ทีมชาติเวียดนาม เพิ่งสร้างความยิ่งใหญ่ด้วยการผงาดคว้าเหรียญทองในศึก ซีเกมส์ 2019 มาครองได้สำเร็จ หลังสามารถเอาชนะคู่แข่งในเกมนัดชิงชนะเลิศอย่าง อินโดนีเซีย ไปแบบขาดลอย 3 – 0 ซึ่งนี่ถือเป็นการคว้าแชมป์รายการนี้เป็นสมัยที่ 2 ของพวกเขา และเป็นครั้งแรกในรอบ 60 ปี เลยทีเดียว
ต้องยอมรับเลยว่า ทัพ “ดาวทอง” ลูกทีม ปาร์ค ฮัง ซอ โชว์ผลงานได้อย่างสวยหรูสุดๆ ตลอดทั้งทัวร์นาเมนต์ โดยพวกเขาไม่แพ้ให้กับคู่แข่งเลยแม้แต่เกมเดียว พร้อมกับไล่กระทุ้งตาข่ายฝั่งตรงข้ามไปถึง 24 ลูก จากการลงเล่นแค่เพียง 7 นัด ตั้งแต่เกมนัดแรกจนถึงนัดชิงชนะเลิศ และเสียประตูแค่เพียง 4 ลูกเท่านั้น
ความยอดเยี่ยมของ ปาร์ค ฮัง ซอ
เทรนเนอร์ชาวเกาหลีใต้ อย่าง ปาร์ค ฮัง ซอ พิสูจน์ความยอดเยี่ยมของตัวเองได้อีกครั้งหลังพาทีมชาติเวียดนาม ชุดอายุไม่เกิน 22 ปี ผงาดคว้าเหรียญทองศึก ซีเกมส์ 2019 มาครอง ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาต้องฝ่าฟันอุปสรรคมากมายทั้งก่อนและระหว่างลงเล่นในทัวร์นาเมนต์ดังกล่าว ทว่าท้ายที่สุดเจ้าตัวสามารถสร้างประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญได้สำเร็จ
อาการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นของ เหงียน กวง ไฮ ในเกมรอบแบ่งกลุ่ม ส่งผลให้เพลย์เมกเกอร์ตัวความหวังของทัพ “ดาวทอง” หมดสิทธิ์ลงสนามในแมตช์สำคัญที่เหลือให้กับทีมทันที อย่างไรก็ตามกุนซือโสมขาววัย 60 ปี ตัดสินใจแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นด้วยการเปลี่ยรูปแบบการเล่นใหม่ จากเดิมทีมของ ปาร์ค ฮัง ซอ จะเล่นในระบบ 3-4-3 ถูกเปลี่ยนมาเป็น 3-5-2 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในเกมรุกด้วยการใช้กองหน้าสองคน ทดแทนการหายไปของตัวทำเกมในแดนกลาง และแน่นอนว่าแผนที่เขาใช้กลายเป็นหนึ่งในจุดเปลี่ยนที่ทำให้พวกเขาก้าวไปถึงฝั่งฝันได้ในท้ายที่สุด
บทบาทสำคัญของผู้เล่นอายุเกิน
อยากที่รู้กันดีว่าในศึก ซีเกมส์ ที่ฟิลิปปินส์ เป็นเจ้าภาพคราวนี้ ได้มีการออกกฎใหม่ให้แต่ละชาติสามารถเรียกผู้เล่นอายุเกิน 22 ปี เข้ามาติดทีมได้ 3 คน ซึ่งแน่นอนว่าทัพ “มังกรทอง” คือหนึ่งในทีมที่เลือกใช้สิทธิ์ดังกล่าว และสองนักเตะที่พวกเขาตัดสินใจเรียกเข้ามาร่วมทัพด้วยโควต้าแข้งอายุเกินทั้ง เหงียน ตรอง ฮวง และ โด ฮุง ดุง ถือว่ามีบทบาทสำคัญที่ช่วยพา เวียดนาม ก้าวขึ้นไปคว้าแชมป์ได้สำเร็จ
โดยเฉพาะ โด ฮุง ดุง ในวัย 26 ปี เจ้าตัวเป็นคนรับหน้าที่สวมปลอกแขนกัปตันลงสนามแทน เหงียน กวง ไฮ ที่ต้องถอนตัวออกจากทีมเนื่องจากปัญหาอาการบาดเจ็บ พร้อมกับพิสูจน์ให้แฟนบอลได้เห็นว่าเขาคือกองกลาง Box To ox ที่ดีที่สุดของ เวียดนาม ในเวลานี้ ขณะเดียวกันดาวเตะวัย 30 ปี อย่าง เหงียน ตรอง ฮวง ทั้งความแข็งแกร่งและประสบการณ์ของเขาถือว่าช่วยทีมได้ไม่น้อยเลยทีเดียว
ทัพ “ดาวทอง” ประกาศศักดาเจ้าอาเซียน
