แข้งรักของทีมอื่น

คำว่า “ตำนาน” คนส่วนใหญ่มักนิยามถึงสุดยอดนักเตะที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม มีสถิติต่างๆ ที่น่าเชิดชู หรือไม่ก็เป็นประเภท “ซื่อสัตย์” ที่อยู่ค้าแข้งกับทีมเดียวมาแบบยาวนาน

 

อย่างไรก็ตามมันไม่ได้ตีความเป็นด้านบวกเสมอไป มีนักเตะประเภทตรงกันข้าม ผลงานก็ไม่ดี มีพฤติกรรมแปลกๆ ที่หากเอ่ยชื่อขึ้นมา พวกเขาเหล่านี้ก็แทบจะอยู่ในความทรงจำของแฟนบอลไม่ต่างกัน

 

นักเตะประเภทนี้เป็นพวกที่แฟนบอลตัวเองด่าเช้า ด่าเย็น แต่ในมุมตรงข้ามกับเป็นตัวตลก เป็นตัวโจ๊ก ที่แฟนบอลคู่แข่งมักเรียกหาอยู่เสมอ เรียกง่ายๆ ว่าเป็น “แข้งรักของทีมอื่น”

 

โดยเฉพาะพรีเมียร์ลีก ลีกที่มีแฟนบอลชาวไทยติดตามมากที่สุด ก็มีนักเตะแนวๆ นี้อยู่มากมาย เรียกได้ว่าเยอะชนิดที่แต่ละสโมสรส่งเข้าประกวดได้แบบไม่ขาดสาย

 

งานนี้เพื่อความบันเทิงของผู้อ่าน ทีมงาน ยูฟ่าอารีน่า ได้หวนรำลึกจัดทีม “แข้งรักของทีมอื่น” ไปดูวีรกรรมของแต่ละคนว่าทำไม คู่แข่งถึงได้เชียร์นักเชียร์หนาให้ลงสนาม

 

บอกเลยงานนี้รักพี่…เสียดายน้องแบบสุดๆ

**ผู้รักษาประตู**

 

– ลอริส คาริอุส (ลิเวอร์พูล)

 

จริงๆ ตำแหน่งนี้ชื่อแรกๆ ที่นึกถึงต้องมี มัสซิโอ ตาอิบี้ เจ้าของลูกลอดขาอันลือลั่น รวมถึง เดวิด เจมส์ นายทวารที่ถูกยกย่องว่าเฟอะฟะ ไม่แพ้ใครในโลกของพรีเมียร์ลีก

 

ทว่าอยากทันยุคทันสมัย กลัวเด็กใหม่อาจจะไม่รู้จักทั้งคู่ ดังนั้นจึงขออนุญาติเลือก ลอริส คาริอุส ที่น่าจะเป็นผู้รักษาประตูที่ฟีเว่อร์ที่สุดในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาจะดีกว่า

 

นายทวารเยอรมัน มีข้อผิดพลาดมากมายในสีเสื้อของ ลิเวอร์พูล โดยเฉพาะช็อตติดตาในแชมเปี้ยนส์ลีก นัดชิงชนะเลิศ เมื่อปี 2018 ทั้งการส่งบอลถวายพานให้ คาริม เบนเซม่า และการรับลูกยิงไกลของ แกเร็ธ เบล ปลิ้นเข้าประตู

 

ฉายา “อู๊ด” ไม่ได้มาเพราะโชคช่วย แถมทุกวันนี้พอมีผู้รักษาประตูคนไหนหมูหก เจ้าตัวก็ถูกพาดพิงมาตลอดว่า “เห้ย…โดย คาริอุส เข้าสิงแน่ๆ เลย”

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ karius

**กองหลัง**

– เจมี่ คาราเกอร์ (ลิเวอร์พูล)

 

ในสายตา “เดอะ ค็อป” หากเอ่ยชื่อของ เจมี่ คาราเกอร์ ต้องยอมรับว่าเสียงค่อนข้างแตก มีทั้งคนชอบ และไม่ชอบ ปะปนกันไป เพราะนี่คือนักเตะระดับตำนานที่รับใช้สโมสรมาอย่างยาวนานถึง 17 ปี

 

