แดงหรือขาว?! : 6 อันดับดาวซัลโวศึกนอร์ธ ลอนดอน ดาร์บี้ในพรีเมียร์ลีก 

 

การพบกัน ของ อาร์เซน่อล และ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ถือเป็นหนึ่งในเกมดาร์บี้แมตช์ที่แฟนบอลทั่วโลกติดตามชมมากที่สุด และเป็นที่รู้จักกันในชื่อ ‘นอร์ธ ลอนดอน ดาร์บี้’  

 

ทั้ง 2 สโมสรต่างเป็นทีมอริร่วมเมืองที่ขับเคี้ยว ต่อสู้กันมาอย่างยาวนานตั้งแต่ช่วงต้นศตวรรษที่ 20 เป็นการแข่งขันที่เต็มไปด้วยความดุเดือดเลือดพล่านทุกครั้งยามที่ทั้งคู่ดวลฝีเท้ากันในสนาม และจัดเต็มเกินร้อยเพื่อให้ทีมของตนคว้าชัยชนะมาให้ได้

 

ซึ่งในศึกนอร์ธ ลอนดอน ดาร์บี้ ครั้งที่ 165 ของเกมลีก หลังปืนใหญ่เปิด เอมิเรสต์ สเตเดี้ยม เสมอกับ ไก่เดือยทอง ไปแบบสุดมันส์ 2-2 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

 

และด้วยจุดโทษของ แฮร์รี่ เคน หัวหอกขวัญใจยิด อาร์มี่ในเกมวันนั้น ทำให้เขากลายเป็น กลายเป็นดาวยิงสุดสุดในศึกดาร์บี้ลอนดอนเหนือเทียบเท่า เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ และ บ็อบบี้ สมิธ ที่ยิงไป 10 ประตูในทุกรายการที่พบกัน

 

แต่ทว่าหากนับเฉพาะในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่เพิ่งก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 1992 เพียวๆ ใครคือยอดดาวยิงในศึกดาร์บี้หยุดโลกกันแน่ๆ 

 

ทาง UFA ARENA ขอพาแฟนบอลทุกท่าน ไม่ว่าจะเป็น เดอะ กูนเนอร์ส, แฟนสเปอร์ส หรือ แฟนทีมอื่นนอกเหนือจาก 2 ทีมนี้ไปพบกับ  6 อันดับดาวซัลโวศึกนอร์ธ ลอนดอน ดาร์บี้เวอร์ชั่นพรีเมียร์ลีก ผ่านบทความนี้กัน

 

 

6.แกเร็ธ เบล (5 ประตู)

 

 

ปีกความเร็วสูงชาวเวลส์จากเรอัล มาดริด เริ่มต้นอาชีพค้าแข้งกับ เซาแธมป์ตัน ตั้งแต่เป็นแข้งเยาวชน ก่อนจะกลายเป็นแบ็คดาวรุ่งที่น่าจับตามองในช่วงทศวรรษที่ 2000 ปลายๆ และย้ายมาค้าแข้งกับ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ในปี 2007 

 

อย่างไรก็ตาม ในช่วงแรกที่ค้าแข้ง ณ ไวท์ ฮาร์ท เลน เขามักจะตราหน้าเป็นตัวซวยประจำทีมเสมอ เนื่องจากลงเล่นเมื่อไหร่ ทีมก็พบแต่ความปราชัยเสมอ จนกระทั่งฤดูกาล 2009-10 เบลเริ่มโชว์ฟอร์มการเล่นได้ขึ้นเรื่อยๆ จนถูกดันไปปีกซ้ายเพื่อเล่นเกมรุกเต็มตัว จนคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยม PFA ถึง 2 สมัย (2011, 2013) 

 

และฟอร์มที่เปล่งปลั่งแบบเด่นชัดทำให้ โลส บลังโกส คว้าตัวเบลไปร่วมทีมด้วยค่าตัวสถิติโลก ณ ตอนนั้นกว่า 85 ล้านปอนด์ และปัจจุบันยังคงค้าแข้งอยู่ใน ซานติอาโก้ เบอร์นาเบว แม้จะมีข่าวย้ายออกจากทีมในซัมเมอร์นี้ก็ตาม

