เป็นใครมาจากไหน! ส่อง 6 แคนดิเดตเจ้าของเชลซีคนต่อไป

แคนดิเดตเจ้าของเชลซี

สถานการณ์ปัจจุบันของเชลซี หลังเสี่ยหมี โรมัน อับราโมวิช ต้องจำใจประกาศขายทีมที่เขาบริหารมานานกว่า 20 ปี เนื่องจากสถานการณ์การเมืองโลกที่ รัสเซียประกาศสงครามมรุกรานยูเครน ทำให้ในตอนนี้ สาวกสิงห์บลูยังไม่รู้ลูกผีลูกคนว่าจะได้ใครเขามาสานต่องานบริหารนี้ ซึ่งก็มีมหาเศรษฐีรายหลายที่ประกาศตัวให้ความสนใจกันมาแล้ว

วันนี้ UFAARENA จะพาไปดูบรรดาแคนดิเดตเจ้าของเชลซีคนต่อไปที่ทั้งมีโอกาสเทคโอเวอร์ และที่ยื่นข้อเสนอมาแล้ว ว่าแต่ละคนมีทรัพย์สินเท่าไร ทำธุรกิจอะไรกันบ้าง

 

ผู้ที่มีโอกาสยื่น

โธมัส ริคเก็ต

ธุรกิจ : Incapital LLC 

มูลค่าสุทธิ 1.74 พันล้านปอนด์

10 Things You Didn't Know About Cubs Owner Thomas S. Ricketts

มาเริ่มกันที่เจ้าของทีมเบสบอลในอเมริกาอย่าง ชิคาโก้ คลับ และเป็นผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Incapital LLC บริษัทหลักทรัพย์และการลงทุน ที่มีมูลค่าสุทธิอยู่ที่ 1.74 พันล้านปอนด์ สำหรับความเชื่อมโยงระหว่าง โธมัสและวงการฟุตบอล ค่อนข้างมีน้อยที่สุดในบรรดา แคนดิเดตทั้งหมดนี้ เนื่องจากเขาเคยมีความเกี่ยวโยงแค่การเป็นผู้ที่ให้ความสนใจเทคโอเวอร์ เอซี มิลาน เมื่อปี 2018 เพียงเท่านั้น

แม้ว่าเศรษฐีชาวมะกันจะมีมูลค่าสุทธิที่ค่อนข้างสูง แต่เมื่อวัดจากการบริหารทีมฟุตบอลที่เขามีอยู่ในปัจจุบัน ก็ต้องบอกว่าน่าเป็นห่วงอยู่แล้วเมื่อมี รายได้ติดลบอยู่ที่ 73 ล้านดอลล่าร์ในปีล่าสุด นอกจากนี้ปัจจุบันเจ้าตัวก็ไม่มีวี่แววที่จะสนใจลงทุนในฟุตบอลอีกต่อไปแล้ว

 

เซอร์จิม แรทคลิฟฟ์ 

ธุรกิจ : Ineos chemicals group

มูลค่าสุทธิ 6.33 พันล้านปอนด์

Who is Sir Jim Ratcliffe? Britain's richest man and Man Utd fan's net worth and salary - Mirror Online

ท่านเซอร์เงินถุงเงินถังผู้ที่ได้ชื่อว่าร่ำรวยที่สุดในเกาะอังกฤษ โดยเจ้าตัวเป็นผู้ก่อตั้งบริษัทเคมีภัณฑ์อย่าง Ineos chemicals group ที่มีฐานดำเนินการอยู่ในโมนาโก ซึ่งเจ้าตัวเป็นอีกหนึ่งคนที่คลั่งไคล้กีฬาฟุตบอลอย่างมาก และเคยมีข่าวว่าสนใจที่จะเทคโอเวอร์ทั้ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และเชลซี มาแล้วเมื่อปี 2019 แต่สุดท้ายก็ถอนตัวไปเนื่องจากสู้ราคาไม่ไหว

โดยในตอนนั้นเซอร์จิมได้ให้สัมภาษณ์ไว้ว่า “แม้ว่าสโมสรจะมีการประเมินมูลค่าในวันนี้ แต่ก็ไม่มีใครเคยจ่ายเงินจำนวนนั้นเลย อับราโมวิชจ่ายให้เชลซีไปเท่าไร 100 ล้านปอนด์? แล้วเกลเซอร์ละ 500 ล้านปอนด์? คุณสามารถพูดได้ว่ามีมูลค่าสามสี่พันล้าน แต่ไม่มีใครเคยจ่ายเงินจำนวนนั้น”