ทว่าหากมองในมุมคู่แข่งต้องเรียกว่า “ลูกรัก” เลยก็ว่าได้ ทุกๆ เกมที่ต้องเผชิญหน้ากับ ลิเวอร์พูล ทุกคนต้องภาวนาให้ “คาร่า” มีชื่อเป็น 11 ตัวจริง เพราะนี่แหละคือระเบิดเวลา ที่พร้อมสร้างความฮาให้กับคู่แข่งอยู่เสมอ

 

สถิติสกัดเข้าประตูตัวเองถึง 7 ประตูสูงที่สุดเป็นอันดับ 2 ในพรีเมียร์ลีก คือที่มาของฉายา “ไอ้เอ๋อ” ซึ่งคงไม่ต้องอธิบายให้มากความว่ามันแย่แค่ไหน

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ carragher jamie

– เวส บราวน์ (แมนฯ ยูไนเต็ด)

 

เวส บราวน์ หนึ่งใน 4 จตุรเทพ (ที่มี 5 คน) ของ “ปีศาจแดง” รวมกับ ดาร์เรน เฟลตเชอร์, จอห์น โอเช, คีแรน ริชาร์ดสัน และ มิคาเอล ซิลแวสต์ คือตำนานความฮาบนโลกโซลเชี่ยล ในยุค 2000 ที่แฟนบอลไม่มีวันลืมเลือน

 

“น้องน้ำตาล” จริงๆ เป็นกองหลังฝีเท้าดี แต่มักจะมีข้อผิดพลาดบ่อยๆ จนเป็นตัวตลก มีครบทั้ง วิ่งชน เตะวืด หรือแม้กระทั่งยิงประตูตัวเอง ช็อตวิ่งชนกันเองกับ ฟาเบียน บาร์กเตซ ในแชมเปี้ยนส์ลีก คือตำนานที่ถูกล้อไปจนรุ่นลูกรุ่นหลานก็ยังขำไม่หาย

 

อย่างไรก็ตามถึงแม้จะตลกในสายตาแฟนบอลทีมอื่น แต่ชีวประวัติของ เวส บราวน์ ถือว่าไม่ธรรมดา ดีกรีแชมป์พรีเมียร์ลีก 5 สมัย, เอฟเอ คัพ 2 สมัย, ลีก คัพ 2 สมัย แชมเปี้ยนส์ลีก 2 สมัย คนฟอร์มดีๆ บางคนยังไม่มีปัญญาจะเลียนแบบเลย

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ wes brown barthez

– ไตตัส บรัมเบิล (นิวคาสเซิ่ล)

 

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว “ไตตัส บรัมเบิล” ถูกจับตาว่าจะก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในสุดยอดกองหลังของวงการฟุตบอลอังกฤษ หลังเล่นได้อย่างยอดเยี่ยมกับ อิปสวิช จน นิวคาสเซิล ต้องทุ่มเงิน 5 ล้านปอนด์ ดึงมาร่วมทีม

 

อย่างไรก็ตามทุกอย่างกลับตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง กองหลังเจ้าของฉายา “แมวน้ำ” ถูกยกย่องให้เป็นตัวตลกในตำนานของพรีเมียร์ลีก เตะปลิ้น, ส่งคืนหลังเบา, บังบอลไม่มิด, โหม่งเข้าประตูเอง ครบทุกหลักสูตรของความเหวอ

 

การจับคู่ระหว่าง บรัมเบิล กับ ฌอง อแล็ง บูมซง คือ “หายนะ” ของจริง ไม่เชื่อถามแฟนบอล “สาลิกาดง” ได้เลย

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ titus bramble

– คาลิด บูลาห์รูซ (เชลซี)

 

กองหลังเจ้าของฉายา “เดอะ คานนิบาล” หรือ “มนุษย์กินคน” นับเป็นหนึ่งในดีลสุดล้มเหลวของ โจเซ่ มูรินโญ่ สมัยที่คุม เชลซี ยุคแรกๆ อย่างปฎิเสธไม่ได้

 

นอกจากเสื้อหมายเลข 9 ที่เปรี้ยวซ่าไม่เหมือนใคร ที่เหลือต้องบอกว่า บูลาห์รูซ หาทำยาดีอะไรไม่ได้เลย เป็นกองหลังที่รั่วและมั่วที่สุดเท่าที่ เชลซี เคยมีมาเลยอะไรประมาณนั้น

 