 

 

5.โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ (5 ประตู)

 

 

RVP เป็นอีกหนึ่งกองหน้าที่เคยเป็นขวัญใจของแฟนปืนใหญ่ทั่วโลก และมีทักษะการจบสกอร์ที่เฉียบคมไม่แพ้ใคร โดยเฉพาะในฤดูกาล 2012-13 ที่เขาซัดไปถึง 37 ประตูในทุกรายการ ซึ่งเป็นสถิติทำประตูที่มากที่สุดต่อปีตลอดอาชีพค้าแข้งของเขา ก่อนจะย้ายไปคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมคู่อริร่วมลีกของอาร์เซน่อล ในปีถัดมา

 

แม้จะลาทีมเดอะ กันเนอร์ส ไม่สวยเท่าไหร่ แต่หลายหลากประตูที่หัวหอกชาวดัชต์ทำไว้ให้ทีม ก็น่าจะทำให้ เดอะ กูนเนอร์ส จดจำช่วงเวลาดีของเขากับทีมได้อยู่บ้าง อย่างเช่นในศึกนอรธ์ ลอนดอน ดาร์บี้ ที่ซัดไปถึง 5 ประตูตลอด 8 ปีที่ค้าในถิ่นไฮบิวรี่ และ เอมิเรสต์ สเตเดี้ยม

 

ปัจจุบัน อดีตดาวยิงเฟเยนูร์ดจะแขวนสตั๊ดเรียบร้อยหลังจบฤดูกาล 2018-19 และกำลังทำหน้าที่วิเคราะห์เกมใน BT Sports ช่องกีฬาชื่อดังจากอังกฤษอยู่

 

 

4.เธียร์รี่ อองรี (5 ประตู)

 

 

หนึ่งในกองหน้าระดับตำนานของอาร์เซน่อล เธียร์รี่ อองรี พาสโมสรจากลอนดอนเหนือคว้าแชมป์มาแล้วมากมายทั้ง พรีเมียร์ลีก (2 สมัย), เอฟเอ คัพ (2 สมัย) และ คอมมูนิตี้ ชิลด์ (2 สมัย) อีกทั้งยังทำสถิติเป็นดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของปืนใหญ่ด้วยจำนวน 228 ประตูในทุกรายการ รวมไปถึงรั้งอันดับ 5 ดาวยิงสูงสุดตลอดกาลของพรีเมียร์ลีกด้วย (175 ประตู)

 

สถิติต่างๆมากมายยังไม่หยุดอยู่แค่นั้น อองรีเป็นนักเตะที่คว้าร้องเท้าทองคำมากที่สุด 4 ครั้ง (2001-02, 2003-04, 2004-05 และ 2005-06) หรือ เป็นนักเตะคนเดียวในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีกที่ยิงได้เกิน 20 ประตู ถึง 5 ฤดูกาลติดต่อกันระหว่างฤดูกาล 2001-02 ถึง 2005-06

 

มากไปกว่านั้น 35 ทีมที่หัวหอกชาวฝรั่งเศสเคยพบในลีก มีแค่ สวอนซี ทีมเดียวเท่านั้นที่รอดพ้นจากการสังหารที่เขา ส่วนคู่อริร่วมเมืองอย่าง สเปอร์ส ก็โดนไปเน้นๆถึง 5 ประตูด้วยตลอด 8 ปีที่อยู่ในทีม

 

 

3.โรแบร์ ปิแรส (7 ประตู)

 

 

โรแบร์ ปิแรสคือแข้งดังอีกคนที่ช่วยให้อาร์เซน่อลและอาร์เซน เวนเกอร์ คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกแบบไร้พ่ายได้ในฤดูกาล 2003-04 ด้วยผลงานแบบนี้ไม่น่าเชื่อว่าขวบปีแรกที่เขามาค้าแข้งในแดนผู้ดีจะทำผลงานได้ย่ำแย่มากๆ 

 

