แข้งทองฝังเพชร : รวมทีม 11 แข้งค่าตัวแพงที่สุดในโลก

 

หลังจากดีลของเนยมาร์กับปารีส แซงต์ แชร์กแมง ในปี 2017 ตลาดลูกหนังได้ผันผวนและปั่นปวนไปจากเดิมหลายเท่าตัวในตลอด 2 ปีที่ผ่านมา นักเตะหลายคนกลับมีค่าตัวกระโดดขึ้นไปแตะทะลุ 100 ล้านยูโรแบบไม่น่าเชื่อ

 

และล่าสุดดีลของ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ ที่ย้ายจากเลสเตอร์ ไปร่วมทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำให้เขากลายเป็นกองหลังที่มีค่าตัวแพงที่สุดในโลกในทันที รวมถึงทำให้เขาสามารถเข้าไปอยู่ในทีมที่มีค่าตัวสูงที่สุดในโลกอีกด้วย

 

ทาง UFA ARENA จึงขอเกาะกระแสกองหลังป้ายแดงของปีศาจแดง ด้วยการจัดทีมที่ค่าตัวแพงที่สุดในโลก โดยเลือกวางระบบ 4-3-3 ไว้ แต่จะมีใครอยู้บ้างนั้น ติดตามได้ในบทความนี้กันเลย  

 

 

ประตู : เกป้า อาร์ริซาบาลาก้า (80 ล้านยูโร)

 

 

ก่อนหน้านี้ สถิตินายทวารที่แพงที่สุดของ จิอันลุยจิ บุฟฟ่อน ถูกทำลายลงด้วยค่าตัวของ อลิสซอน เบ็คเกอร์ มือกาวชาวแซมบ้า ที่ย้ายจากโรม่ามาลิเวอร์พูลด้วยค่าตัว 72.5 ล้านยูโร อย่างไรก็ตาม สถิตินี้ก็อยู่กับนายทวารหงส์แดงแค่ 4 อาทิตย์เท่านั้น

 

เกป้า อาร์ริซาบาลาก้า กลายเป็นผู้รักษาประตูคนใหม่ที่มีค่าตัวแพงที่สุดในโลก หลังย้ายจาก แอธเลติก บิลเบา มาเฝ้าให้เชลซีในปี 2018 ด้วยค่าตัวสูงถึง 80 ล้านยูโร และยังอยู่ยงคงกระพันมาถึงปัจจุบัน

 

 

แบ็คซ้าย : ลูคัส แอร์กน็องเดซ (80 ล้านยูโร)

 

 

ลูคัส แอร์กน็องเดซ สร้างชื่อให้ตัวเองในศึกฟุตบอลโลกปี 2018 หลังเป็นส่วนหนึ่งช่วยให้ทีมชาติฝรั่งเศสคว้าแชมป์ไปครอง จนกลายเป็นหนึ่งในตัวหลักของแอตเลติโก มาดริดหลังจากนั้น และด้วยความสามารถที่ยอดเยี่ยมทำให้ บาเยิร์น มิวนิค ยอมควักเงินกว่า 80 ล้านยูโร เพื่อกระชากแบ็คซ้ายเลือดน้ำหอมไปร่วมทีม

 

ด้วยเงินจำนวนนั้นทำให้ แอร์กน็องเดซ กลายเป็นนักเตะที่แพงที่สุดที่เสือใต้เคยคว้ามาร่วมทีม แต่ราคานั้นก็พอเหตุสมผลอยู่ไม่น้อย เนื่องจากอดีตแข้งตราหมีสามารถขยับเข้ามาเล่นเป็นกองหลังตัวกลางได้ดีไม่แพ้ตำแหน่งฟูลแบ็คเลยล่ะ

 

 

เซ็นเตอร์แบ็ค : เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค (85 ล้านยูโร)

 

 

เวอร์จิล ฟาน ไดจ์คเป็นอีกหนึ่งแข้งที่ครองสถิติกองหลังค่าตัวแพงที่สุดในโลกมาเป็นเวลา 1 ปีกว่าๆ ก่อนที่จะเสียตำแหน่งนี้ไปให้กับ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ กองหลังป้ายแดงจากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในซัมเมอร์นี้

 