โดยเฉพาะหากได้เล่นในตำแหน่งแบ็กขวาที่เรียกได้ว่าเป็นตัวหายนะทีมตัวเองของจริง กองหลัง เชลซี ในยุค “จ่ามู” ที่ว่าแน่นหนา จอห์น เทอร์รี่ และ ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ ที่ว่าแน่ๆ เจอ บูลาห์รูซ ก็ไปไม่เป็นเหมือนกัน

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ khalid boulahrouz

– ฌิมี่ ตราโอเร่ (ลิเวอร์พูล)

 

จริงๆ ตำแหน่งแบ็กซ้ายมีตัวเลือกอีกคนที่น่าสนใจนั้นก็คือ อเล็กซ์ ซานโต๊ส แซมบ้าเรือเกลือของ อาร์เซนอล ที่แฟนบอลนิยามสั้นๆ ว่าโดนยอมแมวขายมานิหว่า

 

แต่เมื่อมาเทียบกับ ฌี่มี่ ตราโอเร่ ต้องบอกว่าชิดซ้ายไปเลย แบ็กร่างโย่งชาวฝรั่งเศส ถูกมองว่าเป็นกองหลังที่เหวอมากๆ ถึงขนาดเคยโดย ราฟาเอล เบนิเตซ ไล่ไปอาบน้ำในเกมนัดชิงแชมเปี้ยนส์ลีก กับ เอซี มิลาน ในปี 2005 เนื่องจากผลงานที่ไม่เป็นสับปะรดเอาเสียเลย

 

อย่างไรก็ตามที่เจ้าตัวถูกยกให้เป็นตำนานคงหนีไม่พ้น “ตราโอเร่เทิร์น” ที่ไปโชว์หมุนตัวหน้าเขตโทษจนบอลเข้าประตูตัวเองในเกมเจอ เบิร์นลี่ย ในเอฟเอ คัพ รอบ 3 ชนิดที่ ลิเวอร์พูล ต้องกระเด็นตกรอบไปแบบงงๆ

รูปภาพที่เกี่ยวข้อง

**กองกลาง**

 

– กรานิต ชาก้า (อาร์เซนอล)

 

พูดถึงชั่วโมงนี้หากจะหาดาวเตะสักคนที่โดนแฟนบอลตัวเองสวดยับที่สุดในพรีเมียร์ลีก เชื่อเหลือเกินว่าชื่อของ กรานิต ชาก้า จะต้องอยู่ในแรงก์บนๆ อย่างแน่นอน

 

มิดฟิลด์ทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ อาจจะกลายเป็นหนึ่งในบทเพลงของวง “เกสโนวา” หลังถูก แกรี่ เนวิลล์ นิยามว่าเป็นนักเตะประสบการณ์ ที่ไม่มีประสบการณ์ พร้อมที่จะทำผิดพลาดเดิมๆ ได้ในทุกๆ สัปดาห์

 

เหมือนอย่างที่เจ้าตัวไปเสียค่าโง่เสีย ซอน เฮือง มิน จนทีมเสียจุดโทษ ซึ่งมันไม่ใช่ครั้งแรก แต่เป็นหนที่ 5 แล้วที่เจ้าตัวโฉ่งฉ่างแบบนี้นับตั้งแต่ย้ายจาก โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค มาเมื่อปี 2016

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ xhaka penalty

– เจสซี่ ลินการ์ด (แมนฯ ยูไนเต็ด)

 

มหาเทพลินการ์ด เป็นนักเตะอีกคนที่นับตั้งแต่เปิดฤดูกาลมาโดนแฟนบอล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สับเละเทะ หลังยังคงทำผลงานได่อย่างคงเส้นคงวา คือไม่ยิง ไม่แอสซิสต์ยังไง ก็ยังคงไม่พัฒนาอยู่อย่างนั้น

 

ล่าสุดเจ้าตัวมีข่าวอยากสานเบอร์ตำนานอย่างหมายเลข 7 ที่เพิ่งว่างลงหลัง อเล็กซิส ซานเชซ ย้ายไปร่วมทีมอินเตอร์ มิลาน ในอิตาลี ก็โดนทั้งกูรูและแฟนบอลเบรกเอี๊ยดว่าไม่คู่ควรด้วยประการทั้งปวง

 

อันนี้ยังไม่นับรวมพฤติกรรมนอกสนาม ที่มักจะมีเรื่องฉาๆ รวมถึงเรื่องในสนามที่ทำตัวเหมือนเป็นซูเปอร์สตาร์ดัง ล่าสุดพับถุงเท้าหน้าแข้ง คงคิดว่าตัวเองเท่ห์จัด บอกเลยงานนี้แฟน “ผีแดง” หมั่นไส้ยิ่งกว่าเดิมขึ้นไปคูณสองเลย