“Ineos พยายามใช้วิธีการที่เหมาะสมมาโดยตลอด เราไม่ชอบใช้เงินฟุ่มเฟือย มิฉะนั้น เราคงไม่มาถึงทุกวันนี้ มันเป็นส่วนหนึ่งของ DNA ของเราที่พยายามใช้จ่ายอย่างสมเหตุสมผล”

สุดท้ายเศรษฐีผู้ดีรายนี้ก็เลือกหันไปเทคโอเวอร์ นีซบนเวทีลีกเอิง ด้วยเงินจำนวน 91 ล้านปอนด์แทนและยังคงสถานะเป็นเจ้าของทีมมาจนถึงปัจจุบัน และถ้าจะพูดให้ถูกคือเจ้าตัวเป็นแฟนบอลตัวยงของปีศาจแดงมากกว่า เพียงแค่มีตั๋วปีของทางสิงห์บลูด้วยก็เท่านั้น

 

ล็อตฟี่ แมนซัวร์ 

ธุรกิจ : Mansour Group 

มูลค่าสุทธิ 5 พันล้านปอนด์

Loutfy Mansour — the rising son | Financial Times

มหาเศรษฐีจากอียิปต์ ที่เป็นผู้บริหารระดับสูงของ Mansour Group ซึ่งเป็นบริษัทที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศ โดยพวกเขาดำเนินธุรกิจในฐานะตัวแทนของทั้งแบรนด์ แม็คโดนัลด์ , เชฟโรเลต , เร้ดบูลส์ , UPS และ Imperial Brands นอกจากนี้ยังเป็นตัวแทนจำหน่ายของ General Motors ที่ใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย ซึ่งนี้เป็นแค่ส่วนนึงของธุรกิจที่พวกเขาทำเท่านั้น ซึ่งมูลค่าสุทธิอยู่ที่ราวๆ 5 พันล้านปอนด์ 

อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะเป็นผู้ซื้อที่มีกำลังทรัพย์หนาปึกแต่ทางโฆษกของเจ้าตัวเพิ่งออกมาเปิดเผยกับสื่อว่าไม่มีแผนในการซื้อยอดทีมจากกรุงลอนดอนในหนนี้ ซึ่งค่อนข้างเป็นเรื่องที่น่าเสียดายที่เศรษฐีเงินหนาจากแดนไอยคุปต์รายนี้ไม่ร่วมวงซื้อที่ เนื่องจากถ้าวัดกันในเรื่องความรักที่มีต่อทีม เขาเองก็รักสิงห์บลูไม่แพ้ใครจากการที่เป็นผู้ถือตั๋วปีของทีม

 

ผู้ที่ยื่นมาแล้ว

คอเนอร์ แม็คเกรเกอร์

ธุรกิจ : นักมวย MMA

มูลค่าสุทธิ 135 ล้านปอนด์

Tweets with replies by Conor McGregor (@TheNotoriousMMA) / Twitter

นักมวยชื่อดังชาวไอร์แลนด์ เป็นคนแรกๆหลังจาก โรมัน อับราโมวิช ประกาศขายทีม ที่ออกมาแสดงความสนใจเทคโอเวอร์ทัพสิงห์บลู และได้ยื่นข้อเสนอมาแล้วที่ 1.5 พันล้านปอนด์ แต่ก็ไม่ได้รับความสนใจจากสโมสรที่ตั้งราคาขายไว้ที่ระดับ 3 พันล้านปอนด์

อย่างไรก็ตามเมื่อมองไปที่ความมั่งคั่งทางการเงินของเจ้าตัว นอกจากการชกมวยกรงแล้ว ก็ไม่ได้ดำเนินธุรกิจใดๆ ทำให้ แม็คเกรเกอร์ ถือเป็นแคนดิเดตที่มีมูลค่าสุทธิน้อยที่สุดที่ 135 ล้านปอนด์เพียงเท่านั้น ส่วนความสนใจในเรื่องฟุตบอล กำปั้นเหล็กรายนี้ก็เคยให้ความสนใจเทคโอเวอร์ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาแล้วก่อนหน้านี้ แต่ก็พูดในเชิงหยอกเล่นกันเสียมากกว่า

 