ต้องยอมรับเลยว่าทีมชาติเวียดนาม คือหนึ่งในทีมที่โชว์ผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมตลอด 2 ปี ที่ผ่านมา โดยเฉพาะในระดับเอเชียซึ่งพวกเขาสร้างเซอร์ไพรส์คว้ารองแชมป์ศึก ชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี เมื่อช่วงต้นปี 2018 ส่วนผลงานในศึก เอเชียน คัพ 2019 ถือว่าทำได้ดีเกินคาดเช่นกัน หลังสามารถทะลุเข้าไปถึงในรอบ 8 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ
ขณะที่ในระดับอาเซียน ปาร์ค ฮัง ซอ สร้างความยิ่งใหญ่ด้วยการพาทีมคว้าแชมป์ เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2018 และเหรียญทองศึก ซีเกมส์ 2019 ซึ่งนั่นทำให้ทัพ “ดาวทอง” สามารถประกาศศักดาได้แบบสมศักดิ์ศรีว่าพวกเขาคือเจ้าแข้งวงการฟุตบอลในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างแท้จริง และเชื่อได้เลยว่าทีมชาติเวียดนาม ภายใต้การทำทีมของกุนซือชาวเกาหลีใต้ จะยังคงเป็นทีมที่แข็งแกร่งต่อเนื่องไปอีกตลอด 2 – 3 ปี ข้างหน้าแน่นอน
เจ้าซีเกมส์ อย่าง ไทย และ มาเลเซีย ผลงานต่ำกว่าที่คาด
หนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ทำให้ทีมชาติเวียดนาม สร้างความยิ่งใหญ่ด้วยการคว้าแชมป์ ซีเกมส์ 2019 ได้แบบผลงานสวยหรูสุดๆ คงปฏิเสธไม่ได้ว่ามันเป็นความโชคดีของพวกเขาส่วนหนึ่ง ที่สองชาติมหาอํานาจในรายการนี้อย่าง ทีมชาติไทย แชมป์ 16 สมัย และ ทีมชาติมาเลเซีย แชมป์ 6 สมัย โชว์ฟอร์มย่ำแย่กว่าในหลายๆ ครั้งที่ผ่านมา
โดยทางฝั่งทัพ “ช้างศึก” ลูกทีมของ อากิระ นิชิโนะ พลาดท่ากระเด็นตกรอบแรกไปอย่างน่าผิดหวัง หลังจากที่ในเกมสุดท้ายพวกเขาไม่สามารถเอาชนะทัพ “มังกรทอง” ได้สำเร็จ และต้องเก็บกระเป๋ากลับบ้านทันที ซึ่งนี่ถือเป็นการตกรอบแบ่งกลุ่มในทัวร์นาเมนต์นี้ครั้งแรกในรอบ 8 ปี นับตั้งแต่ ซีเกมส์ 2011 ที่ประเทศอินโดนีเซีย
ขณะเดียวกันทางฝั่ง มาเลเซีย รองแชมป์เก่าในรายการนี้ ฟอร์มในรอบแบ่งกลุ่มค่อนข้างน่าผิดหวังไม่แพ้กัน หลังพวกเขาเก็บไปได้แค่เพียง 4 คะแนน จากการลงเล่น 4 นัดเท่านั้น ทำให้ทัพ “เสือเหลือง” ต้องบอกลาจากศึก ซีเกมส์ ครั้งนี้ ไปอย่างรวดเร็วไปแพ้กัน
หนึ่งในทีมน่าจับตามองศึก ชิงแชมป์เอเชีย U23
ภายหลังจากที่ทีมชาติเวียดนาม สามารถคว้าเหรียญทองใน ซีเกม์ 2019 ได้สำเร็จ พวกเขามีโปรแกรมสำคัญต่อไปที่จะต้องลงเล่นในศึกฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ช่วงต้นปีหน้า โดยทัวร์นาเมนต์นี้ยังเป็นการคัดเลือกหา 3 ทีม จากทวีปเอเชีย ที่จะได้โควต้าลงเตะในศึก โอลิมปิก เกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ช่วงกลางปีนี้ด้วย
แน่นอนว่าด้วยความยอดเยี่ยมของขุนพลแข้ง “มังกรทอง” ภายใต้การทำทีมของ ปาร์ค ฮัง ซอ พวกเขามีโอกาสที่จะสร้างเซอร์ไพรส์ให้กับแฟนบอลในรายการแน่นอน และถึงแม้ว่า เวียดนาม อาจจะไม่ใช่ทีมที่แข็งแกร่งเทียบเท่ากับบรรดาทีมอื่นๆ ในระดับแถวหน้าของเอเชีย ทว่าพวกเขาเคยผ่านเข้าไปถึงรอบชิงชนะเลิศ และคว้ารองแชมป์ในรายการนี้มาแล้วเมื่อปี 2018