เพื่อลุ้นแชมป์อย่างเต็มตัว เจอร์เก้น คล็อปป์ ลงทุนจ่ายหนักให้กับเซาธ์แฮมป์ตันกว่า 85 ล้านยูโร เพื่อดึงตัวกองหลังชาวดัชต์มาเสริมแกร่งในถิ่นแอนฟิลด์เมื่อเดือนธันวาคมปี 2017 ซึ่ง ฟาน ไดจ์ค ก็พิสูจน์ว่าตัวเองเหมาะสมกับค่าตัวที่หงส์แดงจ่ายไปนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

  

 

เซ็นเตอร์แบ็ค : แฮร์รี่ แม็คไกวร์ (88 ล้านยูโร)

 

 

แข้งคนปัจจุบันที่รั้งตำแหน่งกองหลังค่าตัวแพงที่สุดในโลก แฮร์รี่ แม็คไกวร์ หลังบอกลาเลสเตอร์ เพื่อย้ายมาซบแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วยราคา 88 ล้านยูโร มากกว่า ฟาน ไดจ์ค ราวๆ 3 ล้านยูโร 

 

กองหลังชาวอังกฤษกลายเป็นเป้าหมายของทีมยักษ์ใหญ่ในบ้านเกิด หลังแจ้งเกิดอย่างเต็มตัวในฟุตบอลโลกปี 2018 และพาทีมสิงโตคำรามจบอันดับที่ 4 ในรายการนั้นได้เหนือความคาดหมาย ไม่แปลกใจที่ปีศาจแดงจะยอมทุ่มเงินมหาศาลเพื่อยกระดับทีมให้กลับไปอยู่ในจุดที่เคยเป็น

 

 

แบ็คขวา : ไคล์ วอล์คเกอร์ (53 ล้านยูโร)

 

 

ครั้งหนึ่ง นักเตะอย่าง ไคล์ วอล์คเกอร์ ก็เคยครองสถิติเป็นกองหลังที่แพงที่สุดตลอดกาลเช่นกัน หลังย้ายจาก ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ไปร่วมทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในปี 2017 ด้วยค่าตัวสูงถึง 56.7 ล้านยูโร (หากทำได้ตามเงื่อนไข)

 

แต่ทว่าสถิตินี้ก็อยู่ได้ไม่ถึงปี เมื่อลิเวอร์พูลไปคว้า เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค มาจากเซาธ์แฮมป์ตัน ในเดือนมกราคมปี 2018 ทำให้แบ็คชาวผู้ดีต้องร่วงจากตำแหน่งนี้ไปอย่างช่วยไม่ได้

  

 

กองกลางตัวรับ : โรดรี้ (70 ล้านยูโร)

 

 

ด้วยการที่แฟร์นานดินโญ่มีอายุมากขึ้น ทำให้แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต้องหาตัวแทนในตำแหน่งกองกลางตัวรับมาช่วยแบ่งเบาภาระและรับช่วงต่อในอนาคต ซึ่งคนๆนั้นก็คือ โรดรี้ มิดฟิลด์ตัวตัดเกมหนุ่มจากแอตเลติโก มาดริด ที่มีค่าตัวสูงถึง 70 ล้านยูโร

 

ด้วยราคาที่เรือใบจ่ายให้กับตราหมี ทำให้โรดรี้ กลายเป็นนักเตะที่มีค่าตัวสูงที่สุดตลอดกาลของแมนฯซิตี้ นอกจากนี้ยังทำให้เขาเป็นนักตะสแปนิชที่มีค่าตัวแพงที่สุดเป็นอันดับ 2 รองจาก เกป้า นายทวารของเชลซีด้วย

 

 

กองกลาง : แฟรงกี้ เดอ ยอง (75 ล้านยูโร)

 

 

อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ทีมจากฮอนแลนด์ ฝ่าด่านยักษ์ใหญ่และผ่านเข้ามาเล่นในรอบตัดเชือกของแชมเปี้ยนส์ลีกได้อย่างเหนือความคาดหมาย หนึ่งในนั้นต้องขอบคุณฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมของ แฟรงกี้ เดอ ยอง ด้วยที่ช่วยให้แชมป์เอเรดิวิซี่มาไกลถึงเพียงนี้

 

ในช่วงเดือนมกราคมปี 2019 บาร์เซโลน่าจึงทำการเพื่อคว้าตัวกองกลางอนาคตไกลชาวดัชต์มาร่วมทีมโดยด่วน โดยจ่ายค่าเสียหายราว 75 ล้านยูโร บวกกับ 11 ล้านยูโร ในออปชั่นเสริม ก่อนจะย้ายมาร่วมทีมอาซูลกราน่าอย่างเป็นทางการในซัมเมอร์นี้