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ lingard jesse

**กองหน้า**

 

– ยาย่า ซาโนโก้ (อาร์เซนอล)

 

นี่คือตำนาน “สากกระเบือ” ตัวจริงเสียจริงสำหรับ ยาย่า ซาโนโก้ หรือ “ซาโนโกล์” ตามที่แฟนบอล อาร์เซนอล เรียกเป็นสมญานามจากฟอร์มอันสุดทน

 

อดีตหัวหอกของ โอแซร์ พกดีกรีดาวยิงทีมชาติฝรั่งเศส ชุดยู-21 มาอยู่ในถิ่นเอมิเรตส์ สเตี้ยม ทว่าตลอด 4 ฤดูกาลเจ้าตัวยิงไม่ได้เลยในพรีเมียร์ลีก ก่อนลาทีมไปด้วยสถิติ 20 นัด 1 ประตูนับรวมทุกรายการ

 

จริงๆ แล้วต้องบอกว่า อาร์แซน เวนเกอร์ ตั้งใจที่จะปั่นเจ้าตัวมากๆ โดยเฉพาะช่วงแรกปีแรกในพรีเมียร์ลีก ทว่าลงยังไงก็ยิงไม่ได้ เข็นยังไงก็เข็นไม่ขึ้นจริงๆ ลงทีแฟนบอลแทบลุ้นกันตัวโก่งว่าจะมีประตูหรือเปล่า

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ yaya sanogo

– ดาวิด เอ็นก็อก (ลิเวอร์พูล)

 

เมื่อปี 2008 ราฟาเอล เบนิเตซ ยอมทุ่มเงิน 1.5 ล้านปอนด์ ดึงดาวยิงวัย 18 ปีอย่าง ดาวิด เอ็นก๊อก มาจาก ปารีส แซงต์ แชร์กแมง โดยหวังจะปั่นให้เป็นดาวเหมือนดาวยิงรุ่นพี่อย่าง นิโคลัส อเนลก้า หรือ เธียร์รี่ อองรี

 

แต่เรื่องราวกับไม่เป็นไปอย่างที่ “เอลบอส” คิด เพราะ เอ็นก๊อก ยิงได้แค่ 9 ประตูจากโอกาสลงสนามถึง 63 เกมในสีเสื้อ ลิเวอร์พูล แถมยังถูกล้อเป็นเรื่องตลกจากแฟนบอลทีมอื่นที่ให้ฉายาว่า “เอ็นก็อกแก๊ก”

 

อย่างไรก็ตาม เอ็นก็อก ก็ยังพอทำประโยชน์ให้กับทีมได้บ้าง หลัง “หงส์แดง” สามารถย้อมแมวขายต่อให้กับ โบลตัน วันเดอร์เรอร์ส ในราคา 4 ล้านปอนด์ ทำกำไรได้หน้าตาเฉยถึง 2.5 ล้านปอนด์

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ david ngog

– วินเซนต์ แยนส์เซ่น (สเปอร์ส)

 

“แมวเพชร” กูรูชื่อดังที่สถานปนาตัวเองเป็นแฟนบอลพันธ์แท้ของ ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ นิยามคุณศัพท์ของกองหน้าดัตช์แมนรายนี้สั้นๆ ว่า “หนึ่งในกองหน้าที่ห่วยที่สุดในพรีเมียร์ลีก”

 

ก่อนที่ แยนส์เซ่น จะย้ายมาค้าแข้งลีกผู้ดี อดีตกองหน้าของ อาแซด อัล์คมาร์ พกดีกรีดาวซัลโว เอเรดิวิซี่ลีก ฮอลแลนด์ โดยซัดไปถึง 27 ประตูในฤดูกาล 2015-16

 

ทว่าฟอร์มล่าประตูที่ดุร้าย ไม่เคยได้สำแดงเดชในพรีเมียร์ลีกเลย สถิติลงสนามให้ “ไก่เดือยทอง” 38 นัด ยิงได้ 6 ประตู ที่ส่วนใหญ่มากจากลูกจุดโทษบ่งชี้ได้ชัดเจนว่า “ห่วยจัด” เพียงไร

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ vincent janssen