ฮันส์ยอร์ก ไวส์

อดีตผู้ก่อตั้ง  Synthes Holding AG

มูลค่าสุทธิ 4 พันล้านปอนด์

Hansjörg Wyss Wife: Who was Hansjorg Wyss married to? - ABTC

ท็อดด์ โบห์ลี 

ธุรกิจ : Eldridge Industries

มูลค่าสุทธิ 5 พันล้านปอนด์

Todd Boehly Named Interim CEO of Hollywood Foreign Press Association - Variety

เศรษฐีชาวสวิส เป็นผู้ที่ออกตัวจริงจังเป็นรายแรกว่าจะเข้าเทคโอเวอร์ เชลซี โดยเขาเป็นผู้ก่อตั้ง Synthes Holding AG บริษัทผลิตเครื่องมือทางการแพทย์ด้านศัลยกรรมกระดูกที่ใหญ่ที่สุดในโลก ก่อนที่จะขายต่อไปให้กับ จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ไปแล้วเมื่อปี 2012 แต่ถึงอย่างนั้นตัวเขาเองก็ถูกประเมินว่ามีทรัพย์สินอยู่ที่ 4 พันล้านปอนด์

โดยเจ้าตัวได้ออกมาเปิดเผยถึงความสนใจเทคโอเวอร์ครั้งนี้ว่า “อับราโมวิช กำลังจะขายแมนชั่นของเขาในอังกฤษ และเขายังต้องการขาย เชลซี ให้เร็วที่สุด ผมกับคนอื่นๆ อีก 3 คน ได้รับข้อเสนอซื้อ เชลซี จาก อับราโมวิช ผมต้องรอสัก 4-5 วัน เพราะอับราโมวิช ตั้งราคาสูงมาก คุณรู้ไหม เชลซี ติดหนี้เขาอยู่ 2 พันล้านปอนด์ แต่ เชลซี ไม่มีเงิน จนถึงวันนี้ เรายังไม่ทราบราคาที่แน่ชัด”

อย่างไรก็ตาม ไวส์ ไม่ได้จะมาซื้อต่อสิงห์บลูเพียงคนเดียว แต่หันไปจับมือกับ ท็อดด์ โบห์ลี นักธุรกิจชาวอเมริกัน เจ้าของบริษัท Eldridge Industries ผู้ลงทุนด้านอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าอยู่ที่ 5 พันล้านปอนด์ นอกจากนี้ โบห์ลีเองก็มีการลงทุนกับธุรกิจกีฬาอีกหลายอย่างทั้ง แอลเอ เลเกอร์ส (บาสเกตบอล), แอลเอ ด็อดเจอร์ส (เบสบอล) และ แอลเอ สปาร์กส (บาสเกตบอลหญิง) อีกด้วย

 

มูห์ซิน บายรัค 

ธุรกิจ : AB Group Holding 

มูลค่าสุทธิ 8 พันล้านปอนด์

Turkish Billionaire Muhsin Bayrak Deal to Buy Chelsea 'Almost Done'

เจ้าสัวชาวตุรกีที่เรียกได้ว่าออกตัวแรงที่สุดสำหรับดีลนี้ กับการออกมาเปิดเผยว่าได้มีการตกลงดีลกันแล้ว และอยู่ในขั้นเจรจา บายรัค เป็นเจ้าของธุรกิจ AB Group Holding บริษัทก่อสร้างและการลงทุนในประเทศตุรกี รวมถึงอีกหลายประเทศอย่าง อิตาลี , สเปน และกรีซ

สำหรับตัวเลขที่เจ้าตัวยื่นไปยังไม่มีการเปิดผยออกมา แต่เศรษฐีจากแดนไก่งวงก็ได้ออกมาเคลมกับสื่อในประเทศตัวเองว่า เรากำลังเจรจาขอซื้อเชลซีจาก โรมัน อับราโมวิช ผ่านทางทีมกฏหมาย เราอยู่ในขั้นตอนการเจรจาเพื่อเซ็นสัญญา เราจะโบกธงตุรกีในลอนดอนในอีกไม่นาน เรายื่นข้อเสนอของเราไป เพราะสงครามระหว่าง รัสเซีย และยูเครน ซึ่งพวกเขาก็มองว่า ตุรกีจะปลอดภัยจากสงคราม พวกเขาอยากได้รับเงินก้อนโตจากการขาย”

“เรากำลังวางแผนที่จะเซ็นสัญญากันเร็วๆนี้” แม้ว่าหลังจากบทสัมภาษณ์นี้ออกมาจะยังไม่มีความคืบหน้าอื่นๆออกมาเลย แต่ในบรรดาแคนดิเดตทั้งหมดนี้ ก็เรียกได้ว่าเขาค่อนข้างมีความมั่นคงทางการเงิน รวมถึงความปลอดภัยในด้านสถานการณ์ทางการเมืองในขณะนี้ แม้ว่าจะไม่มีประสบการณ์ในการทำทีมฟุตบอลมาก่อนก็ตาม

ตั้งตัวไม่ทัน : ทำไมอับราโมวิชขายเชลซี?

อับราโมวิชขายเชลซี