 

 

กองกลาง : พอล ป็อกบา (105 ล้านยูโร)

 

 

ในบรรดา 11 แข้งในทีมนี้ พอล ป็อกบา คือนักเตะที่มีประวัติย้ายทีมเก่าที่สุดตั้งแต่ปี 2016 เมื่อ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยอมจ่ายเงินถึง 105 ล้านยูโร เพื่อกระชากตัวแข้งลูกหม้อจากยูเวนตุส ที่พวกเขาเคยปล่อยไป 2-3 ปี ก่อนหน้านี้

 

ด้วยจำนวนเงินที่มากมายขนาดนนี้ ทำให้แข้งจอมตัดผมเป็นกองกลางที่มีค่าตัวแพงที่สุดโลกตลอดกาลและคงสถิตินี้มานานกว่า 3 ปีแล้ว

   

 

ปีกซ้าย : เนย์มาร์ (222 ล้านยูโร)

 

 

ดีลลูกหนังบรรลือโลกดีลนี้เกิดขึ้นในปี 2017 เมื่อปารีส แซงต์ แชร์กแมง ยอมจ่ายค่าฉีกสัญญาของเนย์มาร์ให้กับบาร์เซโลน่าที่มีมากถึง 222 ล้านยูโร ทำให้ดาวเตะชาวแซมบ้ากลายเป็นนักเตะคนแรกที่มีค่าตัวทะลุ 200 ล้านยูโรในวงการลูกหนังโลก และครองสถิติแข้งที่ค่าตัวแพงที่สุดเหนือนักเตะทุกคนบนโลกใบนี้ไปทันที

 

แต่ดูเหมือนช่วงเวลาอันหอมหวานในปารีสจะหมดลง เมื่อมีข่าวว่า แข้งวัย 27 ปีต้องการย้ายออกจากถิ่นปาร์ค เดอ แปรงซ์ หลังค้าแข้งมานาน 2 ปี โดยมีบาร์เซโลน่า ทีมเก่าของเขาเป็นตัวเต็งที่จะคว้าเนย์มาร์กลับไปอีกครั้ง

 

ปีกขวา : ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ (145 ล้านยูโร)

 

 

บาร์เซโลน่าได้ทำลายสถิติสโมสรอีกครั้งด้วยการคว้าตัว ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ จากลิเวอร์พูล ด้วยค่าตัวบวกเงื่อนไขต่างๆ 145 ล้านยูโรในปี 2018 ทั้งๆที่ปีก่อน พวกเขาเพิ่งคว้าตัว อุสมาน เดมเบเล่ จากโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ มาด้วยค่าตัว 105 ล้านยูโรก็ตาม

 

แต่น่าเศร้าที่ฟอร์มการเล่นของดาวเตะชาวแซมบ้าไม่เป็นไปอย่างที่แฟนบาร์ซ่าคาดหวังไว้ และไม่ได้สร้างความแตกต่างในทีมได้มากเหมือนตอนค้าแข้งกับหงส์แดง จนมีข่าวว่าเขาอาจจะลาถิ่นคัมป์ นู ในซัมเมอร์นี้

 

 

กองหน้า : คีเลียน เอ็มบัปเป้ (180 ล้านยูโร)

 

 

จู่ๆ ชื่อของ คีเลียน เอ็มบัปเป้ ก็กลายเป็นที่สนใจของแฟนลูกหนังทั่วโลก หลังโชว์ฟอร์มเด่นเกินวัยกับ โมนาโก จนพาทีมคว้าแชมป์ลีกเอิง รวมไปถึงพาทีมเข้าถึงรอบรองชนะเลิศในแชมเปี้ยนส์ลีก เมื่อฤดูกาล 2016-17 

 

นั่นทำให่ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ที่โดนโมนาโกตัดหน้าแย่งแชมป์ลีก ต้องเสริมแกร่งด้วยการคว้า กองหน้าดาวรุ่งมาร่วมทีม โดยยืมตัวก่อนในฤดูกาล 2017-18 ก่อนจะซื้อขาดด้วยราคา 180 ล้านยูโร ในปีต่อมา ทำให่เอ็มปัปเป้ กลายเป็นนักตะอายุน้อยที่สุดที่มีค่าตัวแพงที่สุดโลกไปโดยปริยาย