรคว้าแชมป์ ช้าง เอฟเอ คัพ ครั้งแรกในรอบ 1 ทศวรรรษ

 

หลังจบฤดูกาล 2019 แข้งวัย 32 ปี ตัดสินใจย้ายทีมอีกครั้งมาอยู่กับ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด น้องใหม่ศึก โตโยต้า ไทยลีก ซีซั่น 2020 โดยตลอด 4 เกมที่ผ่านมา สุมัญญา ปุริสาย โชว์ฟอร์มได้อย่างร้อนแรง และกลายเป็นกำลังสำคัญในเกมรุกของ “เดอะ แรบบิท” ไปแล้วเรียบร้อย

 

 

ประวีณวัช บุญยงค์

การท่าเรือ เอฟซี 2017 / บีจี ปทุม ยูไนเต็ด 2011 – 2018

 

ปราการหลังดีกรีทีมแชมป์ฟุตบอล ซีเกมส์ 2013 เริ่มต้นค้าแข้งฟุตบอลอาชีพกับ บางกอกกล๊าส เอฟซี เมื่อปี 2011 ก่อนก้าวขึ้นมาเป็นตัวจริงในถิ่น ลีโอ สเตเดี้ยม พร้อมมีส่วนพาขุนพล “กระต่ายแก้ว” คว้าแชมป์ มูลนิธิไทยคม เอฟเอ คัพ สมัยแรกของสโมสรมาครอง

 

โดยระหว่างที่ ประวีณวัช บุญยงค์ ยังมีสัญญาอยู่กับ บีจี เจ้าตัวเคยถูกปล่อยไปอยู่กับ การท่าเรือ เอฟซี แบบยืมตัว 1 ปี เมื่อฤดูกาล 2017 อย่างไรก็ตามแข้งวัย 30 ปี ได้รับโอกาสลงสนามให้กับ “สิงห์เจ้าท่า” แค่เพียง 3 นัดเท่านั้น

 

 

ฮิโรโนริ ซารูตะ

การท่าเรือ เอฟซี 2014 – 2015 / บีจี ปทุม ยูไนเต็ด 2010 – 2013

 

สุดยอดแนวรุกระดับตำนานชาวญี่ปุ่น ของ “เดอะ แรบบิท” ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมให้กับยอดทีมย่านคลองรังสิต ตลอด 3 ซีซั่นที่เขาอยู่กับสโมสรระหว่างปี 2010 – 2013 ด้วยผลงานลงสนาม 120 นัดรวมทุกรายการ ยิง 30 ประตู และสามารถพาทีมเข้าชิงฟุตบอลถ้วย มูลนิธิไทยคม เอฟเอ คัพ ฤดูกาล 2013 ก่อนแพ้ให้กับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ไปแบบขาดลอย 1 – 3

 

จากนั้นปี 2014 ฮิโรโนริ ซารูตะ ย้ายข้ามฝากมาอยู่กับอีกหนึ่งสโมสรยักษ์ใหญ่อย่าง การท่าเรือ เอฟซี และโชว์ฟอร์มได้อย่างน่าประทับใจตลอด 2 ฤดูกาล ในถิ่น แพท สเตเดี้ยม หลังลงสนามไปทั้งหมด 62 นัด พร้อมกับยิง 6 ประตู ให้กับ “สิงห์คลองเคย”

 

 

เลอันโดร เด โอลิเวียร่า

การท่าเรือ เอฟซี 2013 – 2014 / บีจี ปทุม ยูไนเต็ด 2015

 

สุดยอดดาวยิงชาวแซมบ้า เจ้าของฉายา “คิงเลอันโดร” เคยอยู่กับ การท่าเรือ เอฟซี เมื่อปี 2013 พร้อมระเบิดฟอร์มสุดยอดด้วยการซัดไปถึง 24 ประตู พาสโมสรคว้าแชมป์ ไทยลีก ดิวิชั่น 1 (ไทยลีก 2) พร้อมของตำแหน่งดาวซันโวซีซั่นดังกล่าวได้สำเร็จ

 

จากนั้นในปี 2015 เลอันโดร เด โอลิเวียร่า ถูก บางกอกกล๊าส เอฟซี ดึงไปร่วมทีมเพื่อลงเล่นศึก เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบเพลย์ออฟ ทว่าท้ายที่สุดเจ้าตัวไม่สามารถพาสโมสรผ่านเข้าสู่รอบแบ่งกลุ่มได้สำเร็จ ขณะเดียวกันฟอร์มโดยรวมของหัวหอกชาวบราซิล กับ “เดอะ แรบบิท” ก็ถือว่าค่อนข้างน่าผิดหวัง หลังเขาได้รับโอกาสลงสนามให้กับทีมแค่เพียง 9 นัด และยิงแค่เพียง 2 ประตูเท่านั้น