เหตุผลที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะ ปีกจอมพริ้วแดนน้ำหอมยังไม่คุ้นชินกับการเข้าปะทะหนักในบอลอังกฤษ รวมไปถึงมีร่างกายที่บอบบางเกินไปหน่อย แต่ไม่นานนักเขาก็เริ่มปรับตัวและพัฒนาร่างกายให้แข็งแกร่งขึ้นจนพาทีมคว้าแชมป์ลีกได้ในฤดูกาล 2001-02 พร้อมกับทำแอสซิสต์มากสุดในลีกด้วย (15 ลูก)

 

และดูเหมือนว่า อดีตดาวเตะมาร์กเซยจะถูกโฉลกกับการเผชิญหน้าทีมคู่แค้นตลอดกาลของปืนใหญ่อย่างสเปอร์สอยู่ไม่น้อย เมื่อซัดไปถึง 7 ประตู โดยเฉพาะประตูชัยของปิแรสในเกมที่บุกไปเอาชนะไก่เดือยทองได้ถึง ไวท์ ฮาร์ท เลน ด้วยสกอร์ 4-3 ในเดือนพศจิกายนปี 2004 น่าจะเป็นที่จดจำของเหล่าสาวกปืนใหญ่ไปอีกนานแสนนาน

 

 

2.เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ (8 ประตู)

 

 

เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ เป็นนักเตะคนเดียวในลิสต์นี้ที่เคยค้าแข้งให้ทั้ง อาร์เซน่อล และ สเปอร์ส์ รวมไปถึงเป็นหนึ่งในนักเตะยิงประตูใส่ทั้ง 2 ทีม รวมกับ จิมมี่ โรเบิร์ตสัน แข้งตำนานของสเปอร์สในยุค 60 ด้วย

 

ในช่วงที่อองรีลาทีมไป หัวหอกชาวโตโกกลายเป็นความหวังคนใหม่ในการทำประตูร่วมกับ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ แต่ทว่าในปี 2009 อเดบายอร์ก็ถูกเหล่ากันเนอร์ส สาปส่ง และตีตราว่าเป็นพวกหน้าเงิน หลังย้ายไปค้าแข้งกับแมนชสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งก็ไม่ประสบความสำเร็จเท่าตอนอยู่ทีมเก่า

 

อีก 2 ปีถัดมา เขาย้ายกลับมาค้าแข้งในถิ่นลอนดอนเหนืออีกครั้ง เพียงแต่ว่าครังนี้ไม่ใช่ทีมสีแดงแต่เป็นทีมสีขาวแทน และถึงแม้จะยิงทีมเก่าได้เหมือนตอนค้าแข้งกับเรือใบสีฟ้า แต่ความยอดเยี่ยมก็ไม่ยืนยาวเหมือนตอนอยู่กับอาร์เซน่อลอยู่วันยังค่ำ

 

 

1.แฮร์รี่ เคน (10 ประตู)

 

 

หากนับเฉพาะพรีเมียร์ลีก ไม่มีนักเตะคนไหนที่ยิงประตูในศึกนอร์ธ ลอนดอน ดาร์บี้ ไม่มากกว่า แฮร์รี่ เคน อีกแล้ว หลังซัดจุดโทษในนัดที่สเปอร์สบุกไปเสมออาร์เซน่อลในบ้าน 2-2 และรวมประตูทั้งหมดที่ยิงใส่ปืนใหญ่ในรายการนี้ก็รวมถึง 10 ประตูแล้ว

 

แต่ถ้านับดาร์บี้ลอนดอนเหนือในทุกรายการที่พบกันแล้ว กองหน้าชาวอังกฤษก็ยังรั้งอันดับหนึ่งอยู่ดี เพียงแต่ไม่ได้เขาแค่คนเดียว เนื่องจาก เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ และ บ็อบบี้ สมิธ ก็ทำได้ถึง 10 ประตูเช่นเดียวกัน

 

อย่างไรก็ดี หัวหอกเบอร์หนึ่งของไก่เดือยทองยังอายุอานามแค่ 26 ปี ก็ยังมีโอกาสอีกมากที่เขาจะก้าวขึ้นไปเป็นดาวซัลโวเบอร์หนึ่งของศึกนอร์ธ ลอนดอน ดาร์บี้เพียงคนเดียว หากตัวเขาเองไม่ย้ายไปค้าแข้งกับทีมอื่นซะก่อน